การใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย อาจหมายถึงการใช้จ่ายเงินในร้านอาหารหรูๆ ในช่วงวันหยุด และเสื้อผ้าราคาแพงของดีไซเนอร์ดัง แต่ทุกวันนี้สิ่งที่ถือว่าคุ้มค่าที่จะใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยนั้นได้รับความสนใจน้อยลง สะท้อนจากรายงานประจำเดือนกุมภาพันธ์จาก McKinsey & Company พบว่า "ร้านขายของชำ" กำลังเป็นสถานที่สำคัญลำดับแรกๆ ในการใช้จ่ายสำหรับคนรุ่นใหม่ทั้ง Gen Y และ Gen Z
ข้อมูลที่น่าสนใจนี้มาจากการสอบถามผู้คนมากกว่า 4,000 คนในสหรัฐฯ ตั้งแต่รุ่นเบบี้บูมเมอร์ไปจนถึงรุ่น Gen Z เกี่ยวกับหมวดหมู่ที่พวกเขาตั้งใจจะใช้จ่ายในปีนี้ ซึ่งร้านขายของชำได้รับการจัดอันดับสูงสุดสำหรับคนรุ่นมิลเลนเนียลหรือ Gen Y และ Gen Z แซงหน้า ร้านอาหาร บาร์ การท่องเที่ยว ความงาม การดูแลตัวเอง เครื่องแต่งกาย และการออกกำลังกาย
รายงานระบุว่า ผู้บริโภค วางแผนเพิ่มการซื้อสิ่งของที่จำเป็น โดยเฉลี่ยคาดว่าจะใช้จ่ายมากขึ้นในการซื้อของสด เช่น เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากนม ซึ่งรวมถึงสินค้าที่อาจจะพบได้ในร้านขายของชำ เช่น อาหารที่เก็บในชั้นวางได้หรืออาหารแช่แข็ง
สำหรับ "คนรุ่นมิลเลนเนียล" เป็นไปได้ว่ากำลังกลายเป็นพ่อแม่ ซึ่งหมายความว่า ต้องใช้จ่ายกับตัวเอง คู่ครอง และลูกๆ มากขึ้น ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่โดดเด่นนับตั้งเเต่ปี 2018 ซึ่งช่วงนั้น กลุ่มคนรุ่นเก่าอย่างเบบี้บูมเมอร์ และ Gen X ใช้จ่ายกับร้านขายของชำมากกว่าคนรุ่นมิลเลนเนียล
"เราชอปปิ้งที่ร้านขายของชำบ่อยขึ้นเพื่อซื้อของที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ทำให้ประหยัดเงินและใช้เวลาร่วมกันทำอาหารและทานอาหารด้วยกัน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ win-win สำหรับทุกคนจริงๆ" คนมิลเลนเนียล จากโอไฮโอ กล่าวในรายงาน
Business Insider สัมภาษณ์ Gen Z วัย 23 ปีคนหนึ่ง บอกว่า ใช้เงินประมาณ 130 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปกับ "การซื้อของชำ" ในระยะเวลา 1 สัปดาห์ "น้ำอัดลมและเครื่องดื่มหลากสี" และ "ของว่างแบบสุ่มที่ร้าน Trader Joe's" ถือเป็นค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ เเละยังบอกด้วยว่า ใช้เงินประมาณ 35 ดอลลาร์ไปกับการซื้อโปรตีนบาร์
ในรายงานระบุว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ มีความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อลดลงเล็กน้อยจากไตรมาสก่อน ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคมองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในแง่ดีถึงระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปี แม้ว่าผู้บริโภคในสหรัฐฯ จะรู้สึกกดดันน้อยลง แต่ 20% ยังคงมองโลกในแง่ร้ายเกี่ยวกับเศรษฐกิจ