“วอริกซ์” (Warrix) แบรนด์เสื้อผ้ากีฬาดัง ที่เคยสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการฟุตบอลเมืองไทย หลังทุ่มเงินกว่า 400 ล้านบาท คว้าสิทธิ์เป็นสปอนเซอร์ชุดฟุตบอลทีมช้างศึกของไทย สูงกว่าคู่แข่ง 2 เท่าตัว จนทำให้สปอตไลท์สาดส่องว่าเขาคือใคร
กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ทำให้ “วอริกซ์” มียอดขายเติบโตแบบก้าวกระโดด และสร้างแบรนด์ให้คนไทยรู้จักและเป็นจุดเริ่มต้นให้ทีมฟุตบอลต่างชาติเริ่มหันมามอง “วอริกซ์” สมกับเป้าหมายที่ “วิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล”ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) ตั้งใจไว้
จุดพลิกเกมครั้งสำคัญของวอริกซ์ เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อประกาศนำบริษัทเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ในปลายปี 2565 เพื่อระดมทุนกว่าพันล้านบาท นำมาเป็นทุนหมุนเวียนการทำธุรกิจโดยไม่ต้องพึ่งพาธนาคารพาณิชย์ เพราะ “วิศัลย์” บอกว่า เป้าหมายในสเต็ปต่อไปคือ “ผู้นำแบรนด์สินค้ากีฬาและไลฟ์สไตล์ของอาเซียน”
เริ่มจากการเข้าไปเป็นสินค้า Licensed Product ให้กับทีมชาติ ทีมสโมสร ของกีฬาประเภทต่างๆ เช่น ฟุตบอล บาสเกตบอล เทเบิลเทนนิส ฯลฯ ทั้งในไทยและต่างประเทศ
ตามด้วยการเข้าซื้อกิจการ Premier Football ร้านจำหน่ายเสื้อผ้าและอุปกรณ์อันดับ 2 ในสิงคโปร์ เป็นดีลเลอร์สินค้าลิขสิทธิ์แบรนด์ดังชั้นนำ ทั้ง Adidas ,แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล เป็นต้น ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาอันดับ 2 ในสิงคโปร์ ด้วยมูลค่ารวม 8 แสนเหรียญดอลลาร์สิคโปร์ หรือราว 20 ล้านบาท ซึ่งแม้ในปีที่ผ่านมาจะยังไม่สามารถทำกำไรได้ แต่ก็มีแนวโน้มที่ดี
ล่าสุด “วอริกซ์” ขยับตัวครั้งใหญ่อีกครั้ง กับการลงนามสัญญาทางการค้าแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายและการอนุญาตให้ใช้เครื่องหมายการค้าระหว่าง บริษัท วอริกซ์ สปอร์ต จำกัด (มหาชน) กับ SHANGHAI HUIZHONG TECHNOLOGY CO., LTD. ณ นครเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายวิศัลย์ วนะศักดิ์ศรีสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. วอริกซ์ สปอร์ต และ Mr. Wang Wei ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SHANGHAI HUIZHONG TECHNOLOGY CO., LTD เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา
“เราเริ่มพูดคุยกับ SHANGHAI HUIZHONG TECHNOLOGY CO., LTD ผู้บริหารห้าง Himaxx ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 ซึ่งแน่นอนว่า เขามองเห็นศักยภาพและโอกาสเห็นว่า วอริกซ์ สปอร์ต มีความแข็งแกร่งในด้านการดำเนินธุรกิจจำหน่ายเสื้อผ้า อุปกรณ์กีฬา มองเห็นโอกาสสร้างการรับรู้แบรนด์วอริกซ์ในกลุ่มลูกค้าชาวจีนขณะที่วอริกซ์เอง เราไม่ต้องลงทุนอะไรเลย และเขามองว่าวอริกซ์สามารถเจาะช่องว่างระหว่างแบรนด์ท้องถิ่นและแบรนด์อินเตอร์ในจีนได้”
สำหรับการลงนามสัญญาทางการค้านี้ สาระสำคัญคือ 1. สัญญาแต่งตั้ง SHANGHAI HUIZHONG TECHNOLOGY CO., LTD และบริษัทในเครือ เช่น Himaxx Outlet เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าของบริษัทในประเทศจีน และ 2. สัญญาการอนุญาตให้บริษัท SHANGHAI HUIZHONG TECHNOLOGY CO., LTD ใช้เครื่องหมายการค้าของบริษัท ในการผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าภายใต้แบรนด์ “วอริกซ์” ในประเทศจีน โดยสัญญามีระยะเวลา 5 ปี โดยเมื่อสัญญาครบกำหนดแล้วคู่สัญญาทั้ง 2 ฝ่ายจะทบทวนในการต่อสัญญาไปอีก 5 ปี นับจากวันสิ้นสุดสัญญาฉบับเดิม
“วิศัลย์” บอกอีกว่า ห้าง Himaxx เป็นห้างค้าปลีกรายใหญ่ในเซี่ยงไฮ้และรอบๆเซี่ยงไฮ้ และยังเป็นตัวแทนจำหน่ายลิขสิทธิ์แบรนด์ชั้นนำ อาทิ Nike, Adidas, Puma ฯลฯ ปัจจุบันมีสาขา 22 แห่ง ในรูปแบบ City Plaza Outlet ซึ่งมีพื้นที่ราว 3 หมื่น – 1 แสน ตร.ม. และ Hyper Store Outlet มีพื้นที่ราว 1 - 2 หมื่นตร.ม. และมีช่องทางการจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ที่แข็งแรง โดยในปีนี้มีแผนขยายสาขาเพิ่มขึ้นเป็น 30 แห่ง และภายในปี 2568 จะเพิ่มเป็น 160 แห่ง เฉลี่ยพื้นที่ 1 หมื่นตร.ม. ต่อแห่ง
“ความร่วมมือครั้งนี้ มีความเชื่อมั่นมาก เพราะ Himxx มีความเชี่ยวชาญด้านค้าปลีกในจีน และมีข้อพิสูจน์ให้เห็นจากผลงานที่ผ่านมา ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมา จากการมีพื้นที่ขายเอง มีระบบการบริหารต้นทุนที่ดี การวิจัยและพัฒนา ตลอดจนการดีไซน์ร่วมกัน มีระบบการบริหารจัดการทั้งในออฟไลน์และออนไลน์ที่ดี มีฐานลูกค้ามากกว่า 3.5 ล้านราย สิ่งเหล่านี้จะเป็นโนฮาวให้วอริกซ์ได้เรียนรู้ และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์”
อย่างไรก็ดี หลังจากนี้จะมีการทำเวิร์กชอปร่วมกันระหว่างวอริกซ์และ Himaxx ซึ่งจะมีข้อสรุปและแนวทางร่วมกัน ซึ่งในอนาคตเราย้ายฐานการผลิตไปอยู่ที่จีน และยังมีแผนขยายช่องทางจำหน่ายที่หลากหลายมากขึ้น
“ความร่วมมือในครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงวอริกซ์ที่สนใจขยายธุรกิจเข้าไปในประเทศจีน แต่ Himaxx เองก็สนใจที่จะขยายธุรกิจเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และใช้เป็นฐานในการเชื่อมโยงสู่ตลาดอาเซียนเช่นกัน”