ห้างภูธรชี้ปัญหาค้าส่ง "ไทย-สปป.ลาว" สะดุด จี้รัฐปรับตัวแข่งเดือด

ผู้ประกอบการค้าปลีก-ค้าส่ง รายใหญ่ในจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมาผู้ประกอบการค้าปลีก-ค้าส่ง ที่ส่งสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านด่านจากไทยไปยังคู่ค้าใน สปป.ลาว และกัมพูชา ประสบปัญหาเกี่ยวกับเรื่องปิดด่านจากฝั่ง สปป.ลาว และกัมพูชา โดยอ้างว่าปิดเพื่อปรับปรุงระบบ หลังจากกลับมาเปิดตามปกติกลับพบปัญหาการปรับภาษีสูงขึ้น แม้สามารถขนส่งสินค้าไปยังด่านกัมพูชาได้ แต่ทางด่าน สปป.ลาว ถูกระงับการนำเข้าสินค้าจากไทย อีกทั้ง สปป.ลาว ประสบปัญหาเรื่องเงินเฟ้อไม่สามารถแลกเปลี่ยนเงินบาทเพื่อมาซื้อสินค้าไทยได้ เพราะต้องแลกผ่านนอกระบบธนาคารเท่านั้น ทำให้การซื้อขายสินค้าชะลอตัว

"ประเทศลาวมองว่าเงินบาทไทยเป็นปัญหาเศรษฐกิจในประเทศเขา และรัฐบาลลาวมองว่าประชาชนในประเทศให้ค่านิยมกับการใช้เงินบาทและสินค้าไทยมากเกินไป ผมสอบถามเพื่อนคู่ค้าในลาวได้ความว่า ตอนนี้รัฐบาลลาวรณรงค์งดใช้สินค้าไทย และตั้งกฏกติการนำเข้าสินค้าบางประเภทจากประเทศไทย โดยเริ่มต้นที่กำแพงภาษีที่สูงขึ้น ขณะเดียวกัน ก็เริ่มหันไปหาจีนซึ่งเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ สนับสนุนการใช้เงินหยวนมากกว่าเงินบาท ซึ่งจีนเปิดรับเงินกีบ สามารถซื้อสินค้าจีนโดยใช้เงินกีบได้ ประชนที่เริ่มสู้อัตราการแลกเปลี่ยนเงินบาทไทยไม่ไหวก็เริ่มหันไปหาจีนเช่นเดียวกัน"

สัญญาณการค้าชายแดนระหว่างไทย-สปป.ลาว เริ่มเห็นปัญหาประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา และรัฐบาล สปป.ลาว ไม่สนับสนุนให้ประชาชนข้ามฝั่งมาทำงานหรือขายแรงงานในประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีข้อถกเถียงกันในโลกโซเซียลจนเกิดเป็นปัญหาหลายด้าน แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือการกีดกันทางการค้า ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ

"โดยส่วนตัวผมส่งออกสินค้าไปยัง สปป.ลาว 10-12% คิดเป็นมูลค่า 150-200 ล้านบาทต่อปี ขณะเดียวกันปัญหาในประเทศไทยเราก็ไม่ใช่ว่าจะดี แม้การค้าปลีกพอไปได้แต่ตลาดค้าส่งฝืดมาก ถูกนายทุนรายใหญ่กิดเรียบ ไล่เปิดสาขาไปทุกจังหวัด ทำให้ผู้ประกอบการท้องถิ่นแข่งขันลำบากและปิดตัวลงในที่สุด ซึ่งนโยบาลรัฐบาลก็ยังไม่แน่นอน อย่างเงินดิจิทัลแทบไม่มีแนวทางชัดเจน ฉะนั้น ค้าปลีก-ค้าส่งภูธร ที่ทำการค้ากับ สปป.ลาว จะหันเข้ามาตลาดในประเทศและรบกันเองด้วยสงครามราคา"

นายมิลินทร์ วีระรัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ตั้งงี่สุน ซูเปอร์สโตร์ จำกัด ผู้ประกอบการค้าปลีก-ค้าส่ง รายใหญ่ในภาคอีสาน เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในฝั่ง สปป.ลาว ตอนนี้ค่าครองชีพค่อนข้างย่ำแย่ เงินเฟ้อสูงมาก ทำให้การค้าขายของผู้ประกอบการภูธรกับคู่ค้าฝั่ง สปป.ลาว ลำบาก อีกทั้งนายทุนใหญ่จากฝั่งไทยเริ่มบุกตลาด สปป.ลาว เพิ่มขึ้น เช่น บิ๊กซี โลตัส นอกจากนี้สินค้าจากจีนและเกาหลีก็พร้อมใจรุกตลาด สปป.ลาว เช่นเดียวกัน และมีบางบริษัทลงทุนตั้งโรงงงานใน สปป.ลาว ด้วย แม้เศรษฐกิจจะไม่ดีแต่กระแสตลาดไปไวมาก

"นอกจากเรื่องเศรษฐกิจ ประเทศไทยถือว่าเพลี่ยงพล้ำไปเยอะ การส่งออกเราลดลงหลายภาคส่วน เพราะยึดติดกับความสำเร็จเดิมโดยไม่รู้ว่าตัวเราเองกำลังสู้กับระดับอินเตอร์ ฉะนั้นเราต้องพัฒนาสินค้าให้เกิดความหลากหลาย และมีคุณภาพมากขึ้น แม้จะมีเรื่องปิดด่านขึ้นภาษีหรืออะไรก็ตาม สุดท้ายผู้คนยังต้องกินต้องใช้แต่กำลังถูกแย่งตลาดไปเพราะคนไทยยังไม่ตื่นตัว ซึ่งผู้ประกอบการและภาครัฐต้องเร่งปรับตัวให้ได้"