บิวเทรี่ยม บิวตี้ รีเทลชั้นนำ ฉลองครบรอบ 12 ปี จัดอีเว้นท์ใหญ่ใจกลางสยามสแควร์ ขนทัพคนดังสุดปังเข้าร่วมงาน พร้อมทุ่มงบ 2,000 ล้านบาท ขยายสาขาครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศภายในปี 2570 พร้อมเดินเกมส์รุกสู่การเป็นบิวตี้ รีเทล ระดับสากล ตั้งเป้าภายในสิ้นปี 2566 มี 37 สาขา ยอดขายโตก้าวกระโดด 112%
กรุงเทพฯ – วันนี้ (2 พ.ย. 2566) นายจิรวุฒิ โรจน์รัตนวลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวเทรี่ยม จำกัด (BEAUTRIUM) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมฉลองครบรอบ 12 ปี บิวเทรี่ยม ธุรกิจค้าปลีกความงาม (บิวตี้ รีเทล) ชั้นนำของประเทศ ด้วยการทุ่มงบ 20 ล้านบาท จัดกิจกรรมการตลาดครั้งยิ่งใหญ่เพื่อแทนคำขอบคุณลูกค้าทุกสาขา ภายใต้แคมเปญ "12 years Anniversary of Beautiful Success"
พร้อมกันนี้ยังวางแผนว่า นับจากนี้จนถึงปี 2570 จะใช้เงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง มุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจบิวตี้ รีเทล ที่มีสาขามากที่สุดในประเทศไทย รวมทั้งเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด เป็นบิวตี้ รีเทล ระดับสากล ที่ลูกค้าเข้าถึงได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายขยายสาขาเป็น 37 สาขา ภายในสิ้นปี 2566 ซึ่งคาดว่า จะช่วยสนับสนุนยอดขายของบิวเทรี่ยม ให้เติบโตได้ 112% เมื่อเทียบกับปี 2565
ขณะที่ ปี 2567 บริษัทมีแผนขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ พร้อมผลักดันยอดขายให้เติบโตได้อีกไม่ต่ำกว่า 80% จากปีนี้ และภายในปี 2570 คาดการณ์ว่า จะมีสาขาครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศได้ โดยเบื้องต้น บริษัทได้ปรับโฉมสาขาสยามสแควร์ครั้งใหญ่ เพื่อให้กลายเป็น Flagship Store หรือสาขาที่เป็นสัญลักษณ์ สะท้อน ความโดดเด่นของแบรนด์ อีกทั้งยังขยายไปยังทำเลสำคัญอื่นๆ อย่าง เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว เอสพลานาร์ด จังซีลอน เป็นต้น
“บิวเทรี่ยม จะให้ความสำคัญกับการคัดเลือกทำเลที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจสูง และมุ่งเน้นการออกแบบร้าน ให้มีบรรยากาศที่ลูกค้ารู้สึกเข้าถึงได้ง่าย สัมผัสได้ถึงประสบการณ์การช้อปปิงที่สนุกสนาน เพลิดเพลิน ผ่านการเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ทดลองสินค้าจริง พร้อมทั้งนำเสนอราคาและโปรโมชั่นที่โดนใจ ขณะเดียวกัน บริษัทก็ให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมระบบโลจิสติกส์ ซัพพลายเชน และโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการจัดการธุรกิจบิวตี้ รีเทล เพื่ออำนวยความสะดวกให้ธุรกิจคู่ค้าประสบความสำเร็จ เติบโตไปด้วยกันในอนาคต” นายจิรวุฒิ กล่าว
ด้าน นายอติโรจน์ โรจน์รัตนวลี ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัท บิวเทรี่ยม จำกัด กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แคมเปญ 12 years Anniversary of Beautiful Success ว่า ภายใต้แคมเปญนี้ บริษัทเตรียมจัดกิจกรรมอีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่เอาไว้ ใจกลางสยามสแควร์ ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 นี้ โดยจะมีการปิดถนนคนเดิน ขนทัพนักแสดงชั้นนำระดับประเทศ ศิลปินนักร้องชื่อดัง รวมทั้งเหล่าเซเลบริตี้ในวงการบิวตี้มาร่วมงาน พร้อมจัดโชว์สุดอลังการ เพื่อมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้ลูกค้าตลอดทั้งวัน
“ส่วนกลยุทธ์การตลาดที่บริษัทเตรียมไว้ เพื่อมุ่งหน้าสู่ความสำเร็จ และการเป็นผู้นำบิวตี้ รีเทล ในระดับสากล ก็คือ การใช้กลยุทธ์ Differentiation เน้นสร้างความแตกต่างและมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนให้กับแบรนด์บิวเทรี่ยม ผ่านการมอบประสบการณ์การให้บริการที่ประทับใจอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการจัดแคมเปญโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้ในแบรนด์ผ่านทุกแพลตฟอร์ม และการนำเสนอโปรโมชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี”
Q&A กับ BEAUTRIUM
Q. ความเป็นมาของ BEAUTRIUM
BEAUTRIUM เป็นการนำคำว่า Beauty (ความสวยความงาม) มารวมกับคำว่า Atrium (ห้องโถงใหญ่) เป็นการนำสินค้าที่เกี่ยวกับความสวยความงามต่างๆ มารวมไว้ในห้องโถงกว้าง ให้ลูกค้าได้เลือกช้อปกันกว่า 1,000 ประเภท โดยได้มีการแบ่งสัดส่วนสินค้าเป็น สกินแคร์ +37%, เมคอัพ +35%, Fragrance +8% และ others (อาทิ Personal care ต่างๆ) +20
วันแรกที่เปิดร้าน บิวเทรี่ยมเริ่มจากร้านค้าห้องไม่ใหญ่มาก เป็นการซื้อมาขายไป แนว Traditional trades หรือร้านโชห่วย แต่เรามีความมุ่งมั่นที่จะเป็นร้านค้าที่ดีขึ้น และหวังเป็นร้านค้าด้านบิวตี้ในใจของผู้บริโภคทุกกลุ่ม
Q. แผนงานปัจจุบัน กลยุทธ์ โอกาสความได้เปรียบ และภาพรวมของ BEAUTRIUM
วิสัยทัศน์ที่บิวเทรี่ยมมองไว้ คืออยากเป็นเพื่อนสนิทกับคนทุกเพศ ทุกวัย ที่คอยให้คำแนะนำที่ถูกต้องให้กับลูกค้าด้วยความจริงใจ เป็นเพื่อนที่อยู่คู่กับชีวิตของผู้คนตลอดไป ในส่วนของกลยุทธ์มีอยู่หลักๆ 3 ข้อ
นอกจากนี้ บิวเทรี่ยมได้มีการพัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการ รวมถึงให้ความสำคัญของการคัดเลือกสินค้า ที่ต้องเป็นของแท้ คุณภาพได้มาตรฐาน เพื่อที่ลูกค้าจะได้รับสินค้าในราคาที่เหมาะสมกับคุณภาพการใช้งาน มีการจัดเก็บสินค้า จะมีการจัดเก็บสินค้าแต่ละประเภทอย่างถูกวิธี เพื่อให้สินค้ายังคงความมีประสิทธิภาพ ลูกค้าก็จะได้รับสินค้าคุณภาพดีที่สุด
มีการทำ CRM เพื่อจัดเก็บข้อมูล(DATA) ของลูกค้า ทั้งการสะสมแต้ม และส่วนลดต่างๆ และเพื่อนำไปต่อยอดให้มีสินค้าใหม่ๆออกมาตอบโจทย์ลูกค้า รวมถึงลูกค้าจะต้องได้รับการบริการที่ดี บิวเทรี่ยมจึงได้มีการเทรนพนักงานและเจ้าหน้าที่ให้พร้อมสำหรับการให้บริการลูกค้า เสมือนเพื่อนคู่คิด อีกทั้งยังรอบรับการจำหน่ายสินค้า ทั้งด้าน Online และ offline รวมไปถึงขยับขยายไปสู่การจัดส่งสินค้าแบบ Delivery
ด้าน Marketing Plans บิวเทรี่ยมมีการเพิ่มงบการตลาดเป็น 2 เท่า สำหรับใช้ในการจัดงานอีเว้นท์ และกิจกรรมต่างๆ ร่วมกับคู่ค้าและลูกค้า จะมีการลงทุนในเรื่องของการสร้างแคมเปญ และการร่วมมือกับ Influencer มากมาย เพื่อเป็นพื้นที่ในการพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ด้านบิวตี้ไปด้วยกัน รวมถึงมีการจัดพื้นที่ให้ลูกค้าได้เข้ามา Workshop พร้อมกับมีโซนขนมและเครื่องดื่มพร้อมบริการ
อีกทั้งจะมีการขยายเพิ่มแบรนด์ในส่วนของสินค้าพรีเมียมต่างๆ ประกอบกับสินค้าในหมวดของ Health&Wellness ที่ผู้คนให้ความสนใจกันเพิ่มขึ้น จะมีการเพิ่มในส่วนของสินค้าสำหรับผิวกาย อาทิ น้ำหอมต่างๆ รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ Home fragrance เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการ
ทั้งนี้ ได้มีการร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมให้ทันกระแสนิยมและความต้องการในสินค้าของลูกค้า รวมถึงลงทุนทำแคมเปญโฆษณา และโปรโมชัน เพื่อสร้างการจดจำให้ลูกค้า และทำให้บิวเทรี่ยมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของทุกคน
Q. ความคาดหวังหลังครบรอบ 12 ปี BEAUTRIUM
จากครบรอบ 12 ปี ปีนี้เป็นอีกปีหลังจากที่ผ่านสถานการณ์โควิดมา บิวเทรี่ยมเล็งเห็นถึงสัญญาณการเติบโตที่ดี โดยในแคมเปญครบรอบ 12 ปี จัดเต็มแน่นอน ทั้งในเรื่องของส่วนลดสินค้า คะแนน และของขวัญต่างๆ ทั้งนี้ การจัดงานครบรอบ 12 ปีในครั้งนี้ นับเป็นงานที่ใหญ่ที่สุดที่บิวเทรี่ยมเคยมีมา พร้อมทะยานสู่ความเป็น BEAUTY SPECIALTY RETAILER ระดับแนวหน้าของประเทศไทยและระดับสากล โดยจะไม่หยุดพัฒนา พร้อมส่งต่อประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์ที่เป็นมากกว่าบิวตี้ สำหรับทุกวันของการช้อปปิ้ง
Q. งบ 2,000 ล้านบาท ลงทุนอะไรบ้าง
บิวเทรี่ยมจะใช้สำหรับการเปิดสาขาเพิ่มให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ในราวๆ 10 จังหวัด แต่ยังคงขาดสาขาในแถบภาคเหนืออยู่ จึงวางแผนที่จะขยายเพิ่มเติม โดยภายในปีหน้า บิวเทรี่ยมคอนเฟิร์มจะมีการเปิดเพิ่มมากกว่า 10 สาขา คาดจะทำให้ได้ตามแผนการดำเนินงาน 5 ปี (2566-2570) และภายในปี 70 คาดจะเปิดได้รวม กว่า 100 สาขาทั่วประเทศไทย
รวมถึงจะมีการใช้งบประมาณนี้รวมกับการขยับขยายทุกอย่าง ทั้งในเรื่องการก่อสร้าง การวางระบบ และสินค้า ทั้งนี้ ยังไม่รวมกับงบสำหรับคลังสินค้า ที่ปัจจุบันบิวเทรี่ยมมีการเช่าแวร์เฮาส์อยู่ 1 แห่ง และอนาคตวางแผนที่จะขยายคลังต่อไป
Q.มุมมองภาพรวมของอุตสาหกรรมความงามในหลายๆ ภาคธุรกิจ และแผนดำเนินงานในตลาดต่างประเทศ
ปัจจุบัน บิวเทรี่ยมมีการเติบโตราว 12% และมีมูลค่าหมื่นกว่าล้านบาท ในด้านของตลาดต่างประเทศนั้น กำลังศึกษาแผนในเรื่องของกฏหมายและข้อกำหนดต่างๆ รวมถึงเรื่องการเปิดสาขาในแถบเอเชีย เล็งประเทศเวียดนามเป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าสนใจ เนื่องจากผู้คนมีการใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์ใกล้เคียงกับไทย ทั้งนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ในด้านของการขยายกลุ่มสินค้าเพิ่มเติม มีทั้งที่กำลังเจรจาอยู่ราวๆ 10 แบรนด์ ไม่รวมกับแบรนด์ Exclusive อีกนับ 10 แบรนด์ที่เริ่มมีการนำร่องจำหน่ายไปบ้างแล้ว
Q. แผนการพา BEAUTRIUM เข้าตลาดหลักทรัพย์
ในส่วนของการเข้าตลาดนั้น ขอดูสถานการณ์ สภาพแวดล้อมต่างๆ การแข่งขัน เศรษฐกิจ รวมถึงจังหวะเวลาที่เหมาะสมอีกครั้ง และอาจมีแนวโน้มเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต ทั้งนี้ บิวเทรี่ยมมีสมาชิกลูกค้าอยู่ราวๆ หลักล้าน รวมถึงนักท่องเที่ยวจีนที่มาใช้บริการพุ่งเกิน 2 ล้านคน ในส่วนของผลกระทบจากยอดขายหลังอัตรานักท่องเที่ยวต่างชาติในไทยลดลง มองว่าธุรกิจยังสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องมาในทุกๆ ปี มั่นใจจะสามารถดำเนินธุรกิจให้เติบโตต่อไปได้
นายจิรวุฒิ และ นายอติโรจน์ ทิ้งท้ายว่า บิวเทรี่ยมอยากที่จะดำเนินธุรกิจให้เติบโตไปสู่ตลาดระดับสากล รวมถึงอยากสร้างสรรค์พื้นที่ความสวยความงามให้ทุกคนได้รับประสบการณ์ และความสุขกลับไปทุกครั้งที่มาช้อปที่ BEAUTRIUM มั่นใจจะสร้างบิวเทรี่ยมให้เป็นผู้นำบิวตี้ รีเทล ที่สามารถเข้าแข่งขันในตลาดสากลได้