นายรัชตะ สุทธาพัฒน์ธานนท์ ผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส กลุ่มบริหารสินค้า Specialty บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ถึงแม้สถานการณ์เศรษฐกิจยังชะลอตัวอยู่ แต่พบว่า ยอดขายของเพาเวอร์ มอลล์ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี มีตัวเลขโดยรวมเติบโตมากกว่าปีที่แล้ว
โดยปัจจัยหลักมาจากการปรับปรุง 2 สาขาใหม่ คือ สาขาบางกะปิและบางแค และมีแรงหนุนจากผู้ประกอบการแบรนด์ที่มีนวัตกรรมและไลน์อัพสินค้าครบครันทุกกลุ่มสินค้า ประกอบกับลูกค้ามีความเข้าใจในการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น และต้องการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามาช่วยอำนวยความสะดวกสบายและตอบสนองไลฟ์สไตล์ ส่งผลให้ตลาดมีความคึกคักอย่างชัดเจน
ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในปีที่ผ่านมาพบว่ามีมูลค่าตลาดรวมราว 2.3 แสนล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 2% แบ่งออกเป็น กลุ่ม Audio มีมูลค่าตลาด 1.8 หมื่นล้านบาท ลดลง 6% กลุ่ม Electric Appliance 2 หมื่นล้านบาท เติบโต 11% กลุ่ม Home Appliance 5 หมื่นล้านบาท เติบโต 8% และกลุ่ม Communication 1.42 แสนล้านบาท ลดลง 1% โดยกลุ่มสินค้าที่มีแนวโน้มเติบโตดีและน่าจับตามอง ได้แก่ กลุ่มสินค้าโมบาย ไอที & เกมส์, เก็ตเจ็ต , Kitchen& Small Appliance และเครื่องปรับอากาศ
“ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าเริ่มส่งสัญญาณบวกและมีทิศทางการเติบโตที่ดีขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สะท้อนจากสัดส่วนยอดขายที่เพิ่มขึ้นของเพาเวอร์ มอลล์ ที่มีตัวเลขเติบโตขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันช่วงปีที่ผ่านมา และเพื่อรองรับความต้องการซื้อที่สูงขึ้น เพาเวอร์ มอลล์ ได้จับมือกับแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ามากกว่า 200 แบรนด์
ทั้งกลุ่มสินค้าโมบาย ไอที & เกมส์, เก็ตเจ็ต, ทีวี และออดิโอ, เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และสินค้าสุขภาพและไลฟ์สไตล์ จัดงาน “เพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า โชว์เคส” ถือเป็นซิกเนเจอร์มหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าของเมืองไทยขึ้น เพื่อนำเสนอสินค้า ภายใต้คอนเซ็ปต์ ABSOLUTE SENSES OF TECHNOLOGY”
สำหรับการจัดงาน “เพาเวอร์ มอลล์ อิเล็คทรอนิก้า โชว์เคส” ครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อ ดึงนักช้อปทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยมีทั้งสินค้าไฮไลท์และโปรโมชั่นในสโตร์ทุกสาขา และช่องทางออนไลน์ พร้อมเปิดตัวนวัตกรรมสินค้าใหม่มาเปิดตัวครั้งแรกในไทยก่อนใคร โดยชูนวัตกรรมเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่
ทั้งฟังก์ชั่น AI & Automation, Wellness & Healthy Lifestyle, และ Sustainability รับเทรนด์ที่กำลังมาแรง รวมทั้งยังมีโปรโมชั่นสินค้าลดสูงสุด 60%, รับฟรีคูปองส่วนลดเงินสดสูงสุด 15,000 บาท, ผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน, สมาชิก M CARD ลดเพิ่มสูงสุด 15%, และสิทธิพิเศษจากบัตรเครดิตที่ร่วมรายการด้วย โดยการจัดงานในปีนี้บริษัทใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นจากการจัดงานครั้งก่อน 10% และตั้งเป้าหมายที่จะมียอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 20%
นายรัชตะ กล่าวอีกว่า เชื่อว่าในไตรมาสสุดท้ายนี้ ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าจะกลับมาคึกคักมากขึ้นเนื่องจากการที่ลูกค้าเริ่มมีความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจ ทำให้เริ่มมีแนวโน้มการจับจ่ายที่เพิ่มมากขึ้น โดยเพาเวอร์ มอลล์ ยังคงเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังการซื้อเพื่อตอบโจทย์ความต้องการ กับไลฟ์สไตล์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นผ่านการเพิ่มพื้นที่การขายเพื่อขยายกลุ่มสินค้าที่เป็นตลาดใหญ่ รวมถึงสร้างภาพลักษณ์ใหม่ๆ ในแต่ละแบรนด์
“เพาเวอร์ มอลล์จะเดินหน้าเพิ่มความหลากหลายของไลน์อัพสินค้าด้วยฟังก์ชั่นใหม่ๆ รุกชิงส่วนแบ่งตลาดในเซ็กเมนต์ต่างๆอย่างครบครัน รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อเนื่องตลอดในช่วงไตรมาส 4 แบบครบทุกมิติ, กระตุ้นกำลังซื้อผ่านช่องทางการจำหน่าย นอกเหนือจากในห้างฯ ผ่าน MONLINE.COM เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ ยังเปิดตัวเพาเวอร์ มอลล์ เมกะสโตร์โฉมใหม่ ที่เดอะมอลล์ ไลฟ์สโตร์ บางกะปิ-บางแค ด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ครอบคลุม 2 สาขารวมกว่า 11,000 ตร.ม. เพื่อรองรับความเติบโตที่สูงขึ้นและการขยายตัวของเมืองอย่างต่อเนื่องของกรุงเทพฝั่งตะวันออกและกรุงเทพฝั่งตะวันตกด้วย”
หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,927 วันที่ 1 - 4 ตุลาคม พ.ศ. 2566