การกลับมาของภาพยนตร์ทรานส์ฟอร์เมอร์ส นอกจากจะสร้างเสียงฮือฮาให้กับคอหนังแล้ว ยังส่งผลต่อแนวโน้มความนิยมที่แฟนคลับอยากจะครอบครองของเล่นสะสมคาแรคเตอร์ตัวเอกในเรื่องอีกด้วย ทำให้ “ฮาสโบร” หนึ่งในบริษัทผู้ผลิตของเล่นที่ใหญ่ที่สุดจากประเทศสหรัฐอเมริกา ร่วมกับ แมพ แอคทีฟ ส่งคาแรคเตอร์หุ่นแปลงร่าง “Transformers : Rise Of The Beasts” เจาะตลาดสาวกแฟนคลับทรานส์ฟอร์เมอร์ส
นายดีพัก โทมาร์ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัท แมพ แอคทีฟ อาดิเพอคาซา จำกัด เปิดเผยว่า จากกระแสความนิยมของแฟรนไชส์ภาพยนตร์ Transformers ที่มีกลุ่มแฟนคลับเหนียวแน่นมากว่า 16 ปี นับตั้งแต่ภาพยนตร์ Transformers เปิดตัวในภาคแรกเมื่อปี 2550 ซึ่งสามารถสร้างฐานแฟนคลับอย่างมหาศาลโดยเฉพาะในต่างประเทศ ครอบคลุมถึงนักสะสมของเล่นและฟิกเกอร์
ในปี 2566 นี้นอกจากนี้แฟนๆจะได้พบกับการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ของแฟรนไชส์ภาพยนตร์ทรานส์ฟอร์เมอร์ส Transformers :Rise of The Beasts แล้วยังมีสินค้าของเล่นโดยเฉพาะฟิกเกอร์แปลงร่าง ซึ่งภาคนี้จะมาในดีไซน์ยานพาหนะที่ผู้ชมรวมไปถึงแฟนๆทรานส์ฟอร์เมอร์สรักและชื่นชอบ
ทั้งนี้บริษัทได้รับลิขสิทธิ์จากฮาสโบร ในการจัดจำหน่ายสินค้าอย่างถูกลิขสิทธิ์ของ Transformers : Rise Of The Beasts แต่เพียงเจ้าเดียวในประเทศไทย จึงเปิดตัว ของเล่นหุ่นแปลงร่างสายพันธุ์ใหม่ Transformers :Rise Of The Beasts ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปลุกกระแสของทรานส์ฟอร์เมอร์ส กับสินค้ารุ่นใหม่ล่าสุด
เจาะกลุ่มเป้าหมาย ทั้งกลุ่มเด็ก, ผู้ใหญ่ หรือลูกค้าทั่วไปที่ชื่นชอบทรานส์ฟอร์เมอร์ส ทั้งในรูปแบบภาพยนตร์ หรือของเล่น ตลอดจนกลุ่มนักสะสมฟิกเกอร์ โดยตั้งเป้ายอดขายของเล่น Transformers : Rise Of The Beasts ในช่วงเปิดตัว 3-6 เดือนแรกที่ประมาณ 5-8 ล้านบาท และสิ้นปีนี้ที่ราว 15 ล้านบาท
โดยไฮไลต์ที่ห้ามพลาดคือการได้ Meet & Greet กับ Optimus Prime ที่มีความสูงกว่า 2.5 เมตร เป็นครั้งแรกและเป็นที่แรกในประเทศไทย นอกจากนี้ยังได้จัดการประกวด “Transformers Cosplay Contest” ชิงรางวัลพร้อมทุนการศึกษา สำหรับน้องๆ แฟนคลับที่สนใจ ไม่จำกัดเพศและอายุ เพราะเราต้องการเปิดกว้างในด้านความคิดสร้างสรรค์ ของน้องๆเด็กๆ แฟนคลับ และเยาวชน โดยไม่จำกัดเทคนิดใดๆ ที่สำคัญคือสมัครฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น
สำหรับสินค้า Transformers : Rise of The Beasts ของฮาสโบรในปีนี้ เรามีสินค้าที่เหมาะกับเด็กๆ อายุ 5-8 ปี ที่ชื่อว่า “Beast Alliance” โดยสินค้าจะเป็นฟิกเกอร์ที่จะมีขั้นตอนฝึกทักษะในการแปลงร่างอยู่ 3-5 ขั้นตอน ซึ่งเด็กๆสามารถเล่นได้ด้วยตนเอง หรือจะมีครอบครัวช่วยแนะนำเด็กๆ เพื่อเป็นการทำกิจกรรมร่วมสนุกด้วยกันได้อีกด้วย ส่วนกลุ่มอายุ 8 ปีขึ้นไป มักจะชื่นชอบรุ่น “Studio Series” ซึ่งตัวฟิกเกอร์จะถูกถอดแบบคาแรคเตอร์มาจากในภาพยนตร์ ไม่ว่าเป็นตอนเปลี่ยนร่างเป็นหุ่นยนต์ หรือเปลี่ยนร่างเป็นยานพาหนะ ซึ่งเหมาะกับเด็กๆ หรือแฟนคลับที่ชมภาพยนตร์แล้วประทับใจในตัวละครและอยากจะเก็บสะสมเป็นที่ระลึก
ด้านภาพรวมของตลาดคาแรคเตอร์ในปัจจุบัน มีจุดเด่น คือเป็นสินค้าที่สร้างสรรค์ประสบการณ์ และจินตนาการ ส่งเสริมพัฒนาการ อีกทั้งยังเป็นการใช้เวลาที่ดีร่วมกันระหว่างครอบครัวอีกด้วย ซึ่งแบรนด์ฮาสโบร ปัจจุบันครองส่วนแบ่งตลาดเกือบ 50% ด้วยจุดแข็ง คือสินค้าของฮาสโบร เป็นสินค้าที่ดีมีคุณภาพ ผลิตโดยใช้วัสดุที่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) มีดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ และฟังก์ชั่นที่ครบครัน ตอบโจทย์ทุกกลุ่มอายุ ทั้งนี้ตลาดคาแรคเตอร์ มีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนกลยุทธ์ทางการตลาดด้วยเช่นเดียวกัน ฮาสโบร มีนโยบายเชิงกลยุทธ์ที่เรียกว่า Blueprint 2.0 อันมีแกนสำคัญคือ Entertainment เน้นสร้างประสบการณ์ให้กับผู้บริโภคผ่านเรื่องราว (Story Telling) เพื่อให้ผู้บริโภคมีการเชื่อมโยง จดจำแบรนด์ ประกอบกับใส่นวัตกรรมเข้าไปในสินค้าให้เด็กเกิดการเรียนรู้
นอกจากนี้ในส่วนของตลาดของเล่นนักสะสม ก็เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จากแบรนด์หลักๆ ซึ่งได้แก่ Marvel, Star War และTransformers โดยสินค้าภายใต้แบรนด์ฮาสโบร ที่ร่วมกับ แมพ แอคทีฟ มีการสร้างช่องทางการจำหน่ายที่ผ่านตัวแทนรายย่อยเฉพาะตลาดนักสะสมโดยเฉพาะ การขายผ่านช่องทางออนไลน์ และ Social Commerce ทั้งนี้นักสะสมนิยมสินค้าหายากที่เป็น Limited Edition ที่สำคัญเน้นคุณภาพมากกว่าราคา ซึ่งขบวนการตัดสินใจซื้อนั้น ก็เกิดมาจากที่นักสะสมเกิดความประทับใจในคาแรคเตอร์ผ่าน Content ต่างๆ และสร้างตลาดกลุ่มสะสมที่มีการขยายกลุ่มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
อย่างไรก็ตามในช่วงโควิดที่ผ่านมา แมพ แอคทีฟ ได้มีการขยายกิจการ และยังเสริมความเป็นพันธมิตรกับบริษัท ฮาสโบร และ บริษัท e One ขยายฐานลูกค้าผู้ซึ่งชื่นชอบ Entertainment และเป็นผู้สร้างการ์ตูน Peppa pig & PJM เจาะกลุ่มเด็ก Pre-School รวมทั้งขยายตลาดสินค้าลิขสิทธิ์และของเล่นคุณภาพเข้าสู่ตลาดมากมาย
ทั้งนี้ภายในปี 2566 เราเตรียมที่จะคลอดของเล่นใหม่เพื่อสร้างสีสันให้กับตลาดอีกจำนวนมาก เพื่อสนับสนุนให้คุณพ่อคุณแม่ได้ใช้เวลาเล่นกับลูกๆ ควบคู่กับการเสริมสร้างพัฒนาการในด้านต่างๆ ซึ่งเป็นทางออกที่ดีกว่าการเล่นผ่านหน้าจอ โดยมีตัวเลือกให้คุณพ่อคุณแม่ น้องๆในทุกช่วงอายุ ครอบคลุมทุกแบรนด์สินค้าภายใต้ฮาสโบร อาทิ Nerf Blaster รุ่น Rival, Peppa Pig, My Little Pony, PlayDoh และสินค้าในกลุ่ม Action Figure สำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบฮีโร่ เช่น The Marvel, X-Men, Spider Man รวมถึง Spidey and Amazing Friends ซึ่งจะมีการทำแคมเปญพิเศษต่างๆ ที่รอให้เหล่าสาวกของเล่นได้ติดตามกันด้วย.