“เบทาโกร” ขยับทัพทรานส์ฟอร์มองค์กร สร้างแลนด์สเคปธุรกิจใหม่

03 มี.ค. 2567 | 05:50 น.
อัปเดตล่าสุด :03 มี.ค. 2567 | 05:54 น.

"เบทาโกร " เปิดกลยุทธ์ ปี 67 ขับเคลื่อนธุรกิจให้โต 5-10% พร้อมเดินหน้าทรานส์ฟอร์มองค์กร ดึงผู้บริหารวิสัยทัศน์ไกลเสริมแกร่งตามกรอบ ESG มุ่งสู่ความยั่งยืนทุกภาคส่วน

นายวสิษฐ แต้ไพสิฐพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG เปิดเผยว่า บริษัทวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจปี 2567 เพื่อนำพาเบทาโกรไปสู่ “บริษัทอาหารครบวงจรชั้นนำของไทยที่มุ่งมั่นเพิ่มคุณค่าชีวิตทุกคน ด้วยอาหารที่ดีกว่า” โดยวาง 3 กลยุทธ์หลักซึ่งเป็นหัวใจในการสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน ให้เบทาโกรและอุตสาหกรรมอาหาร ด้วยการสร้างแลนด์สเคปการทำงานในรูปแบบใหม่ เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายการเติบโต 5-10% ได้แก่ 

“เบทาโกร” ขยับทัพทรานส์ฟอร์มองค์กร สร้างแลนด์สเคปธุรกิจใหม่

1) กลยุทธ์การขยายกำลังการผลิต (Capacity Expansion) ด้วยการลงทุนอย่างต่อเนื่อง อาทิ โรงงานผลิตอาหารสัตว์ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ฟาร์มปศุสัตว์และโรงงานแปรรูปอาหาร โรงงานผลิตอาหารสัตว์ที่ประเทศลาว รวมทั้งขยายโรงงานผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงที่จังหวัดลพบุรี เป็นต้น พร้อมการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยยกระดับการผลิตให้ทันสมัย เพิ่มประสิทธิผลให้ดียิ่งขึ้น 

2) กลยุทธ์ปรับพอร์ตสินค้าและช่องทางการจำหน่าย เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร  (Product & Channel Mix Adjustment) มุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่มีราคาขายและอัตรากำไรที่สูงขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้และส่วนแบ่งการตลาด พร้อมขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เช่น ร้านเบทาโกรช็อป ช่องทางฟู้ดเซอร์วิส และช่องทางการส่งออก เป็นต้น 

3) กลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารจัดการต้นทุนตลอดห่วงโซ่อุปทาน (Cost Transformation) เพื่อเพิ่มผลผลิตที่มีคุณภาพและผลิตภาพ รวมถึงเพิ่มความสามารถในการทำกำไรที่ดียิ่งขึ้น อาทิ การผลิตปศุสัตว์ และระบบการขนส่ง เป็นต้น 

กลยุทธ์ดังกล่าวจะผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ กลุ่มธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรม (Agro Business) กลุ่มธุรกิจอาหารและโปรตีน (Protein & Food Business) กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ (International Business) และกลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง (Pet Business) พร้อมเสริมทัพผู้นำ ด้วยทีมบริหารที่มีประสบการณ์และวิสัยทัศน์ไกล สร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กร เตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกปัจจุบัน โดยทั้งหมดนี้เป็นการขับเคลื่อนธุรกิจภายใต้กรอบ ESG (Environmental, Social, Governance) 

“เบทาโกร” ขยับทัพทรานส์ฟอร์มองค์กร สร้างแลนด์สเคปธุรกิจใหม่
    
ทั้งนี้ บริษัทได้ทรานส์ฟอร์มองค์กรอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดได้ดึงผู้บริหารที่มีประสบการณ์และวิสัยทัศน์ไกล ร่วมขับเคลื่อนธุรกิจ โดยประกาศแต่งตั้ง 5 ผู้บริหารใหม่ นำโดย “นางสาวดุลยา พวงทอง” ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ กลุ่มงานบริหารการเงิน, “นางสาวเยเนอเวียบ ศิริวรรณ ฟิเนท์” ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ กลุ่มงานทรัพยากรมนุษย์, นายชยธร แต้ไพสิฐพงษ์” ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ กลุ่มงานกลยุทธ์และนวัตกรรม “นายสมศักดิ์ บุญลาภ” ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มผลิตปศุสัตว์ และ “นายไพฑูรย์ จิรานันตรัตน์” ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ กลุ่มงานพัฒนาประสิทธิภาพ การผลิต และซัพพลายเชน 

พร้อมกับวางพันธกิจดำเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืนภายใต้กรอบ ESG (Environmental, Social, and Governance) กับ 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1) การให้ความสำคัญคุณภาพและความปลอดภัยด้านอาหาร 2) การจัดการการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 3) การพัฒนาชุมชน 4) การพัฒนาบรรจุภัณฑ์เพื่อความยั่งยืน และ 5) อาชีวอนามัยและความปลอดภัย

สำหรับในปี 2566 ที่ผ่านมา บริษัทเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยภายนอกหลากหลาย ทั้งสถานการณ์ราคาสุกรตกต่ำ จากการลักลอบนำเข้าชิ้นส่วนและเนื้อสุกรจากต่างประเทศอย่างผิดกฎหมาย ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่งผลต่อผลการดำเนินงานมีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 108,638 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา และมีผลขาดทุนสุทธิ 1,398 ล้านบาท 

“เบทาโกร” ขยับทัพทรานส์ฟอร์มองค์กร สร้างแลนด์สเคปธุรกิจใหม่

อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงมีโครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่ง โดยสามารถบริหารอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (IBD/E) อยู่ที่ 0.97 เท่าในปี 2566 และ TRIS Rating คงอันดับเครดิตที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ศักยภาพการดำเนินธุรกิจและโอกาสเติบโตของบริษัทฯ  

“เบทาโกร เชื่อมั่นว่าภายใต้การกำหนดกลยุทธ์ 2024 และความมุ่งมั่นก้าวสู่ ‘บริษัทอาหารครบวงจรชั้นนำของไทยที่มุ่งมั่นเพิ่มคุณค่าชีวิตทุกคน ด้วยอาหารที่ดีกว่า’ จะเป็นก้าวที่สำคัญสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับเบทาโกร รวมทั้งในทุกภาคส่วน ทั้งผู้บริโภค พันธมิตรทางการค้า พนักงาน ชุมชน สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่ร่วมเติบโตและยั่งยืนไปพร้อมกับเรา” นายวสิษฐ กล่าว