“ยุทธชัย จรณะจิตต์” ปักธง อาเซียน นำร่องเปิดตัว “อมารี ราญา มัลดีฟส์”

12 ส.ค. 2566 | 03:40 น.
อัปเดตล่าสุด :12 ส.ค. 2566 | 03:42 น.

ทายาทรุ่น 3 อิตัลไทย “ยุทธชัย จรณะจิตต์” เดินหน้าสยายปีกธุรกิจโรงแรมทั่วอาเซียน เปิดตัว “อมารี ราญา มัลดีฟส์” รีสอร์ทสุดหรู ขยายตลาดลักชัวรี ชี้ตลาดท่องเที่ยวไทย-MICE ส่งสัญญาณฟื้นตัว ตั้งเป้ากวาดรายได้ทะลุ 8,800 ล้าน

กว่า 65 ปี กลุ่มบริษัทอิตัลไทยเดินหน้าธุรกิจอย่างแข็งแกร่ง ทั้งในธุรกิจอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลหนัก ธุรกิจรับเหมางานวิศวกรรมและก่อสร้างแบบครบวงจร รวมถึงธุรกิจบริการ ภายใต้ชื่อ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (ONYX Hospitality Group) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการบริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ท และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ด้วยวิสัยทัศน์ที่ตั้งเป้าหมายเป็น The Best Medium-sized Hospitality Management Company in Southeast Asia ภายใต้การนำทัพของ “ยุทธชัย จรณะจิตต์” ทายาทรุ่นที่ 3 ซึ่งล่าสุดประกาศแผนเดินหน้าขยายธุรกิจในต่างประเทศ ด้วยการเข้าบริหาร “อมารี ราญา มัลดีฟส์” รีสอร์สุดหรู บนคาบมหาสมุทรอินเดีย

นายยุทธชัย จรณะจิตต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป (ONYX Hospitality Group) กลุ่มบริษัท อิตัลไทย ผู้บริหารจัดการโรงแรม รีสอร์ท และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ได้รับความไว้วางใจจากกลุ่ม พานชิล กรุ๊ป (Panchshil Group)

“ยุทธชัย จรณะจิตต์” ปักธง อาเซียน นำร่องเปิดตัว “อมารี ราญา มัลดีฟส์”

บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับหรูที่มีประสบการณ์ครอบคลุมในการพัฒนาที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์ ไอทีพาร์ค พื้นที่สำนักงานที่สร้างขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) โรงแรม ศูนย์การประชุมและห้างสรรพสินค้าหรู ให้เข้ารับบริหาร อมารี ราญา มัลดีฟส์ รีสอร์สุดหรู บนคาบมหาสมุทรอินเดีย

สำหรับโครงการ “อมารี ราญา มัลดีฟส์” (Amari Raaya Maldives) เป็นโครงการที่ใช้เงินลงทุนสูงที่สุดในปีนี้บนคาบมหาสมุทรอินเดีย ตั้งอยู่บนเกาะส่วนตัว ใช้เวลาเดินทาง 45 นาทีจากสนามบิน ด้วยเครื่องบินทะเล (Seaplane) มีห้องพักรวม 187 ห้อง ทั้งรูปแบบ Beach Villa ถึง Deluxe Ocean Pool Villa พร้อม 8 ห้องอาหารที่มีคอนเซปท์ที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเพื่อการพักผ่อน

อาทิ มินิกอล์ฟ แพดเดิลเทนนิส แบดมินตัน การดำน้ำตื้น สกีน้ำ เจ็ตสกี เวคบอร์ด ยิงธนู ซิปไลน์ และ “ไหม สปา” (Maai Spa) สถานที่พักผ่อนและเติมเต็มความสุขทั้งร่างกายและจิตใจแบบองค์รวม โดยมีลูกค้าเป้าหมาย ได้แก่ รัสเซีย เยอรมนี อินเดีย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เกาหลี และ ซาอุดิอาระเบีย ขณะที่จีนยังคงนับเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสูงเมื่อเปิดประเทศ

“ยุทธชัย จรณะจิตต์” ปักธง อาเซียน นำร่องเปิดตัว “อมารี ราญา มัลดีฟส์”

ด้านการจัดจำหน่ายสำหรับอมารี ราญา มัลดีฟส์ จะบาลานซ์กันระหว่าง Wholesales และ Retails โดยในช่วงต้นของการเปิด จะมุ่งไปที่ Wholesales มากกว่า Retail เล็กน้อยเพื่อสร้างการรับรู้ในตลาด และจะกลับเข้ามาที่เป้าหมายที่มีสัดส่วนเท่ากันในช่วงปลายปี โดยสัดส่วนลูกค้าจากตลาดเป้าหมายมีความแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการวางตำแหน่งด้านราคา และความต้องการในด้านประสบการณ์ของตลาดเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป

นายยุทธชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวในปีนี้ มั่นใจว่าประเทศไทยจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาจำนวน 25 ล้านคนตามเป้าหมายที่คาดการณ์ไว้ โดยจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย 3.5 - 4 ล้านคน อินเดียและเกาหลีใต้กว่า 1 ล้านคน ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนคาดว่าจะเข้ามาอย่างน้อย 5 ล้านคน หรือเฉลี่ยประมาณ 2 หมื่นต่อวันในช่วงครึ่งปีหลัง และคาดว่าในปีหน้าแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มเป็น 28 ล้านคนในปี 2567 และ 31 ล้านคนในปี 2568 ตามโมเดลเศรษฐกิจ

อย่างไรก็ดี ในปีนี้จะได้เห็นการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวกลุ่มธุรกิจไมซ์ (MICE:MEETING, INCENTIVE, CONVENTIONS และ EXHIBITIONS) อีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสิงคโปร์ ฮ่องกง อินเดีย และมาเลเซีย ซึ่งเทรนด์สำหรับกลุ่มไมซ์ในปีนี้จะเป็นลักษณะกลุ่มธุรกิจไมซ์ที่เล็กกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2562 โดย รัสเซีย ออสเตรเลีย และตะวันออกกลาง จะเป็นกลุ่มตลาดที่จะเกิดใหม่ในปีนี้

“ยุทธชัย จรณะจิตต์” ปักธง อาเซียน นำร่องเปิดตัว “อมารี ราญา มัลดีฟส์”

ขณะที่สถานการณ์ในช่วงปี 2563 - 2565 ที่ผ่านมาซึ่งพบว่าการเติบโตของซัพพลายได้ถูกจำกัดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน รวมถึงจำนวนเที่ยวบินที่เปิดให้บริการ และมาตรการการเข้าประเทศที่มีเงื่อนไขหรือข้อจำกัด ในปีนี้ เห็นได้ถึงสัญญาณการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในพื้นที่แถบภูมิภาคเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งครองตำแหน่งต้นๆ ที่มีดีมานด์นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากทั้งเพื่อการพักผ่อนและทำธุรกิจ

“เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถือเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของกลุ่มออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ที่เรามั่นใจว่าเรามีจุดแข็งในการแข่งขันในพื้นที่นี้สูง การฟื้นตัวครั้งนี้นับเป็นกลับมาอีกครั้งอย่างเห็นได้ชัดของห้องพักใหม่ๆ สู่ตลาด จะได้เห็นการขยายตัวมากมายในตลาดแบรนด์หรูและอัลตร้าลักชัวรีระดับสากล ขณะที่การเติบโตอย่างเข้มแข็งยังขยายตัวสู่ตลาดระดับกลาง”

ปัจจุบันออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป มีโรงแรม รีสอร์ท และเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ ทั้งที่เป็นเจ้าของเอง และรับบริหาร รวม 44 แห่ง ภายใต้ 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ อมารี (Amari), โอโซ่ (OZO) และชามา (Shama) ถือเป็นแบรนด์ที่โดดเด่น ครอบคลุมทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ ประเทศไทย มาเลเซีย จีนรวมถึงฮ่องกง มัลดีฟส์ บังกลาเทศ และสปป.ลาว

โดยล่าสุดเปิดตัวโครงการ Amari Raaya Maldives ไปเมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา และมีแผนเปิดตัวโรงแรม รวมถึงเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ รวมอีก 10 แห่งภายในปีนี้และปี 2567 นี้ ทั้งในประเทศมาเลเซีย ศรีลังกา ฮ่องกงและประเทศไทย ขณะที่ในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้ 8,800 ล้านบาท

“ยุทธชัย จรณะจิตต์” ปักธง อาเซียน นำร่องเปิดตัว “อมารี ราญา มัลดีฟส์”

สำหรับออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป มุ่งเน้นการบริหารงานภายใต้ 3 แกนหลัก ได้แก่

1. ให้ความสำคัญกับรูปแบบการทำงานขององค์กร คือ เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความเข้าใจในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างถ่องแท้ มีรูปแบบการทำงานและระบบการบริหารที่มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยมาตรฐานระดับนานาชาติ 

2. พันธมิตรทางธุรกิจ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป มุ่งเน้นการสร้างพันธมิตรระยะยาวเพื่อร่วมสร้างการเติบโตไปด้วยกัน สอดรับเทรนด์ธุรกิจปัจจุบันที่นักลงทุนมองหาความร่วมมือกับแบรนด์ที่แข็งแกร่ง เพื่อช่วยส่งเสริมศักยภาพทางธุรกิจซึ่งกันและกัน รวมถึงมีเครือข่ายครอบคลุมทั่วภูมิภาคจนได้รับความไว้วางใจจากกลุ่มนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

3. แบรนด์สินค้า โดยมุ่งมั่นสร้างความแข็งแรงและเติบโตผ่านพอร์ตโฟลิโอทั้ง 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ อมารี, โอโซ่และชามา

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,912 วันที่ 10 - 12 สิงหาคม พ.ศ. 2566