นายวรุตม์ สุทธินันท์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท เอสล่า จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ด้านความงามและเวชสำอาง เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคเน้นการแก้ปัญหาผิวต่างๆบนใบหน้าเป็นเรื่องแรก โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเม็ดสีบนใบหน้า และการยกกระชับผิวหน้า
จึงมุ่งแข่งขันกันด้วยเทคโนโลยีที่เห็นผลการรักษาที่ชัดเจน ปลอดภัย และรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม อีกทั้งยังให้ความสำคัญในเรื่องของการลดความเจ็บปวดและใช้เวลาในการพักฟื้นหลังทำการรักษาที่น้อยลง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันของผู้บริโภคที่ต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว
ทำให้บริษัทเชื่อมั่นว่า จากการขยายธุรกิจสินค้าและบริการนวัตกรรม ขยายตลาดในกลุ่มคลินิก โรงพยาบาล รวมทั้งจับกลุ่มผู้บริโภคโดยตรงมากยิ่งขึ้น จะทำให้บริษัทมีการเติบโตไม่น้อยกว่า 35% และมีรายได้ประมาณ 500 - 700 ล้านบาท ภายในช่วงระยะ 3 ปีข้างหน้า เนื่องจากมองว่าตลาดนวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ด้านความงามในไทยยังมีศักยภาพโดยปีที่ผ่านมา มีมูลค่ารวมมากกว่า 2,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 15%
ทั้งนี้นวัตกรรมเป็นเรื่องสำคัญ โดยล่าสุดได้นำ PICOSURE ที่มีเทคโนโลยี Picosecond Laser 755nm มาจำหน่ายในไทย โดยร่วมกับคลินิกเวชกรรมความงามชั้นนำทั่วประเทศกว่า 10 คลินิก ลงทุนผลิตสื่อทำการตลาดในแคมเปญ ‘PICOSURE ทั่วไทย’ ให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีดังกล่าว
เพื่อนำเสนอประสิทธิภาพ จุดเด่น ความอเนกประสงค์ และความปลอดภัยที่ผ่านมาตรฐานซึ่งได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการโดย U.S.FDA ของเครื่อง PICOSURE จากแบรนด์ Cynosure ให้คนไทยทั่วประเทศสามารถเข้าถึงและรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยี Picosecond Laser เข้าใจได้มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังมีแพทย์ชั้นนำระดับประเทศมาร่วมให้ความรู้ทางการแพทย์อย่างถูกต้องสำหรับคนไข้คนไทยโดยเฉพาะถึงการใช้งานของ PICOSURE ปลอดภัย เหมาะกับสภาพผิวของคนเอเชียและคนไทยมากน้อยเพียงใด เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีด้านความงามที่รักษาโรคและปัญหาเกี่ยวกับเม็ดสี และมีจุดเด่นที่ดึงดูดหรือตอบโจทย์คนไข้อย่างไร ความยากง่ายและความแตกต่างในการรักษารอยโรคเกี่ยวกับเม็ดสีมีความแตกต่างแค่ไหนเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่น รวมทั้งผลลัพธ์จากการรักษา
“ปัจจุบันเทคโนโลยี Picosecond Laser 755nm ได้การยอมรับจากคลินิกชั้นนำทั่วประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นภาคตะวันตก, ภาคตะวันออก, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือภาคอีสาน รวมถึงภาคเหนือ และภาคใต้ ซึ่งแคมเปญดังกล่าวนี้จะเริ่มเผยแพร่ออกอากาศอย่างเป็นทางการในวันที่ 24 สิงหาคม 2566 นี้ ผ่านช่องทางออนไลน์ของ AESLA ในทุก ๆ แพลตฟอร์มทั้ง Facebook, Instagram, Youtube, Line Official, TikTok และเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของเอสล่า ก่อนจะมีตอนต่อ ๆ ไปทยอยปล่อยออกมาตามลำดับ”