เป็นอีกหนึ่งทายาทธุรกิจที่เข้ามาลุยธุรกิจ “ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์” ผลิตสินค้าด้านความงามและสุขภาพ B2B ของครอบครัวสำหรับ “จิรัชยา วามะศิริ ” ภายใต้แนวคิดการบริหารงานยุคใหม่ ที่เจ้าตัวบอกว่าใช้สูตรการผสานแนวทางตะวันตกและปรัชญาตะวันออกที่เรียนรู้สะสมตั้งแต่รุ่นก่อตั้ง ผ่านวัฒนธรรมองค์กร “FAITH” ช่วยเสริมจุดแข็ง-ลดทอนจุดอ่อน พาบริษัทขับเคลื่อนสู่อนาคตอย่างยั่งยืน พร้อมมุ่งยกระดับประสิทธิภาพการผลิตสินค้าอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนส่งออกเป็น 60% ผลักดันการเติบโตบริษัทแตะหลัก 30% ในปี 2567
“จิรัชยา วามะศิริ" เข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัวในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายขายและฝ่ายการตลาด (CCO) พร้อมกับย้อนภาพของ บริษัท ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์ จำกัด ว่า “ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2532 โดยการร่วมทุนกับ ไมลอทท์ คอสเมติค คอร์เปอเรชั่น ซึ่งเป็นบริษัทรับจ้างออกแบบและผลิตเครื่องสำอางจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 85 ปี
ซึ่งการดำเนินธุรกิจในไทยเป็นระยะเวลากว่า 30 ปีตั้งแต่เจนแรกถึงเจเนอเรชั่นที่ 2 ทำให้เราเห็นถึงแนวทางบริหารที่ฉลาดและทันกับความเปลี่ยนแปลงของรุ่นคุณพ่อในเวลานั้น ทั้งการขยายตลาดไปสู่ต่างประเทศ การก่อตั้งห้องปฏิบัติการณ์ของตัวเอง หรือพัฒนาการผลิตจนได้รับรองมาตรฐานสินค้าฮาลาลจากประเทศอินโดนีเซีย ที่ล้วนเป็นบทเรียนสำคัญให้เรานำมาประยุกต์เข้ากับการทำงานในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
"ก่อนรับช่วงบริหารไมลอทท์อย่างเต็มตัว ตนเองได้มีโอกาสร่วมงานกับองค์กรขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่ช่วยให้เกิดการสั่งสมประสบการณ์และได้เรียนรู้แนวทางการบริหารจัดการในแบบตะวันตก ทั้งการทำตลาดเชิงกลยุทธ์ การวิเคราะห์ตลาด การทำวิจัยตลาด และการพัฒนาระบบการขายซึ่งนำมาสู่การออกสินค้าที่มีทั้งคุณภาพ ตรงใจ และเป็นที่ยอมรับแพร่หลายในกลุ่มผู้บริโภค"
พร้อมกันนี้ยังนำแนวทางบริหารงานแบบตะวันตกมาผสมผสานกับปรัชญาตะวันออกที่เรียนรู้มาตั้งแต่เริ่ม จึงได้สร้างแนวทางการทำงานที่สมบูรณ์แบบสำหรับไมลอทท์ ในการเสริมจุดแข็งและลดทอนจุดอ่อนของบริษัท พร้อมเพิ่มกำลังในการขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่อนาคตอย่างยั่งยืน และกลั่นกรองจนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่เรียกว่า “FAITH” อันประกอบไปด้วย
· F – FLEXIBILITY การยืดหยุ่นยอมรับการเปลี่ยนแปลงอย่างมีระบบ เพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายตามความต้องการของลูกค้า
· A – AGILE สร้างแนวความคิดที่ต้องรวดเร็วและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกรูปแบบและทุกกระบวนการที่เกี่ยวข้อง
· I – INTEGRATED POSITIVE THINKING เน้นเรื่องจิตใจความคิดเชิงบวกแบบองค์รวม เพื่อผลลัพธ์แห่งความสำเร็จและความพึงพอใจทั้งภายในและภายนอก
· T – TEAMWORK การทำงานเป็นทีมทั้งคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่อย่างสมดุล รวมถึงสามารถทำงานแบบ Cross-functionally ทั้งภายในและภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล
· H – HONESTY มีความซื่อสัตย์ทั้งต่อตนเอง บริษัท ลูกค้า และคู่ค้า พร้อมมีความโปร่งใส รับผิดชอบ และยุติธรรม
อย่างไรก็ตาม จิรัชยาสะท้อนภาพรวมของอุตสาหกรรมความงามว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในตลาดความงามยุคปัจจุบันคือการแข่งขันที่ถูกยกระดับมาสู่จุดที่ทุกตลาดสามารถเชื่อมถึงกันอย่างไร้พรมแดน ทำให้เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่สร้างผลกระทบเป็นวงกว้าง อาทิ สภาวะโลกร้อน โรคระบาด เศรษฐกิจทรุดตัว หรือการเมืองที่ไม่แน่นอน ล้วนได้ส่งผลต่อการตัดสินใจทางการค้าในตลาด เช่น การส่งออกสินค้าหรือการขยายช่องทางจัดจำหน่าย รวมถึงมีอิทธิพลต่อผู้บริโภคและผู้ผลิตที่จำเป็นต้องปรับตัวให้ทันสมัยและเข้ากับเหตุการณ์ดังกล่าว จึงจะพัฒนาองค์กรให้เติบโตได้อย่างมีคุณภาพ
โดยทิศทางการเติบโตของบริษัทหลังจากนี้จะให้ความสำคัญหลักกับการเปลี่ยนแปลงด้านการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น การให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ความนิยมที่เพิ่มขึ้นในอาหารเสริม หรือการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งไมลอทท์มีการดำเนินการผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการและเทรนด์ของลูกค้า พร้อมเตรียมนำเสนอในงานแสดงสินค้า “Cosmoprof CBE ASEAN 2023” ที่จะจัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ในระหว่างวันที่ 14-16 กันยายน 2566 นี้
“ในฐานะที่เราเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีเป้าหมายชัดเจนในการเข้ามาขับเคลื่อนและตั้งใจสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่แก่ ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์ ให้เป็นผู้ผลิตสินค้าด้านความงามและสุขภาพที่สามารถเติบโตขึ้นไปอยู่ในระดับแถวหน้าของโลกได้ แน่นอนว่านอกเหนือจากสินค้าที่ต้องตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าแล้ว ด้านสำคัญคือเราต้องมีวิสัยทัศน์ชัดเจน จับต้องและวัดผลได้ โดยเฉพาะการสร้าง Trusted Strategic Partnerships หรือปัจจัยความเชื่อมั่นที่สร้างความสำเร็จร่วมกับลูกค้า คู่ค้า พนักงาน รวมไปถึงสังคม ที่ยั่งยืนในระยะยาว”
โดยปัจจัยด้านที่ ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์ ได้ยกระดับขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างประสิทธิภาพและเป็นแนวทางเดินหน้าสู่ความสำเร็จ ประกอบไปด้วย การพัฒนา Research & Development ศูนย์รวมในการพัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลายและทันต่อเทรนด์ ด้วยนวัตกรรมต่าง ๆ ในราคาที่แข่งขันได้, การบริการแบบ One-Stop-Service พร้อมให้คำแนะนำการแก้ปัญหาแต่ละกระบวนการที่ลูกค้าขาดความรู้หรือความชำนาญ เพื่อให้เกิดความพึงพอใจ รวมถึงเกิดความพร้อมในการบริการและการผลิต ได้ครอบคลุมทั้งขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่อย่างไม่มีข้อจำกัด หรือทำตามมาตรฐานที่ลูกค้าในแต่ละประเทศต้องการเป็นการเฉพาะได้, มีการใช้ Bonded Warehouse และทำเลที่ตั้งของประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขนส่ง ที่ควบคุมโดยระบบซอฟต์แวร์ Warehouse Management System (WMS) และ SAP ที่ทันสมัย ในการบริหารจัดการได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ และตรวจสอบได้
ทั้งนี้ ปัจจุบัน ไมลอทท์ แลบบอราทอรีส์ ถือเป็นผู้ผลิตสินค้าสุขภาพและความงามที่มีความครบวงจรในทุกหมวดหมู่ รวมถึงกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวเรือน อาหารเสริม เครื่องมือแพทย์ โดยแบ่งเป็นสัดส่วนการผลิตออกเป็น Skincare 40%, Color Cosmetics 20% และ Home Care 20% พร้อมสามารถพัฒนาและผลิตสินค้าได้ตามความต้องการและข้อกำหนดของลูกค้าแต่ละประเทศ ภายใต้คุณภาพมาตรฐานการรับรองระดับสากล อาทิ ISO 22716, ISO 13485, HALA LPPOM MUI, BRC รวมทั้งมีการวางนโยบายการรักษาสภาพแวดล้อม ครบทุกหัวข้อ ESG เพื่อรองรับกับลูกค้ามากกว่า 300 ราย ในสัดส่วนจำหน่ายภายในประเทศ 60% และส่งออกนอกประเทศ 40%
“ในปี 2566 นี้ ไมลอทท์มองถึงการขยายธุรกิจที่จะเพิ่มสัดส่วนของลูกค้าใหม่ โดยการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า Cosmoprof CBE ASEAN 2023 ก็ถือเป็นกลยุทธ์การเข้าถึงลูกค้าที่มีศักยภาพที่นำสู่การส่งออกไปยังพื้นที่ใหม่ ๆ โดยเรามีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการส่งออกไปให้ถึง 60% รวมถึงมีการเพิ่มหมวดหมู่ของสินค้าให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่นในกลุ่มอาหารเสริม และกลุ่ม Pet Grooming เพื่อที่จะผลักดันการเติบโตภาพรวมของธุรกิจให้มีตัวเลขเพิ่มขึ้นแตะ 30% ในปี 2567 ที่จะถึง”