อั้นไม่ไหว "อายิโนะโมะโต๊ะ" ขึ้นราคาผงชูรส 4% ขยายไลน์รุกตลาดอาหารเสริม

02 ก.ค. 2567 | 10:35 น.

อายิโนะโมะโต๊ะ ขึ้นราคาผงชูรสไซส์ใหญ่ 4% เดินหน้าทุ่ม 4.4 พันล้านลงทุนระยะยาว พร้อมบุกตลาดอาหารเสริม-เปิดแอปพลิเคชันใหม่

นาย อิชิโระ ซะกะกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทอายิโนะโมะโต๊ะประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ตลาดเครื่องปรุงรสไทยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 25,000 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดผงชูรส 15,000 ล้านบาท และกลุ่มเครื่องปรุงรสอื่นๆ อีก 10,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามตลาดเครื่องปรุงรสกำลังเผชิญกับวิกฤตราคาวัตถุดิบ ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกาแฟและมันสำปะหลัง ที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งในปีนี้ 

ส่งผลให้บริษัทอายิโนะโมะโต๊ะตัดสินใจปรับขึ้นราคาผงชูรส 4% เฉพาะขนาดถุงใหญ่ ทั้งนี้ การปรับขึ้นราคาผงชูรสครั้งนี้ถือเป็นการปรับขึ้นรอบ 2 ปี นับตั้งแต่ปี 2565 ที่เคยมีการปรับขึ้นราคาไปประมาณ 10% สำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสอื่นๆ ทางบริษัทยังคงเน้นการบริหารจัดการต้นทุน เพื่อชะลอการขึ้นราคาสินค้า ส่วนพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน กลับมาทานอาหารนอกบ้านมากขึ้นส่งผลให้กลุ่มร้านอาหารข้างทางใช้ผงชูรสเพิ่มขึ้น

นาย อิชิโระ ซะกะกุระ

สำหรับปี 2567-2573 จะมีแผนใช้งบลงทุน 4.4 พันล้านบาท ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะใช้งบในส่วนไหนบ้าง  แต่ปีนี้ทางบริษัทมีแผนจะเน้นผลิตภัณฑ์อาหารเสริมที่มีกรดอะมิโน เพื่อรองรับตลาดผู้สูงอายุและรักสุขภาพที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยใช้กลยุทธ์ออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ใน 4 หมวดหมู่ คือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกรดอะมิโนสำหรับการนอนหลับ โภชนาการกีฬา บำรุงร่างกายและบิวตี้ ซึ่งในปีนี้จะมีการออกสินค้าใหม่  2 รายการของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และอีก 10  รายการจากสินค้าอื่น ๆ 

ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจปีนี้ ยังคงตอกย้ำวิสัยทัศน์การเป็นผู้นำในการสร้างความ "กินดีมีสุข" อย่างยั่งยืน ครอบคลุม 3 มิติ คือ 1) ผู้บริโภค 2) สังคมและสิ่งแวดล้อม 3) พนักงาน โดยปัจจุบัน บริษัทมีผลประกอบการ 32,000 ล้านบาท เป็นเบอร์แปดของกลุ่มธุรกิจผู้ผลิตอาหาร ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ที่ทำรายได้หลักและครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงที่สุดคือ ผงชูรสอายิโนะโมะโต๊ะ 93% รสดี 89% และกาแฟกระป๋องเบอร์ดี้ 53%

นอกจากนี้ได้เปิด "แอปพลิเคชัน i-LiveWell - แพลตฟอร์มกินดีมีสุขฉบับมนุษย์เงินเดือน" โดยใช้งบลงทุน 10 ล้านบาท เพื่อขยายช่องทางการติดต่อใหม่เพื่อรวบรวมข้อมูลเบื้องต้นจากผู้บริโภคโดยตรง ในการสร้างระบบนิเวศที่ครอบคลุมด้วยการเชื่อมต่อกับโซลูชั่นอื่นๆ เช่น แพลตฟอร์มข้อมูลลูกค้า และแพลตฟอร์ม e-commerce เพื่อยกระดับพฤติกรรมด้านของผู้บริโภค ในการปรับปรุงการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและขับเคลื่อนกิจกรรมในอนาคตผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล 

นายวันนเรศวร์ สุขีลักษณ์

นายวันนเรศวร์ สุขีลักษณ์ ผู้จัดการแผนกธุรกิจใหม่ บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่บริษัท ต่อยอดความเชี่ยวชาญจากผู้ผลิตอาหารสู่เซอร์วิส ด้วยการเปิดตัวนวัตกรรมสุขภาพสำหรับองค์กร แอปพลิเคชัน i-LiveWell - แพลตฟอร์มกินดีมีสุขฉบับมนุษย์เงินเดือน ร่วมมือกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ Invitrace พัฒนาแอปรุกตลาดการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันด้วยโมเดลธุรกิจแบบ B2B เตรียมเจาะ 50 บริษัททั่วไทยที่มีนโยบายเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพของพนักงาน

เพื่อปลั๊กอินยกระดับสุขภาพพนักงานออฟฟิศด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล เสริมไลฟ์สไตล์สร้างความกินดีมีสุข ดูแลสุขภาพกาย-ใจให้ดีแบบองค์รวม โดยมีฟีเจอร์หลักคือ 1) A.I. Personal Health คำนวณแคลอรี่ นับก้าวเดิน ทำอาหาร ออกกำลังกาย การประเมินสุขภาพ ที่เชื่อมโยงกับภารกิจของบริษัท 

2) Entertainment Activity เกมและอวตาร คอมมูนิตี้ และรางวัลพิเศษ ซึ่งจะช่วยให้องค์กรสามารถป้องกันและดูแลสุขภาพที่ดีแก่พนักงานให้ "กินดีมีสุข" อย่างยั่งยืน โดยเดินเกมขยายธุรกิจด้านบริการอย่างเต็มตัว ตั้งเป้ามีพนักงานผู้ใช้งานกว่า 3,000 คน ภายในปี 2568

อั้นไม่ไหว \"อายิโนะโมะโต๊ะ\" ขึ้นราคาผงชูรส 4% ขยายไลน์รุกตลาดอาหารเสริม

จากผลการสำรวจ พบว่าผู้บริโภคมองว่าความเป็นอยู่ที่ดีของคนเราจะขึ้นอยู่กับอาหาร ซึ่งกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 20-39 ปี นิยมการสร้าง work-life balance เลือกรับประทานอาหารอร่อยและดีต่อสุขภาพ ที่สำคัญ ต้องมีหน้าตาสวยงามน่าทาน ในขณะที่กลุ่มผู้ใหญ่อายุ 45-65 ปี จะหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ไม่ใส่น้ำตาล ลดเค็ม ไขมันต่ำ งดอาหารแปรรูป

โดยผู้บริโภคทั้งสองกลุ่มคิดว่าสิ่งแวดล้อมที่ดีจะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตที่ดีของตัวเอง โดยกลุ่มคนรุ่นใหม่ให้ความใส่ใจกับสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะเรื่องวัสดุที่สามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ สะท้อนถึงอินไซต์ของผู้บริโภคว่ามีความใส่ใจเรื่องอาหารที่ดีต่อสุขภาพและการดูแลสิ่งแวดล้อมมากขึ้น