ข้อมูลจาก LGBT Capital ระบุว่า ในปี 2565 มีชาว LGBTQ+ ที่มีอายุมากกว่า 15 ปีทั่วโลก จำนวน 388 ล้านคน มีมูลค่าการใช้จ่ายราว 4.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ซึ่งก่อให้เกิดเม็ดเงินไหลเวียนทางเศรษฐกิจมหาศาลและถูกเรียกว่า “Rainbow Economy” ส่งต่อไปยังหลายประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย ที่พบว่าตลาดนักท่องเที่ยวกลุ่ม LGBTQ+ ทำรายได้เป็นอันดับ 1 ในเอเชียและอันดับ 4 ของโลก หรือคิดเป็นมูลค่าสูงถึง 2.3 แสนล้านบาท
วันนี้จึงเป็นหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงเอกชนต่างออกมาผลักดันและสนับสนุนให้เกิดกิจกรรม Pride Month เดือนแห่งความภาคภูมิใจของ LGBTQ+ ทั่วโลก โดย ททท. ตั้งเป้าหมายที่จะให้ประเทศไทยเป็น Top LGBTQ+ Friendly Destination ด้วยการสร้างพันธมิตรทางการท่องเที่ยว ขยายเครือข่ายทางธุรกิจ เพิ่มโอกาสทางการตลาดและสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งคาดว่าการจัดกิจกรรม Pride Month ตลอดเดือนมิ.ย. นี้จะทำให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท
นางสรัลธร อัศเวศน์ รอง กรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารธุรกิจศูนย์การค้า บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กลุ่มบริษัทสยามพิวรรธน์ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การสนับสนุนการจัดงาน “Bangkok Pride Festival 2024” เพื่อร่วมฉลอง Pride Month เดือนแห่งความภาคภูมิใจ ของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศนี้
ถือเป็นบิ๊กอีเว้นท์ที่ใหญ่ที่สุดในไตรมาส 2 โดยบริษัทใช้งบการตลาดกว่า 100 ล้านบาทในการสนับสนุนการจัดงาน และร่วมฉลองในโอกาสที่ประเทศไทยมีกฏหมายสมรสเท่าเทียม เป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมกับจัดงานภายใต้แคมเปญ “The Celebration: Right to Love” ซึ่งจะมีมหกรรมอีเว้นท์และกิจกรรมอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งเดือน มิ.ย. 2567
การจัดงานครั้งนี้มีพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก โดยกิจกรรมจะจัดขึ้นทั้งที่สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ และไอคอนสยาม โดยไฮไลท์จะเป็นการเปิดพื้นที่สนับสนุนการจัดงาน Bangkok Pride Forum 2024 เวทีสำคัญที่เปิดต้อนรับบุคคลและผู้แทนองค์กรที่ทำงานและเกี่ยวข้องกับด้านสิทธิ ของเหล่า LGBTQ+ และสตรี ทั้งไทยและต่างประเทศ มาร่วมเสวนา ทอล์ค ให้ความรู้ในหัวข้อต่างๆ กว่า 20 เซสชั่นจัดขึ้น ณ สยามพารากอน
“สยามพิวรรธน์ปักหมุดเป็น Pride Festival Destination จัดมหกรรมอีเว้นท์ระดับโลก ฉลองเดือนแห่งไพรด์ (Pride Month) และร่วมผลักดันให้การจัดงาน Bangkok Pride เป็น Global Festival ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้ปักหมุดและเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย ในช่วงมิ.ย. ของทุกปี แสดงถึงศักยภาพของประเทศไทยที่พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดงาน World Pride 2030 ก้าวสู่การเป็น World Class Event Hub ศูนย์รวม World Class Experience ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกด้วย”
นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า ธุรกิจค้าปลีก มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย เซ็นทรัลพัฒนาจึงเตรียมพร้อมจัดงาน Thailand’s Pride Celebration 2024 “Pride For All” ตลอดเดือนมิถุนายน รับกระแสความคึกคัก ของ เทศกาล Pride Month ปี 2567
“กลุ่ม LGBTQIAN+ มี กำลังซื้อสูง ศักยภาพทางการเงินมหาศาล ใช้จ่ายมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 40% เป็นกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์เรียบหรูรักแบรนด์ และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ข้อมูลจาก ททท. ระบุว่าในปี 2566 ทั่วโลกมี LGBTQIAN+ กว่า 500 ล้านคน อยู่ในเอเชีย 288 ล้านคน และในไทยมีประมาณ 4 ล้านคน คาดการณ์ว่าจำนวนประชากรกลุ่มนี้จะเพิ่มสูงถึง 1 พันล้านคนทั่วโลกในปี 2593”
กลุ่มเซ็นทรัลเล็งเห็นถึงศักยภาพของ Rainbow Economy จึงจัดงานใหญ่ขึ้นในศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั้ง 24 สาขาทั่วประเทศ อาทิ เซ็นทรัล ภูเก็ต สมุย พัทยา มารีนา เชียงใหม่ เชียงใหม่ แอร์พอร์ต ขอนแก่น ฯลฯ โดยในปี 2566 มีนักท่องเที่ยวไทย-ทั่วโลกมาร่วมฉลองงาน Pride ที่เซ็นทรัลเวิลด์ กว่า 1.6 แสนคน และที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วไทยราว 5.2 แสนคน ซึ่งปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีคนมาร่วมงานเซ็นทรัลเวิลด์ กว่า 3 แสนคนต่อวัน และศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วไทยมากกว่า 7 แสนคนทั่วประเทศ
ภายในงาน Thailand’s Pride Celebration 2024 “Pride For All” เตรียมกิจกรรมมากมาย อาทิ คอนเสิร์ต แฟชั่นโชว์ เวิร์คช็อป รวมไปถึงโปรโมชั่นพิเศษสำหรับกลุ่ม LGBTQ+ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง เทศกาล Pride Month เดือนแห่งความภาคภูมิใจของ LGBTQ+ ทั่วโลก ประเทศไทยถือเป็นประเทศที่เปิดกว้างที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ตั้งเป้ามุ่งสู่การเป็นเจ้าภาพ World Pride 2030
หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 3,996 วันที่ 30 พฤษภาคม - 1 มิถุนายน พ.ศ. 2567