ขนมไทยเจ้าดัง ที่ขึ้นเชลฟ์วางขายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ที่หลายคนเป็นแฟนพันธุ์แท้อย่าง “แม่สุนีย์ ขนมไทย” ถือเป็นใน Soft Power สำคัญที่ทำให้ขนมไทยเป็นที่รู้จัก และทำให้คนรุ่นใหม่ได้ลิ้มชิมความอร่อย อย่างมีอัตลักษณ์ของขนมไทย ไม่ว่าจะเป็น ขนมกล้วย กล้วยปิ้งน้ำตาลมะพร้าว เต้าส่วนทรงเครื่อง เปียกปูนดอกไม้ ฯลฯ
วันนี้ขนมไทยของแม่สุนีย์ ขนมไทย ภายใต้ชื่อ “EZY SWEET” กลายเป็น “ดาวเด่น” ที่ต้องจับตามองของร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ด้วยเมนูขนมไทยบ้านๆ แต่สามารถทำยอดขายได้กว่า 230 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา จึงถูกยกเป็น Role Model ให้นักธุรกิจรุ่นใหม่เดินตาม ด้วยวิธีคิดง่ายๆ ไม่ซับซ้อน
“ก้อง-ก้องปพัฒน์ เรืองจินดาชัยกิจ” รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เจ เอช แอนด์ สโนว์ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของแบรนด์ “แม่สุนีย์ ขนมไทย” และผู้ผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ EZY SWEET เล่าให้ฟังว่า หัวใจสำคัญของขนมไทย คือ การเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและรักษารสชาติให้ได้มาตรฐานเดียวกันในทุกถ้วย
นับตั้งแต่วันแรกที่ออกจากไลน์ผลิตจนครบกำหนด Shelf Life สิ่งที่จะช่วยรักษาคุณภาพมาตรฐานเหล่านี้ได้ คือ “นวัตกรรม” เพราะนวัตกรรมเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความต่างและความโดดเด่นให้กับตัวสินค้า และเป็นหัวใจสำคัญในการเติบโตอย่างยั่งยืนของ SME
“นวัตกรรมมีความสำคัญอย่างมากในทุกขั้นตอนการผลิต เช่น กระบวนการคัดเลือกวัตถุดิบก็ต้องใช้เครื่องตรวจรับเพื่อให้ได้คุณภาพตรงตามมาตรฐานที่ตั้งไว้ เพื่อลดความเสียหายจากวัตถุดิบที่ไม่ได้มาตรฐาน ขณะที่กระบวนการจัดเก็บก็ต้องจัดเก็บในพื้นที่ควบคุมอุณหภูมิ เพื่อรักษาคุณภาพวัตถุดิบให้สดใหม่ก่อนเข้าสู่กระบวนการผลิต”
แม่สุนีย์ ขนมไทยลงทุนพัฒนาเครื่องจักร เพื่อช่วยเพิ่มนวัตกรรมในขั้นตอนเหล่านี้ไปมากกว่า 40 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อช่วยลดต้นทุนและเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับประทานสินค้าสดใหม่เหมือนผลิตในวันแรก
อีกสิ่งที่สำคัญมากควบคู่กัน คือ “คน” หรือบุคลากร ซึ่งถือเป็น “ซอฟต์แวร์สำคัญ” ขององค์กร ทั้งในเรื่องสวัสดิการและการเพิ่มขีดความสามารถ หรือ Upskill ในเรื่องของเทคโนโลยีตลอดจนระบบงานหลังบ้านต่างๆ หากบุคลากรมีความเป็นอยู่ที่ดีและมีการพัฒนาอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการทำงาน เกิดการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กัน ถือเป็นการช่วยการเพิ่มโอกาสในการแข่งขันให้กับบริษัทในอนาคต
“ก้อง-ก้องปพัฒน์” ย้ำว่า การที่ “แม่สุนีย์” เป็นเพียงผู้ประกอบการขนาดเล็ก การสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจอย่างรวดเร็วและยั่งยืน ต้องอาศัยพันธมิตรที่ดีช่วยในทุกช่วงการดำเนินงาน นับตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงปลายทาง โดยบริษัทจะรับซื้อวัตถุดิบจากเครือข่ายพันธมิตรเกษตรกรในพื้นที่และนอกพื้นที่ ที่มีการควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานของบริษัท เพื่อให้มั่นใจได้ว่าขนมทุกถ้วยและทุกกล่องที่ถูกส่งถึงมือผู้บริโภคจะผลิตจากวัตุดิบชั้นดีมีคุณภาพ
ขณะเดียวกัน ด้านการตลาดนั้นยิ่งต้องมีพันธมิตรที่ดีค่อยช่วยสนับสนุนและส่งเสริมอย่างจริงจัง ทั้งเรื่องการขยายช่องทางการจัดจำหน่าย ข้อมูลที่จำเป็นในการขยายตลาด ตลอดจนองค์ความรู้ต่างๆ ที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจ ส่งผลให้บริษัทมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
“หากเป้าหมายของ SME คือ การสร้างการเติบโตด้านยอดขาย และอยากให้สินค้ามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่ SME ต้องมองหาคือพันธมิตรที่มีช่องทางการจัดจำหน่ายขนาดใหญ่ และมีองค์ความรู้ด้านต่างๆ ที่จะนำมาช่วยพัฒนาสินค้า เสริมศักยภาพการแข่งขัน
ซึ่งบริษัทก็มีเป้าหมายเช่นนั้น จึงเลือกที่จะเป็นพันธมิตรกับร้านเซเว่น อีเลฟเว่น จนเกิดมาเป็นสินค้าร่วมพัฒนาภายใต้แบรนด์ EZY SWEET โดยสินค้าตัวล่าสุดที่เพิ่งวางจำหน่ายคือ เยลลี่บ๊วยน้ำมะนาว เจาะกลุ่มลูกค้าตั้งแต่วัยประถมขึ้นไป ถือเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่สู่กลุ่ม Gen Z จากเดิมกลุ่มลูกค้าหลักจะเป็นกลุ่ม Gen X, Gen Y และ Baby Boomer ที่มีความคุ้นเคยกับสินค้าอยู่แล้ว”
“เราได้รับโอกาสจากทางเซเว่น อีเลฟเว่น แต่การเติบโตเพียงลำพัง อาจทำให้ไม่มั่นคงและยั่งยืน บริษัทจึงส่งต่อโอกาสที่เคยได้รับกลับสู่ชุมชนในทุกมิติ อาทิ สร้างรายได้ให้กลุ่มเกษตรที่บริษัทรับซื้อสินค้าเกษตรมากกว่า 55 ล้านบาทต่อปี เกิดการจ้างงานในพื้นที่มากกว่า 300 คน เป็นต้น
รวมทั้งเดินหน้าสร้างโรงงานสีขาว เพื่อลดขยะ ลดการใช้พลังงาน ลดมลภาวะ เช่น การมอบเศษวัตถุดิบเหลือใช้ให้กับชาวบ้านเพื่อนำไปเลี้ยงสัตว์ฟรี ในอนาคตโรงงานกำลังติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อลดการใช้พลังงาน และมีระบบการจัดการขยะ-บำบัดน้ำเสียที่ได้มาตรฐาน”
จากขนมไทยบ้าน บ้าน สู่ SME อันดับต้นๆ ของเมืองไทย ซึ่ง “ก้อง-ก้องปพัฒน์” ย้ำว่า ที่มีวันนี้ก็เพราะ ได้รับการสนับสนุนจาก “เซเว่น อีเลฟเว่น”ในการเป็นช่องขายที่สำคัญ ทำให้ “แม่สุนีย์ขนมไทย” เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง