ฮึดสู้สงครามราคา นิวซิตี้พลิกโฉม "เชอรีล่อน” รุกตลาดแฟชั่น Gen Z

นายพิภพ โชควัฒนา ประธานกรรมการ บริษัท นิวซิตี้ (กรุงเทพฯ) จำกัด (มหาชน) ในเครือสหพัฒน์ เปิดเผยว่า บริษัทปรับภาพลักษณ์ใหม่ ภายใต้แนวคิด “Become The Real You” ให้มีความเซ็กซี่และเด็กลง เน้นจับกลุ่มลูกค้าคนทำงานอายุ 20 ปีขึ้นไป จากเดิมที่เป็นกลุ่มอายุตั้งแต่ 30 ปี เน้นกลุ่ม Gen Z ที่มีพฤติกรรมใส่เพื่อเป็นแฟชั่นเพิ่มมากขึ้น

พร้อมกับเปิดตัว CHERILON Silky Sheer Support เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้หญิงที่อยากเปลี่ยนลุคให้กับตนเอง จากปัจจุบันกลุ่มลูกค้าที่ซื้อสวมใส่ทำงานสัดส่วนกว่า 50% และซื้อสวมใส่เป็นแฟชั่นเพิ่มมากขึ้นจนมีสัดส่วนกว่า 10% 

"ภาพลักษณ์ใหม่นี้ มาพร้อมกับการครบรอบ 60 ปีของแบรนด์เชอรีล่อน ซึ่งจะเปิดเผยโฉมใหม่ที่บูธ CHERILON WORLD ภายในงาน “SAHA Group Fair & Fest ครั้งที่ 28” จัดขึ้นที่ไบเทค บางนา"

“พฤติกรรมคนสวมใส่ถุงน่องขณะนี้เริ่มเปลี่ยนไป ไม่เน้นแค่ปกปิดเหมือนในอดีต แต่เน้นเรื่องความสวยงาม ความแตกต่าง อาทิ ความเงา โทนสีที่แตกต่างโดยบางคนสวมใส่ 2 ข้างสีต่างกัน หรือเจาะรูเป็นแฟชั่น ทำให้ปัจจุบันตลาดรวมมีมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท”

ปัจจุบันนิวซิตี้ มียอดขายในประเทศกว่า 80% และส่งออก 20% ส่วนใหญ่เป็นตลาดอาเซียน พร้อมกับขยายช่องทางจำหน่ายในออนไลน์ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายราว 20% และในปีนี้ตั้งเป้าหมายเพิ่มเป็น 25-30% ซึ่งจะผลักดันให้ยอดขายเติบโต 10-15% จากมูลค่า 600 ล้านบาท ในปี 2566 ที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ในโอกาสฉลองครบรอบ 60 ปีของแบรนด์เชอรีล่อน บริษัทมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และความต้องการของลูกค้ายุคปัจจุบัน โดยนำข้อมูลมาวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ที่เข้ามาช่วยในการผลิตถุงน่องและชุดชั้นใน

ซึ่งไม่ได้มีแค่ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเน้นในเรื่องความทนทานและความสบายในการสวมใส่ รวมถึงเรื่องรายละเอียดอื่น ๆ ที่เราใส่ใจคัดสรรให้กับลูกค้าคนสำคัญ เช่น ถุงน่อง Pride ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว มาพร้อมขนาดและสีที่หลากหลาย เหมาะกับสรีระของลูกค้าทุกเพศทุกวัย 

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันพบว่ามีสินค้าราคาถูกออกวางจำหน่ายจำนวนมากจากผู้ผลิตรายย่อยทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลให้ตลาดโดยรวมมีการแข่งขันสูงขึ้น 

ทั้งนี้ เชอรีล่อนได้ให้ความสำคัญเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการผลิต  โดยระบบการผลิตของเราได้มีการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่ในบางขั้นตอน (Reuse) เพื่อความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด หรือการเลือกใช้ทรัพยากรที่ผ่านการรีไซเคิล เช่น การนำเศษด้ายหรือเศษผ้าเหลือทิ้งมาหลอมรวมเพื่อปั่นเป็นเส้นด้ายใหม่ ก่อนนำมาสรรสร้างเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพ ถือเป็นการช่วยลดขยะโลกได้อีกทางหนึ่ง รวมถึงกระบวนการอัพไซเคิลที่ได้ร่วมมือกับมูลนิธิขาเทียม ในการแปลงสภาพถุงน่องที่หลุด QC แต่ยังคงคุณภาพ หรือถุงน่องที่ใช้แล้ว นำมาสร้างขาเทียมให้กับคนไข้ของมูลนิธิ เพื่อก้าวใหม่ที่มั่นคงและแข็งแรง อีกทั้งเรายังได้ร่วมมือกับองค์กรการกุศลต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือผู้คนโดยไม่มุ่งหวังผลประโยชน์ใด ๆ