“เอส โคล่า” ปรับทัพครั้งใหญ่ พร้อมชิงเบอร์ 1 ตลาดน้ำดำ ยกเครื่องแบรนด์ปรับสูตร เปลี่ยนแพกเกจจิ้งพร้อมดึง 4 พรีเซ็นเตอร์ช่วยกวาดGEN Z เข้าพร์อตฐานลูกค้าหลัก พร้อมโกอินเตอร์รุกตลาดเพื่อนบ้านปักหมุดน้ำอัดลมที่โดนใจคนเอเชียรุ่นใหม่ กรุยทางสู่เจ้าตลาดน้ำอัดลม
นางสาวสุภรณ์ เด่นไพศาล ผู้อำนวยการสำนักการตลาด สายธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ประเทศไทย บริษัท ไทยดริ้งค์ จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดน้ำอัดลมมีมูลค่า 57,000ล้านบาท มีการเติบโตเชิงปริมาณ 2% โดยเอส โคล่า มีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 8% มีการเติบโตที่ 9% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่เบอร์ 1 ของตลาดกินมาร์เก็ตแชร์ ครองเบอร์ 3 ของตลาด ขณะที่เบอร์ 1 ของตลาดครองมาร์เก็ตแชร์ 51% เบอร์2 ครองส่วนแบ่งการตลาด 37% ส่วนเบอร์ 4 ครองส่วนแบ่งการตลาด 3%
“ตลาดน้ำอัดลมโตยังเติบโตต่อเนื่อง 2% จากปีที่ผ่านมา แต่คาดว่าปีนี้จะเติบโตมากขึ้น ปัจจุบันเราครองมาร์เก็ตแชร์เบอร์ 3 ของตลาดขณะเดียวกันครองอันดับ 1 มาร์เก็ตแชร์ช่องทางจัดจำหน่ายร้านอาหารถึง 12% เพราะได้เสริมสุข ที่แข็งแกร่งในช่องทางนี้ช่วยในการกระจายสินค้า ในภาพรวมปีนี้เราเชื่อว่าเราสามารถเติบโตได้แน่นอน แต่เป้าหมายเราค่อนข้างสูงเราต้องการเป็นเบอร์ 1 ของตลาดเหมือนธุรกิจนอนแอลกอฮอล อื่นๆในพอร์ต”
อย่างไรก็ตามในปีนี้บริษัทมีแผนอัพเลเวลแบรนด์ “เอส โคล่า” ในรอบทศวรรษ ภายใต้คอนเซปต์ “Born to be Awesome” เพื่อจับตลาด Gen Z ในไทยเนื่องจากมองว่า “เอส โคล่า” เกิดและเติบโตมาพร้อม คน Gen Z จึงมีโอกาสที่จะจับตลาดกลุ่มนี้ที่มีความเชื่อ มีAwesome และมีความสามารถเป็นตัวของตัวเอง แต่การจะจับใจคนกลุ่มนี้ แบรนด์จำเป็นจะต้องเข้าใจกลุ่มGen ZและพูดภาษาเดียวกับคนGen Z
“เราเป็น “โคล่า” แบรนด์เดียวที่มีจิตวิญญาณของชาวเอเชีย เทรนด์บนโลกทุกวันนี้เปลี่ยนมาอยู่ฝั่งตะวันออก เพราะคนเอเชียเป็นคลื่นลูกใหม่ที่มีบทบาทสำคัญในเวทีในโลกหลายๆด้านไม่ว่าจะเป็นดนตรี แฟชั่น อาหารและมีเด็กรุ่นใหม่แจ้งเกิดมากมายบนโลกออนไลน์ เราจึงเรฟพรีเซ็นตัวเองว่าต้องการสนับสนุนแพชชั่นของคนGen Zest (Gen Z+est)”
สำหรับกลยุทธ์ที่จะมุ่งเป้าสู่ Awesome Brand ประกอบไปด้วย “Awesome Taste” “Awesome Look” “Awesome Campaign” เริ่มจาก 1รสชาติต้องถูกปาก โดยเปิดรับฟังคำแนะนำของผู้บริโภค และพัฒนาสินค้าจนได้ เอส โคล่าสูตรใหม่ ที่เลือกใช้ingredient เอเชีย ทั้งซินนามอน กานพลู และเมล็ดโคล่า มาผสมกันจนได้รสชาติกลมกล่อม และเพิ่มความซ่ามากขึ้น
2 บรรจุภัณฑ์ต้องสะดุดตา เอส โคล่ายังปรับดีไซน์ใหม่ มีการปรับโลโก้ด้วยลายเส้นสีสันที่มินิมอลขึ้น โมเดิร์นขึ้น ทันสมัยขึ้นและผสมผสานความเป็นเอเชียนในฟร้อนต์ พร้อมกับกราฟฟิกสปาร์คกลิ้งสื่อถึงความสดชื่น นอกจากนี้ยังใช้ดีไซน์ใหม่กับกลุ่ม “น้ำสี” ทุกรสชาติ (เอส โคล่า เอส โคล่า ชูการ์ฟรี เอสสตรอเบอร์รี เอสครีมโซดา เอสส้ม เอสซอลตี้ลิ้นจี่ เอสเกรปเบอร์รี เอสกามิกาเซ่ เอสพิงค์บอมบ์ และเอสเลมอนไลม์) โดยตัด PLAY ออกให้เหลือแค่แบรนด์ est เพื่อให้เกิดอิมแพคในชั้นวางสินค้าและง่ายต่อการสื่อสารกับผู้บริโภค
3 โฆษณาต้องถึงใจ โดยเลือกพรีเซ็นเตอร์ที่เป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ มีความAwesomeจากหลากหลายวงการมาช่วยสื่อสารแบรนด์ทั้ง “ชาอึนอู”, “โบกี้ไลออน”,“Yes Indeed” และ “3 สาวนักวอลเลย์บอลนิวเจน” ผ่านภาพยนตร์โฆษณาชุด “เอส โคล่า Born to be Awesome” เพื่อชวนคนรุ่นใหม่ Gen Zest ลิ้มรสความอร่อยซ่าของเอส โคล่า และกล้าเป็นตัวเอง
“คอนเซ็ปต์ของโฆษณาคือ เราต้องการสื่อสารว่า คนเราเกิดมามีความสามารถในตัว เอสโคล่าพร้อมจะส่งเสริมให้ทุกคนออกมาแสดงความสามารถ โดยเราจะปล่อยสื่อโฆษณา 360 องศา ทั้งื่อทีวี out of home สื่อในรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน จอLEDทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด รวมทั้งแจกชิมเอสโคล่าสูตรใหม่ 1 ล้านกระป๋องทั่วประเทศทั้งโรงเรียน มหาวิทยาลัย ตลาดนัด ร้านอาหาร และoffice building
นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์สำคัญเราอยากรับฟังความคิดเห็นของผู้บริโภค หลังจากชิมเอสโคล่าแล้วเรายังเปิดโหวตความAwesomeว่าชอบหรือไม่ชอบเอส โคล่าสูตรใหม่ เพื่อเช็คเรตติ้งในทุกช่องทางรวมทั้งไวรัลใน Tik tok เพื่อให้ผู้บริโภคเข้ามามีEngagementกับแบรนด์ นอกจากนั้นยังมีงาน fan meeting เดี่ยว “ชาอึนอู” และ Awesome stage เพื่อให้เด็กรุ่นใหม่ได้มาสนุกและแสดงความสามารถกับเรา”
ผู้บริหารกล่าวต่อไปว่า การอัพเลเวลของแบรนด์ในครั้งในเป็นเป็นการเพิ่มไดนามิกและปรับโพชิชั่นให้ชัดขึ้นว่า เอส โคล่า เรฟพรีเซนต์ความเป็น Asia ที่บาลานซ์ให้กลมกล่อม ซ่า และอัตลักษณ์ชัดเจนปัจจุบันยอดขายหลักของเอสโคล่า ยังคงมาจากรายได้การขายในประเทศไทย โดยเอสโคล่าสูตรใหม่จะวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นหลัก และในอนาคตอันใกล้จะขยายไปสู่ตลาดเพื่อนบ้านใกล้เคียงเพราะหนึ่งในเป้าหมายของแบรนด์คือ การเป็นแบรนด์โคล่าในใจของ GEN Z เอเชีย