ที่ผ่านมา “ซิซซ์เล่อร์” ให้ความสำคัญและทำการตลาด “สลัดบาร์” อย่างเข้มข้น ล่าสุดเทรนด์การบริโภคสเต๊กโดยฌแพาะเซกเมนต์พรีเมียมในเอเชียกลับมาเติบโต 5-7% สูงกว่ายุโรปและอเมริกา อย่างมีนัยสำคัญ งานนี้ “ซิซซ์เล่อร์” จึงต้องกลับมาทำการตลาดในส่วนของ สเต๊ก อีกครั้ง โดยออกเมนูใหม่ที่รังสรรจากวัตถุดิบพรีเมียมจากทั่วโลก และคงราคาเดิม แม้ปัจจัยลบแวดล้อมยังกระทบต้นทุนในระดับสูง
นายอนิรุทร์ เดวิด คอลลินส์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสแอลอาร์ที จำกัด (ซิซซ์เล่อร์) ในเครือ เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ ซิซซ์เล่อร์ ยังเติบโตได้ตามเป้าหมายจากกำลังซ้อภาคครัวเรือนฟื้นตัว ทำให้ทราฟฟิกมีเพิ่มขึ้น ประกอบกับการนำเสนอเมนูที่แปลกใหม่ และสลัดบาร์ที่มีวัตถุดิบตามฤดูกาลดึงดูดผู้บริโภคไปพร้อมๆกับการขยายฐานลูกค้าใหม่ ด้วยการขยายใหม่ให้ครอบคลุมพื้นที่ห้างสรรพสินค้าและหัวเมืองสำคัญ ขณะเดียวกันอัพเกรดระบบบัตรสมาชิกแบบดิจิทัล หรือ Loyalty Program E-Member เพื่อรักษาฐานลูกค้าปัจจุบัน
สำหรับปี 2566 นี้ ซิซซ์เล่อร์ จะกลับมาโฟกัส เมนู สเต๊กมากขึ้น หลังจากเห็นการเติบโตที่สำคัญของตลาด ผ่าน 3 กลยุทธ์ คือความสดใหม่ (Fresh) ความพรีเมียม (Premium) และคุณภาพ (Quality) โดยจะเพิ่มเมนูสเต๊กระดับพรีเมียมจากวัตถุดิบที่หลากหลาย แต่ยังคงราคาเมนูเท่าเดิม เช่นการนำเนื้อสเต๊กคุณภาพสูงจากต่างประเทศ มาเสิร์ฟบนหินร้อนสไตล์ญี่ปุ่นเป็นกิมมิกสร้างความแปลกใหม่ให้ลูกค้า Gen Z ได้สร้างคอนเทนต์จนเกิดการบอกต่อในโลกออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีไฮไลท์เมนูซิกเนเจอร์สเต๊ก และเมนูเรียกน้ำย่อยใหม่ แต่ยังคงราคาเมนูเท่าเดิมรวมทั้งสลัดบาร์สดจากโครงการหลวงตักได้ไม่อั้น
“หลังจากโควิดผ่านมา สิ่งที่สังเกตุได้คือ มีคู่แข่งมากขึ้นในตลาด ซึ่งคู่แข่งเรามีทั้งเซดเมนต์สลัดและ สเต๊ก แต่คนละโมเดลและคนละราคา เรายังเป็นเจ้าเดียวที่เป็นสลัดบาร์ อีกเทรนด์ที่เราเห็นคือผู้บริโภคไม่ได้ต้องการให้แบรนด์ลดราคา แต่ต้องการให้เราเพิ่มคุณภาพและเพิ่ม value for money เพราะแม้คนไทยจะชอบของมีคุณภาพแต่ก็ใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง
ซึ่งเราพยายามคงราคาให้เท่าเดิม และเสริมคุณภาพขึ้นปรับรสชาติ ปรับเมนู เพิ่มประสบการณ์ให้กับลูกค้า และกลับมาโฟกัสสเต๊กมากขึ้นหลังจากเริ่มเห็นเทรนด์ของคนเอเชียที่นิยม premium steak มากทำให้ตลาดเติบโต 5-7%สูงกว่ายุโรปหรืออเมริกา ซึ่งที่ผ่านมาเราทำการตลาดโดยเอียงไปที่สลัด มากกว่า premium steak”
อย่างไรก็ตามผู้บริหารกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารยังเผชิญกับราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้นต่อเนื่อง แต่ปริมาณสลัดและสเต๊กของ ซิซซ์เล่อร์ มี economy of scale ที่สามารถดีลกับLocal farmer เพื่อนำวัตถุดิบสดจากฟาร์มมา support เมนูที่ร้านให้มีความสดและคุณภาพที่ดี นอกจากนี้ยังสามารถดีลกับ supplier โครงการหลวง เพื่อนำผักจากฟาร์มส่งถึงสาขาได้ภายใน 2 วัน ทำให้คงคุณค่าทางโภชนาการของผักไว้ได้
“ในปีนี้เรามั่นใจว่ายอดขายจะกลับไปเทียบเท่ากับช่วงก่อนโควิด และที่ผ่านมามีหลายสาขาที่สามารถทำยอดขายได้ดี โดยสาขาส่วนใหญ่กว่า 70%ยังในพื้นที่กรุงเทพฯ และอีก30% อยู่ในต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองใหญ่ รวมกว่า 63 สาขา หลังจากนี้จะขยายสาขาไปยังหัวเมืองรองมากขึ้น”