เปิดแนวรบ ‘เอ็กโซติค ฟู้ด’ ทุ่ม 200 ล้านลุยส่งออก

29 มิ.ย. 2567 | 02:46 น.
อัพเดตล่าสุด :29 มิ.ย. 2567 | 03:03 น.

“เอ็กโซติค ฟู้ด” ทุ่มงบ 200 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตรองรับการส่งออกเพิ่ม ทั้งในยุโรป-อเมริกา เดินหน้ากลยุทธ์ออฟไลน์ ออนไลน์ จัดทัพทีมขาย ออกงานแสดงสินค้า เปิดตัวสินค้าใหม่ ขยายช่องทางอีคอมเมิร์ซ เผยทยอยปรับราคาสินค้าขึ้นหลังราคาน้ำตาลโลกพุ่ง มั่นใจดันยอดขายโต 20%

นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมซอสปรุงรสในตลาดโลกมีมูลค่ากว่า 3.2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 1 ล้านล้านบาท ขณะที่ตลาดซอสปรุงรสในประเทศไทย นับว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 มีมูลค่ารวมกว่า 2.18 หมื่นล้านบาท ปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดมาจากกระแสอาหารไทยที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก ส่งผลให้ซอสไทยมีโอกาสขยายตลาดและชิงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น

โดยในปีนี้บริษัทเตรียมใช้งบลงทุน 200 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นรองรับการส่งออกที่เติบโต โดยวางแผนเพิ่มไลน์การผลิตใหม่ 1 ไลน์ภายในโรงงาน ซึ่งตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4 ปีนี้ และไลน์การผลิตใหม่นี้จะสามารถสร้างยอดขายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี

นายจิตติพร จันทรัช

รวมทั้งบริษัทมีแผนขยายตลาดส่งออกต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดในทวีปยุโรป และทวีปอื่นๆ โดยการจัดทัพทีมขาย และการออกงานแสดงสินค้าเฉลี่ย 24 งานต่อปี รวมทั้งแผนออกสินค้าใหม่ทุกปีเฉลี่ย 5-10 รายการต่อปี เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในวงกว้างขวาง ผ่านช่องทางออนไลน์ที่หลากหลาย ครอบคลุมทุกแพลตฟอร์มยอดนิยม ควบคู่ไปกับสื่อออฟไลน์ เช่น สิ่งพิมพ์ ฯลฯ

โดยปัจจุบันตลาดในอเมริกา บริษัทมีสินค้าวางจำหน่ายในช่องทางโมเดิร์นเทรดกว่า 2,000 แห่ง และตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มขึ้นอีก 1,000 แห่งในปีนี้ เนื่องจากในตลาดมีการแข่งขันด้านราคาน้อยกว่า และเป็นช่องทางในการสร้างการรับรู้ในแบรนด์ด้วย

จากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในต่างประเทศ พบว่าซอสพริกได้รับความนิยมนำไปใช้ปรุงอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดยุโรป เทรนด์การบริโภคอาหารเผ็ดร้อนกำลังมาแรง ผู้บริโภคโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ เริ่มให้ความสนใจกับอาหารรสเผ็ดมากขึ้น สาเหตุมาจากความนิยมในการท่องเที่ยว คนรุ่นใหม่มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวไปยังประเทศต่างๆ มากขึ้น ทำให้มีประสบการณ์ลิ้มลองอาหารรสชาติใหม่ ๆ กระตุ้นให้พวกเขาเปิดใจลองอาหารเผ็ดร้อนมากขึ้น

อีกทั้งอิทธิพลจากสื่อต่าง ๆ เช่น รายการอาหาร รีวิวอาหาร และบล็อกเกอร์อาหารนำเสนอเมนูอาหารเผ็ดร้อนดึงดูดความสนใจ ซึ่งการทานอาหารเผ็ดร้อนเป็นเสมือนการท้าทายตัวเอง กลายเป็นกิจกรรมสร้างความสนุกสนานในหมู่เพื่อนฝูงด้วย

เปิดแนวรบ ‘เอ็กโซติค ฟู้ด’ ทุ่ม 200 ล้านลุยส่งออก

นายจิตติพร กล่าวอีกว่า สำหรับปัญหาราคาน้ำตาลโลกที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น บริษัทได้ดำเนินการจัดจัดสรรราคาวัตถุดิบหลักไว้ล่วงหน้า ทำให้มั่นใจว่าจะไม่ต้องเผชิญกับผลกระทบจากราคาน้ำตาลโลกที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลต่อราคาสินค้าที่ใช้น้ำตาลเป็นส่วนประกอบ โดยบริษัทเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว และได้ปรับราคาขายสินค้าขึ้นสะท้อนต้นทุนที่เพิ่มขึ้นไปแล้ว

ปัจจุบันเอ็กโซติค ฟู้ด เป็นผู้ผลิต จำหน่ายและส่งออกซอสปรุงรส ภายใต้ 4 แบรนด์ ได้แก่

1. Exotic Food เครื่องปรุงรสและซอสปรุงอาหาร อาทิ ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก

2. Thai Pride เครื่องปรุงรสและซอสปรุงอาหารแบบไทยๆ เช่น น้ำปลา น้ำปลาหวาน น้ำซอสปรุงรส กะทิผง และซอสพริกเผา

3. Flying Goose อาหารกระป๋อง เช่น ปลากระป๋อง ข้าวโพดกระป๋อง

4. Coco Loto น้ำมะพร้าวแบบกล่องและแบบขวด โดยส่วนใหญ่เน้นการส่งออกราว 90% ซึ่งสินค้าขายดี 3 อันดับ ได้แก่ 1. ซอสพริกศรีราชา รสออริจินัล 2. ซอสพริกศรีราชา มาโย และ 3.น้ำจิ้มไก่

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรวม 709 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.54% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มียอดขาย 394 ล้านบาท สาเหตุสำคัญมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณการขายซอสปรุงรสและน้ำจิ้มในทวีปยุปโรปและทวีปอื่นๆ ซึ่งมีปริมาณส่งออก 7,301 ตัน เพิ่มขึ้นประมาณ 68% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 4,346 ตัน

และไตรมาส 2 มีสัญญาณดี เนื่องจากสินค้าที่เข้ามาใกล้เคียงไตรมาสแรก และมีแนวโน้มยอดขายและกำไรในทิศทางที่ดีเช่นกัน รวมทั้งในด้านต้นทุนราคาน้ำตาล พริก และกระเทียม ยังสามารถควบคุมต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ มั่นใจว่าปีนี้จะมีรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20%

 

หน้า 16 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 4,004 วันที่ 27 - 29 มิถุนายน พ.ศ. 2567