เอกชนร้อง"เศรษฐา"ปลดล็อกห้ามขายแอลกอฮอล์ในร้านอาหารช่วง 14.00 -17.00 น.

30 มิ.ย. 2567 | 19:00 น.

ชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ทำหนังสือเปิดผนึกถึงนายกเศรษฐา แก้ไขกฎหมายปลดล็อกห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารในช่วงเวลา 14.00 -17.00 น. พร้อมชง 2 มาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย ต่อลมหายใจธุรกิจร้านอาหาร

นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ทำหนังสือเปิดผนึกถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขอความกรุณาพิจารณาเร่งด่วนเรื่องมาตรการช่วยเหลือกระตุ้นเศรษฐกิจ

ก่อนที่ธุรกิจร้านอาหารจะปิดตัวลงมากกว่านี้ เนื่องจากสถานการณ์สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันที่ซบเซาอย่างหนักซึ่งมาจากกำลังซื้อของประชาชนคนไทยที่ไม่มีเหลือ

รวมถึงตันทุนวัตถุดิบทั้งผักสดและอื่น ๆ ขึ้นราคาสูงถึง 50% รวมทั้งค่าไฟฟ้าที่เป็นปัญหาหลัก ที่สำคัญนักท่องเที่ยวที่มาน้อยลงอย่างมาก

ดังนั้นทางชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารจึงขอความกรุณาให้นายกรัฐมนตรีรีบออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อช่วยเหลือเป็นการด่วน ตั้งแต่ร้านอาหาร สตรีทฟู้ดริมทาง จนถึงร้านอาหาร SMEs ก่อนที่จะได้รับความเสียหายหายกันหมด

ที่สำคัญธุรกิจร้านอาหารยังสามารถสร้าง GDP ของประเทศให้โตขึ้นได้เพราะเป็นธุรกิจที่มีห่วงโซ่ซัพพลายเซนที่ใหญ่มาก ซึ่งจะส่งผลกับผู้ค้าขายในตลาดสด, ภาคการเกษตรต่าง ๆ , ภาคแรงงาน พนักงานที่มีอยู่ในธุรกิจนี้มหาศาล

เอกชนร้อง\"เศรษฐา\"ปลดล็อกห้ามขายแอลกอฮอล์ในร้านอาหารช่วง 14.00 -17.00 น.

ดังนั้นจึงขอให้นายกรัฐมนตรีและทีมเศรษฐกิจช่วยเร่งพิจารณาเป็นการด่วนในมาตรการเหล่านี้ ซึ่งจะ
พอช่วยพยุงให้ภาคเศรษฐกิจร้านอาหารยังต่อลมหายใจไปได้

  1. แก้ไขกฎหมายที่ล้าหลังในการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ในช่วงเวลา 14.00 น. - 17.00 น. ซึ่งใช้มาตั้งแต่ปี 2515 โดยคำสั่งคณะปฏิวัติ ซึ่งขัดแยังกับยุคสมัยในปัจจุบันที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมามาก รวมถึงเราเน้นส่งเสริมการท่องเที่ยวเป็นหลัก
  2. ลดภาษีโรงเรือนให้สำหรับธุรกิจร้านอาหาร เพราะเนื่องจากเป็นธุรกิจที่ทุกวันนี้โดนภาษีต่าง ๆ มากมายอยู่แล้วและยังมาโดนภาษีโรงเรือนที่เปลี่ยนมาใช้อัตราก้าวหน้าอีก ซึ่งทำให้เป็นภาระใหญ่กับผู้ประกอบการมาก
  3. เร่งออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายโดยแบ่งเป็น 2 ส่วน
  • มาตรการกระตุ้นให้กับร้านอาหารอย่างกลุ่ม SMEs เช่น บุคคลธรรมดาสามารถเก็บใบกำกับภาษี เพื่อนำไปลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 20,000 บาท และในส่วนของบริษัท ห้างร้าน นิติบุคคลสามารถนำบิลไปลดหย่อนภาษีค่าใช้จ่ายได้ไม่เกิน 100,000 บาท เป็นต้น
  • ออกมาตรการเงินสดลดค่าใช้จ่ายให้ประชาชนทั่วไปคนละ 2,000 บาท 3 เดือน โดยให้เป็นเงินเติมในแอปกระเป๋าตังค์ เพื่อให้ประชาชนนำไปใช้จ่ายซื้ออาหารได้อย่างเดียว ตั้งแต่ร้านข้างทางไปจนถึงร้าน SMEs ด้วย

พวกเราที่ประกอบธุรกิจร้านอาหารหวังเป็นอย่างยิ่งว่านายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน จะเข้าใจและใช้หัวใจฟังความเดือดร้อนอย่างสาหัสของพรกเราและเร่งแก้ไขช่วยเหลือพวกเราโดยเร่งด่วน