เซวา ไทยแลนด์ ดึง เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ นั่งแท่น CO-CEO

28 ก.พ. 2566 | 10:11 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ก.พ. 2566 | 10:21 น.

เซวา ไทยแลนด์ ดึง เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ นั่งแท่น CO-CEO เปิดตัว SEWA GOLDEN GINSENG CREAM คาดดันยอดขายแตะ 100 ล้าน ภายใน 5 เดือน

 “เซวา ไทยแลนด์” (SEWA Thailand) หลังเปิดตลาดในประเทศไทย ด้วยการชูจุดขาย น้ำตบ โสมสกัดจากเกาหลี ฉลองก้าวสู่ปีที่ 6 ต่อยอดกลยุทธ์เซเลบลิตี้ มาร์เก็ตติ้ง ดึง เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ  นั่งตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (Co-CEO) พร้อมเปิดตัว SEWA GOLDEN GINSENG CREAM (ครีมโสมทองคำ) ผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด

นางสาวเบญจกิตติ เมฆแสน ซีอีโอและผู้ก่อตั้งแบรนด์เซวา ไทยแลนด์  เปิดเผยว่า ในปี 2566 เซวา เปิดไลน์สกินแคร์ระดับลักซ์ชูรีเป็นครั้งแรก ด้วยการดึง เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ นั่งตำแหน่ง CO-CEO ของผลิตภัณฑ์ SEWA GOLDEN GINSENG CREAM ตั้งแต่การ พัฒนาสูตร การวางกลยุทธ์การตลาดและการประชาสัมพันธ์ หวังปั้นให้เป็นสินค้าเรือธง เจาะกลุ่ม ลูกค้าที่มองหาสกินแคร์คุณภาพระดับใกล้เคียงกับเคาน์เตอร์แบรนด์ระดับโลกในราคาที่เข้าถึงได้

“ตั้งเป้าจะทำรายได้รวมทะลุ 500 ล้านบาท โดยเรามีแผน จะทยอยเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ต่อเนื่องตลอดทั้งปี และยังมีแผนจะแตกไลน์โปรดักท์อื่นๆ เช่น ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและเครื่องสำอางค์ ภายใต้แบรนด์ “เซวา” พร้อมขยายช่องทางการ จัดจำหน่าย ให้ครอบคลุม ได้แก่ ระบบตัวแทน 50% โมเดิร์นเทรด 30%  และช่องทางออนไลน์ 20% ซึ่งเราได้ทุ่มงบสูงมากเพื่อพัฒนาระบบหลังบ้านของตัวแทนให้มีความเป็นมืออาชีพและได้มาตรฐานเดียวกันทุกราย ตัวแทนทุกคนจะมีหน้า Sale Page เป็นของตัวเองไว้บริหารจัดการการขายแบบออนไลน์ ให้แก่ตัวแทนทั้งหมดกว่า 450 คนและลูกค้าที่ซื้อสินค้าไปด้วยว่า ได้สินค้าของแท้จากแบรนด์"

"เซวา"

ด้าน เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ กล่าวเพิ่มเติม การมารับตำแหน่ง CO-CEO  แบรนด์เซวา ว่า  โปรเจกต์นี้ใช้เวลาทำงาน ร่วมกันนานกว่า 2 ปี เพราะเจนี่ลงรายละเอียดเองทุกขั้นตอน เข้ามาดูแลตั้งแต่ในส่วนของ Product Development เพราะเป็นสินค้าที่สะท้อนตัวตนที่เป็นคนใส่ใจในการดูแลตัวเองทั้งจากภายนอกและภายในออกมาจริง ๆ  ดังนั้นเมื่อมีความคิดจะทำสกินแคร์ เลยตัดสินใจ มาร่วมทำธุรกิจกับทางเซวา  เพราะได้มีโอกาสเห็นตั้งแต่ก้าวแรกของเซวา และติดตามการเติบโต จึงตั้งใจเพื่อปลุกปั้น SEWA GOLDEN GINSENG CREAM ตั้งแต่การพัฒนาสูตร เดินทางไปดูแหล่งวัตถุดิบ และโรงงานที่เกาหลีด้วยตัวเอง เพื่อให้มั่นใจว่า จะเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับกลุ่ม Anti-Aging ที่ออกมาดีที่สุด และตอบโจทย์มากที่สุด.