อานิสงส์ "ฟุตบอลโลก" ดันยอดขายทีวี "แอลจี" โค้งสุดท้ายพุ่งทยาน

13 ธ.ค. 2565 | 12:17 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ธ.ค. 2565 | 19:46 น.

กระแส "ฟุตบอลโลก 2022" ดันดีมานด์ทีวีพรีเมียมพุ่งเสริมทัพยอดขาย "แอลจี" ช่วงไฮซีซั่นเติบโตโดดเด่นสอดรับพฤติกรรมผู้บริโภคต้องการทีวีจอใหญ่-ทุ่มซื้อ 4K ล่วงหน้ารับคอนเทนต์ความละเอียดสูงในอนาคต

 

ปฏิเสธไม่ได้ว่านอกจากการเป็นผู้นำตลาด “เครื่องซักผ้า” ที่สิ้นปีนี้จะเป็นปีที่ 23 ติดต่อกันที่"แอลจี" มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทย และเป็นปีแรกที่สามารถครองอันดับ 1 ของเครื่องซักผ้าทุก segment แล้ว อีกพอร์ตที่โดดเด่นรองลงมาสำหรับ "แอลจี" ก็คือ Home Entertainment product โดยมีเรือธงคือ ผลิตภัณฑ์ทีวี และทีวีที่เป็นไฮไลท์ของ  "แอลจี" และประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดก็คือ LG OLED ซึ่งปัจจุบันมีหลายขนาด หลายราคาให้ลูกค้าได้เลือก ในปีนี้ได้เปิด LG OLED ไซส์เล็ก 42 นิ้ว,48 นิ้วและไซส์ใหญ่พรีเมี่ยม 88 นิ้ว โดยในช่วงต้นปีหน้า"แอลจี"มีแผนจะเปิดตัวLG OLEDไซส์ใหญ่ 97 นิ้วอีกด้วย

นายอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด

นายอำนาจ สิงหจันทร์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีที่ "แอลจี" ประสบความสำเร็จอย่างมากด้วยการครองส่วนแบ่งการตลาดอันดับหนึ่งในทั้งสองกลุ่มผลิตภัณฑ์ ได้แก่ เครื่องซักผ้า มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 34% และผลิตภัณฑ์ทีวีระดับพรีเมียม มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 75% โดยมูลค่ารวมยอดขายของทั้งสองกลุ่มผลิตภัณฑ์อยู่ที่ 7,900 ล้านบาท

 

โดยในปี 2565 แอลจีได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้า และทีวีหลากหลายรุ่นเพื่อยกระดับการใช้ชีวิตของผู้บริโภคที่ดียิ่งขึ้น  สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้าของแอลจี ถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำสัดส่วนรายได้มากที่สุดจากทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยในปี 2565 แอลจีมียอดขายเครื่องซักผ้า 418,000 เครื่อง มูลค่า 4,160 ล้านบาท โดยผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้าฝาบนครองสัดส่วนมากที่สุดอยู่ที่ 46% ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้า 

อานิสงส์ "ฟุตบอลโลก" ดันยอดขายทีวี "แอลจี" โค้งสุดท้ายพุ่งทยาน

ในขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ทีวี แอลจียังคงครองสถานะผู้นำในกลุ่มทีวีพรีเมียมเป็นอันดับหนึ่งต่อเนื่อง 10 ปีซ้อนด้วยยอดขายผลิตภัณฑ์ทีวี LG OLED ซึ่งเป็นรุ่นพรีเมียมของแอลจี โดยในปี 2565 มียอดขายทีวีทั้งหมด 230,000 เครื่อง มูลค่ารวม 3,738 ล้านบาท แบ่งเป็นทีวี LG OLED ทั้งหมด 10,600 เครื่อง มูลค่า 520 ล้านบาท ทั้งนี้แอลจียังเล็งเห็นศักยภาพของตลาดทีวีพรีเมียม ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากสัดส่วนยอดขายทีวี OLED ของแอลจีซึ่งอยู่ที่ 75% ในปี 2565 เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาซึ่งเติบโตอยู่ที่ 37%  

 

และในปี 2565 ได้เปิดตัวไลน์อัพทีวีที่หลากหลาย เพิ่มตัวเลือกซีรีส์ใหม่ และขนาดที่หลากหลายขึ้น เพื่อเจาะกลุ่มทั้งลูกค้าระดับไฮเอนด์ไปจนถึงลูกค้าใหม่ที่ต้องการสัมผัสเทคโนโลยีการนำเสนอภาพที่มีประสิทธิภาพสูงของทีวีแอลจี ทั้งนี้ แอลจีตั้งเป้าขยายส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มทีวีรวมเป็น 23%

อานิสงส์ "ฟุตบอลโลก" ดันยอดขายทีวี "แอลจี" โค้งสุดท้ายพุ่งทยาน

“ ภาพรวมตลาดทีวีในปี 2019  ตกลงมาประมาณ 8% และใน 2020 ตกลงลงประมาณ 4.1%และ 2021 ตกลง 13.7% แต่ปีนี้น่าจะเป็นปีแรกที่จะได้เห็นตลาดทีวีเป็นเลขบวกราวๆ 1% เพราะในช่วงปลายปีเริ่มมีปัจจัยบวกเข้ามา โดยเฉพาะปีนี้เป็นครั้งแรกที่เราได้เห็นฟุตบอลโลกเตะในช่วงที่ไม่ใช่กลางปี ทำให้ช่วงปลายปีมีการกระตุ้นจาก “ฟุตบอลโลก” ทำให้เราเติบโตขึ้นถึง 10% โดยกลุ่มที่เติบโตมากที่สุดคือเซกเมนต์ทีวีพรีเมียม และไซส์ใหญ่ oled TV เติบโตประมาณประมาณ 30% ส่วนทีวีปกติหรือไซส์เล็กมีดีมาน์น้อยลง 

 

ช่วงหนึ่งเราเคยเชื่อว่าทีวีจะตกลงมาก แต่จริงๆเราจะเห็นว่าตลาดเริ่มกลับมาแล้ว เพราะพฤติกรรมคนเปลี่ยนคนต้องการจอใหญ่ 70 นิ้วขึ้นไป ขณะที่เทคโนโลยีและราคาเริ่มจับต้องได้ เพราะฉะนั้นผู้บริโภคต้องการทีวีจอใหญ่และมีความเป็นอเนกประสงค์มากขึ้นไม่ใช่แค่ใช้ดูทีวีแต่ต้องปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นใช้ประชุมหรือใช้เรียนออนไลน์ได้  ซึ่งผลิตภัณฑ์ ทีวี  90% ของแอลจีที่จำหน่ายอยู่ตอนนี้เป็น smart TV  ขณะที่ทีวีที่ขายอยู่ 73% ในตลาดเป็น 4K  และแปลจีเองจำหน่ายทีวี  4K กว่า 92% แม้ว่าตอนนี้ Content ยังไม่เยอะแต่ผู้บริโภคซื้อเพื่ออนาคต”

อานิสงส์ "ฟุตบอลโลก" ดันยอดขายทีวี "แอลจี" โค้งสุดท้ายพุ่งทยาน

อย่างไรก็ตามในปี 2566 “แอลจี” มีแผนสำหรับปี 2566 แอลจีเตรียมแผนรุกตลาดเครื่องซักผ้าระดับพรีเมียมเพื่อเพิ่มยอดขายให้กับบริษัท โดยในเดือนพฤศจิกายน 2565 แอลจีได้เริ่มส่งผลิตภัณฑ์ LG WashTower™ เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าในเครื่องเดียวที่มาในรูปแบบทาวเวอร์วางจำหน่ายเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมที่อยู่อาศัยในพื้นที่จำกัดอย่างบ้าน อพาร์ตเมนต์ และคอนโดมิเนียม แต่ต้องการเครื่องซักผ้าที่เรียบหรู ดีไซน์ทันสมัย และประหยัดพื้นที่การใช้งาน อีกทั้งตอบโจทย์การประหยัดเวลาทำงานบ้านด้วยฟังก์ชันแผงควบคุมตรงกลางที่เชื่อมต่อเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าให้ทำงานร่วมกันโดยอัตโนมัติ โดยเราคาดหวังกระแสตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมที่มีต่อสินค้า WashTower รุ่นใหม่ล่าสุดนี้อยู่ที่ 2,500 เครื่องในปี 2566

 

อย่างไรก็ตามแอลจียังคงรักษากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องซักผ้าประเภทฝาบน ด้วยการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ในเครื่องซักผ้าประเภทฝาบนที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัยเทียบเท่าเครื่องซักผ้าประเภทฝาหน้า โดยคาดว่าจะเปิดตัวสินค้าใหม่ในเดือนมีนาคม ปี 2566 พร้อมๆกับผลักดันตลาดทีวีพรีเมียมให้เติบโตยิ่งขึ้น และตั้งเป้ายอดขายกลุ่มทีวี OLED ที่ 75% ในขณะที่ตั้งเป้ายอดขายทีวีหน้าจอขนาดใหญ่ 70 นิ้วขึ้นไปอยู่ที่ 30%