‘เมเจอร์’ ปลื้มไตรมาส 1 ปี 67 กำไรพุ่ง 2 เท่า! แบรนด์ดังร่วม ‘Naming Sponsor’
มั่นใจปีทอง “ธุรกิจโรงภาพยนตร์” หลังไตรมาสแรกสุดคึกคัก “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” โชว์ฟอร์มเยี่ยม คว้ากำไรเพิ่ม 2 เท่า ประกาศจับมือพันธมิตรเดินหน้า Movie Marketing และ Naming Sponsor สร้างแบรนด์ ปั้นรายได้เพิ่ม ตอกย้ำผู้นำกลยุทธ์ Win-Win Strategy
KEY
POINTS
บันทึกความสำเร็จของ เมเจอร์ฯ กับ 6 พันธมิตรที่ร่วมในกลยุทธ์ Naming Sponsor ในช่วง 5 เดือนแรก ปี 2567 ประกอบไปด้วย
- กรุงศรี : กับการสร้างสรรค์พื้นที่ไลฟ์สไตล์สำหรับคนรุ่นใหม่เพื่อให้ “ชีวิตง่าย ได้ทุกวัน” ภายใต้ชื่อ “Krungsri Co-Life Space” ที่จะมาช่วยเติมเต็มและตอบสนองการใช้ชีวิตด้วยกันของคนรุ่นใหม่ให้ง่ายขึ้นในทุกด้าน สามารถรองรับการใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ที่หลากหลายในยุคดิจิตอล บนพื้นที่ 600 ตร.ม. ณ ชั้น 3 เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ รัชโยธิน ซึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมายของธนาคารถือเป็นจุดสำคัญที่ทำให้แบรนด์บรรลุเป้าหมายที่วางเป้าไว้
- กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต : กับการรังสรรค์ความหรูหราระดับเวิลด์คลาสที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย กับโรงภาพยนตร์ Siam Pavalai Royal Grand Theatre by Krungthai-AXA Life ณ ชั้น 6 พารากอน ซีนีเพล็กซ์
- สยามพารากอน ด้วยความโดดเด่นจากดีไซน์เนอร์ระดับโลก พร้อมระบบการฉายภาพยนตร์แบบเลเซอร์โปรเจกชั่น ให้ภาพคมชัดสูงสุด (Laser Projection System) ที่นี่จึงสามารถสร้างสรรค์กิจกรรมทางการตลาดอื่นๆ อาทิ คอนเสิร์ต การแสดงโชว์ กิจกรรมมีทแอนด์กรี๊ดของศิลปินทั้งไทยและต่างประเทศได้ด้วย
- Vietjet : กับการส่งมอบไลฟ์สไตล์วีไอพีสุดเอ็กซ์คลูซีพ ระดับไฮเอ็นด์ ภายใต้ชื่อ “Vietjet VIP Cinema” กับการคัดสรรกิจกรรมเพื่อตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์ลูกค้า ส่งมอบความสุข สนุกสนาน มอบประสบการณ์หรูหราเหนือระดับ กับโรงภาพยนตร์วีไอพีสุดหรู จำนวน 3 โรงภาพยนตร์ ณ ชั้น 5 สยามพารากอน
- Pramy : ครั้งแรกกับอาหารแมวเกรดซุปเปอร์พรีเมี่ยม กับการก้าวเข้าเป็น Naming Sponsor ภายใต้ชื่อ “Pramy Pet Cinema” โรงภาพยนตร์สำหรับคนรักแมวและสุนัข ให้เจ้าของได้พาสัตว์เลี้ยงแสนรักทั้งน้องแมวและน้องหมา มาทำกิจกรรมนอกบ้านด้วยการใช้เวลาดูหนังร่วมกันในทุกวันหยุด ทุกๆวันเสาร์และอาทิตย์รอบเช้า ณ เวสต์วิลล์ ซีนีเพล็กซ์ ชั้น 3 เซ็นทรัล เวสต์วิลล์
- LG : กับการนำสุดยอดนวัตกรรมจอ LED ขั้นสูง ผ่านโรงภาพยนตร์ “LG Miraclass LED Cinema” ด้วยนวัตกรรมจอ 4K LED ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย กับขนาดจอกว้าง 14 เมตร สูง 7 เมตร ที่ให้ภาพคมชัดระดับ 4K และรองรับ HDR (High Dynamic Range) เทคโนโลยีจอ LED ให้ภาพที่สมจริงเป็นพิเศษด้วยเฉดสีที่เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า หรือ 35 ล้านล้านเฉดสี ณ โรงภาพยนตร์เมกา ซีนีเพล็กซ์
- Real Asset : กับการสร้างแบรนด์ด้วยการร่วมเป็น Naming Sponsor เปิดให้บริการโรงภาพยนตร์วีไอพีเฟิร์สคลาสสุดหรู ภายใต้คอนเซ็ปท์ Modern Luxury กับ “Real Asset Ultimate Cinema” ที่สนับสนุนให้การชมภาพยนตร์เป็นกิจกรรมที่ตอบโจทย์คนเมืองและวัยรุ่น รวมทั้งสนับสนุนลูกค้าของโครงการเรียลแอสเสทบริเวณโซนบางนา ณ เมกา ซีนีเพล็กซ์ เมกา บางนา
ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของการสร้างสรรค์กิจกรรมการตลาดผ่านกลยุทธ์การตลาดในรูปแบบ Movie Marketing และ Naming Sponsor ที่สามารถสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ สร้าง Loyalty Program รวมถึงการสร้าง CRM ที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างแท้จริง ควบคู่กับการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ให้กับเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ และพันธมิตร ที่พร้อมจับมือกันเดินหน้าภายใต้กลยุทธ์ Win-Win Strategy
หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 3,998 วันที่ 6 - 8 มิถุนายน พ.ศ. 2567
ธุรกิจโรงภาพยนตร์กลับมาคึกคักอีกครั้ง เห็นได้จากผลงานไตรมาส 1 ปี 2567 ของ “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป” ผู้นำธุรกิจที่โชว์ฟอร์มเยี่ยม ทำรายได้รวม 1,719 ล้านบาท เติบโตขึ้น 8% มีกำไร 140 ล้านบาท เติบโตขึ้น 100% หรือกำไรเติบโต2 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน รายได้ที่เติบโตเป็นผลจากการฟื้นตัวต่อเนื่องของธุรกิจโรงภาพยนตร์ รวมถึงกระแสความนิยมของคนไทยที่กลับมาดูหนังในโรงภาพยนตร์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะเห็นว่าไลฟ์สไตล์การดูหนังในโรงภาพยนตร์ไม่ได้ถูกดิสรัปท์จากแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ GenZ ที่ยังชอบความบันเทิงนอกบ้าน (Out Of Home Lifestyle Entertainment) และเลือกที่จะเข้ามาดูหนังในโรงภาพยนตร์ ทำให้ภาพยนตร์ที่ออกฉายในไตรมาสแรกที่ผ่านมาได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยภาพยนตร์ไทยหลายเรื่องในปี 2567 สามารถกวาดรายได้ทะลุหลักร้อยล้านบาท ไม่ว่าจะเป็น หลานม่า รายได้ 320 ล้านบาท พี่นาค 4 รายได้ 177 ล้านบาท หอแต๋วแตกแหกสัปะหยด รายได้ 127 ล้านบาท และอนงค์ รายได้ 110 ล้านบาท
สอดคล้องกับเม็ดเงินโฆษณาในช่วง 4 เดือนแรก ปี 2567 ซึ่งมีมูลค่ารวม 37,919 ล้านบาท เติบโตขึ้น +4% โดยสื่อโฆษณาในโรงภาพยนตร์ มีมูลค่า 1,125 ล้านบาท เติบโตมากถึง +35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการบ่งบอกถึงกระแสความนิยมดูหนังในโรงภาพยนตร์ ทำให้วันนี้โรงภาพยนตร์เป็นมากกว่าโรงภาพยนตร์ (More Than Cinema) กลายเป็นพื้นที่ที่ผู้คนออกมาใช้ชีวิตและสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับตัวเองจึงสามารถต่อยอดนำไปสู่การทำกิจกรรมการตลาดเป็นกลยุทธ์สำคัญในรูปแบบของ “Naming Sponsor”กลยุทธ์การตลาดที่แบรนด์สามารถสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ (Brand Awareness) รวมถึงการทำกิจกรรม
เพื่อสร้าง Loyalty Program สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า (Customer Relationship Management : CRM) ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้โดยตรง ทำให้ได้รับประสบการณ์ความบันเทิงครบสมบูรณ์ ผ่านกิจกรรมที่เหนือระดับ กิจกรรมที่สามารถทำร่วมกันได้กับทุกคนในครอบครัว รวมไปถึงสัตว์เลี้ยง (แมว, สุนัข) สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ชมได้ทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ถือเป็นกลยุทธ์ Win-Win Strategy
แน่นอนว่าการผนึกพันธมิตรที่แข็งแกร่งโดยเฉพาะ “เบอร์ 1” ในอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์อย่าง “เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์” ที่มีฐานแฟนคนดูหลัก “สิบล้านคนต่อปี” ด้วยจำนวนโรงภาพยนตร์ของเครือเมเจอร์ฯ ที่มีมากถึง 185 สาขา 861 โรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ ครอบคลุม 63 จังหวัด ซึ่งสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย ครบทุกประเภท และในปี 2567 “เมเจอร์ฯ” ยังใช้งบลงทุนกว่า 600 ล้านบาท เดินหน้าลงทุนขยายสาขาเพิ่มอีก 15 สาขา 47 โรงภาพยนตร์ จะยิ่งเพิ่มโอกาสให้แบรนด์เติบโตควบคู่และครอบคลุมทั่วประเทศ
