ฟอร์มดี ‘ยักษ์ค้าปลีก’ ไตรมาส 1/67 กวาดรายได้-กำไร โตถ้วนหน้า

19 พ.ค. 2567 | 01:21 น.
อัปเดตล่าสุด :19 พ.ค. 2567 | 01:52 น.

บิ๊กค้าปลีกเฮ! “CRC-CPN-CPALL-CPAXT ฟอร์มดี กวาดรายได้-กำไรโตถ้วนหน้า ชี้ปัจจัยสำคัญจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มสูงขึ้น กำลังซื้อที่ฟื้นตัว มาตรการภาครัฐที่กระตุ้นให้มีการจับจ่าย แผนอัดงบการตลาด พร้อมประกาศเดินหน้าลงทุนต่อ

ถือเป็นปีทองของกลุ่มรีเทลอีกครั้ง เมื่อพบว่าไตรมาส 1/67 บิ๊กเนมในวงการค้าปลีกต่างมีผลประกอบการที่เติบโตถ้วนหน้าทั้งรายได้และกำไร แม้เศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่ปัจจัยหลักมาจาก เป็นช่วงไฮซีซันของธุรกิจที่มีบิ๊กอีเว้นต์ใหญ่ต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นเทศกาลปีใหม่, ตรุษจีน, วันวาเลนไทน์ ฯลฯ ที่ล้วนเป็นแรงกระตุ้นให้มีการจับจ่าย รวมทั้งมาตรการของภาครัฐที่ออกมากระตุ้นการบริโภคทั้งของคนไทยและดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยเฉพาะฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีน

CRC กวาด 6.7 หมื่นล้าน เริ่มต้นเป็นผลงานของ “เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น” หรือซีอาร์ซี ที่คุมบังเหียนกลุ่มค้าปลีกในกลุ่มเซ็นทรัล ที่พบว่าผลประกอบการในไตรมาสแรก ทำรายได้รวมกว่า 67,255 ล้านบาท เติบโต 6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน มีกำไรสุทธิ 2,524 ล้านบาท เติบโต 14% ส่วนของยอดขายผ่านแพลตฟอร์มออมนิแชแนลมีสัดส่วนอยู่ที่ 19%

  ฟอร์มดี ‘ยักษ์ค้าปลีก’ ไตรมาส 1/67  กวาดรายได้-กำไร โตถ้วนหน้า

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น ให้เหตุผลที่ทำให้เซ็นทรัล รีเทลมีการเติบโตว่า มาจากการมีอีโคซิสเต็มที่แข็งแกร่งและพอร์ตฟอลิโอที่มีความยืดหยุ่นของเซ็นทรัล รีเทล ที่ประกอบไปด้วยกลุ่มธุรกิจเรือธงหลักอย่าง กลุ่มแฟชั่น, กลุ่ม B2B / B2C และธุรกิจค้าปลีกในประเทศเวียดนาม เป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการเติบโตในไตรมาส 1/67

โดยกลุ่มแฟชั่น CMG ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ได้รับสิทธิ์เป็นผู้จัดจำหน่าย Paul Smith แฟชั่นลักชัวรีจากอังกฤษ และ Jung Saem Mool แบรนด์เมกอัพชื่อดังจากเกาหลี ส่วนกลุ่ม B2B / B2C “GO Wholesale” แม้จะเป็นน้องใหม่ในตลาดค้าส่ง B2B แต่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เปิดสาขาไปแล้ว 7 แห่ง และตั้งเป้าหมายให้มี 50 แห่งภายใน 5 ปี

 และ “ไทวัสดุ” เตรียมขยายเพิ่มอีก 9 สาขา ปรับโฉมใหม่ Flagship Store สาขาบางนาและบางบัวทอง และในเวียดนาม เตรียมเปิด GO! ศูนย์การค้า และ GO! ไฮเปอร์มาร์เก็ต เพิ่มอีก 3 สาขาพร้อม รีโนเวท Flagship Store ที่ฮานอยและโฮจิมินห์

CPN ปลื้มกำไรโต 28% ขณะที่ บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา หรือ CPN เปิดผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2567 ผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่ามีรายได้รวม 12,234 ล้านบาท เติบโต 19% และกำไรสุทธิ 4,154 ล้านบาท เติบโต 28% จากปีก่อน โดยปัจจัยสำคัญที่ทำให้ CPN เติบโตอย่างมีนัยสำคัญคือ ภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคัก โครงการ Easy E-Receipt รวมถึงกลยุทธ์ธุรกิจแบบผสม (Mixed-use Development) ซึ่งเป็นจุดแข็งของบริษัทเองด้วย

ฟอร์มดี ‘ยักษ์ค้าปลีก’ ไตรมาส 1/67  กวาดรายได้-กำไร โตถ้วนหน้า

นางสาวนภารัตน์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงินและรองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานการเงิน บัญชีและบริหารความเสี่ยง “เซ็นทรัลพัฒนา” บอกว่า เซ็นทรัลพัฒนามีผลประกอบการที่ดีขึ้นจากปีก่อนหน้าในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่พักอาศัยที่มีรายได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว ขณะที่ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาบริษัทมีการเปิดตัวโครงการศูนย์การค้าต่างจังหวัด 2 แห่ง คือ เซ็นทรัล นครสวรรค์และเซ็นทรัล นครปฐม พร้อมกับเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม เอสเซ็นท์ นครสวรรค์ และนครปฐม ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และยังเปิดตัวโครงการบ้านนิรดา วงแหวน-เอกชัย ในเดือนมกราคมที่ผ่านมาอีกด้วย

CPALL กำไรพุ่ง 6,319 ล้าน บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ก็มีผลประกอบการที่ท็อปฟอร์มเช่นกัน โดยผลการดำเนินงาน ไตรมาส 1/2567 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค. 2567 มีรายได้รวม 2.4 แสนล้านบาท กำไรสุทธิ 6,319 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน คิดเป็น 8.5%

โดยธุรกิจเรือธงอย่างร้านสะดวกซื้อ “เซเว่น อีเลฟเว่น” สิ้นไตรมาส 1 ปี 2567 บริษัทมีร้านสาขาทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 14,730 สาขาแบ่งเป็น ร้านสาขาบริษัท 7,485 สาขา (51%) ร้านเปิดใหม่ 149 สาขา ในไตรมาสนี้ ร้าน SBP และร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วง อาณาเขต 7,245 สาขา (49%) ร้านเปิดใหม่ 36 สาขา โดยร้านสาขาส่วนใหญ่ยังเป็นร้านที่ตั้งสแตนด์อะโลน 86% ของสาขาทั้งหมด และส่วนที่เหลือเป็นร้านในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.

นางสาวจิราพรรณ ทองตัน หัวหน้านักลงทุนสัมพันธ์ บมจ.ซีพี ออลล์ (CPALL) กล่าวว่า ในไตรมาส 2/2567 ซีพีออลล์ยังคงเติบโตต่อเนื่องเห็นได้จากในช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ที่เป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ และสภาพอากาศที่ร้อนทำให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าและบริการ ทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งรวมถึงการขยายเครือข่ายร้านสาขาต่อเนื่องไปตามการขยายตัวของชุมชน โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ แหล่งท่องเที่ยว และทำเลที่มีศักยภาพอื่นๆ

เพื่ออำนวยความสะดวกและเข้าถึงความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด โดยยังคงแผนเปิดสาขาใหม่ในปีนี้อีก 700 สาขา จากสิ้นไตรมาส 1/2567 ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ เปิดร้านสาขาใหม่รวมทั้งสิ้น 185 สาขา ส่งผลบริษัทมีจำนวนร้านสาขาทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 14,730 สาขา

ฟอร์มดี ‘ยักษ์ค้าปลีก’ ไตรมาส 1/67  กวาดรายได้-กำไร โตถ้วนหน้า

ทั้งนี้บริษัทยังมีแผนการเปิดสาขาใหม่ในประเทศกัมพูชา อีก 10 สาขา ส่วนในสปป.ลาว คาดเปิดในจำนวนหลักหน่วย จากไตรมาส 1/67 มีสาขาอยู่ที่ 84 สาขา และ 4 สาขา ตามลำดับ โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนปีนี้ประมาณ 12,000-13,000 ล้านบาท แบ่งเป็น การเปิดร้านสาขาใหม่ 3,800- 4,000 ล้านบาท การปรับปรุงร้านเดิม 2,900 -3,500 ล้านบาท โครงการใหม่, บริษัทย่อยและศูนย์กระจายสินค้า 4,000-4,100 ล้านบาท และลงทุนระบบไอทีที่ใช้ภายในองค์กร 1,300-1,400 ล้านบาท

CPAXT ธุรกิจค้าส่งปัง ขณะที่ นายธานินทร์ บูรณมานิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ซีพี แอ็กซ์ตร้า มีรายได้ 1.27แสนล้านบาท มีกำไรสุทธิ 2,481.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.58% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยรายได้จากการขายของกลุ่มธุรกิจค้าส่งเติบโต 6% จากการเติบโตของยอดขายภายในสาขาเดิม และการขายออนไลน์และการขายนอกร้านพร้อมการส่งสินค้าถึงลูกค้า (Omni Channel) และสาขาใหม่ของธุรกิจแม็คโครประเทศไทย

“ธุรกิจแม็คโครต่างประเทศและธุรกิจฟูดเซอร์วิส รวมถึงรายได้จากการขายของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกเพิ่มขึ้น 6.7% จากกลยุทธ์ในการมุ่งเน้นอาหารสดและการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ทั้งนี้สัดส่วน Omni Channel ของบริษัทและบริษัทย่อยคิดเป็น 16.3% ของรายได้จากการขาย ซึ่งดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 15% โดยเชื่อว่ารายได้ในปีนี้ จะสร้างยอดขายและอัตรากำไรที่ดีขึ้น รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่ลดลงด้วย”คงต้องจับตาต่อไปว่าในไตรมาส 2 ที่ย่างก้าวเข้าสู่ฤดูฝนและไร้มาตรการผลักดันของภาครัฐ เส้นทางของธุรกิจค้าปลีกจะยังคงสดใสและเติบโตหรือไม่

 

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 3,993 วันที่ 19 - 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2567