เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี นำทัพ "อาณาจักรไทยเบฟ" สยายปีกอาณาจักรธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารยักษ์ใหญ่ของไทย เดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งสำคัญ แลกหุ้นกับทีซีซี แอสเซ็ทส์ (TCCAL) ทิ้งธุรกิจอสังหาฯ เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในเฟรเซอร์ แอนด์ นีฟ (F&N) บริษัทอาหารและเครื่องดื่มในสิงคโปร์ เสริมทัพธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ตลาดเครื่องดื่มร้อนระอุทันที เมื่อยักษ์ใหญ่อย่าง "ไทยเบฟ" ปลุกตลาดให้น่าจับตามองอีกครั้งจากกรณีบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย เสนอการแลกหุ้นผ่านบริษัท InterBev Investment Limited (IBIL) กับ TCC Assets Limited (TCCAL)
ภายใต้ข้อเสนอการแลกหุ้นดังกล่าว IBIL จะโอนหุ้น Frasers Property Limited (FPL) ที่ถืออยู่ทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ 28.78 ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วให้กับ TCCAL และ TCCAL จะโอนหุ้น Fraser and Neave Limited (F&N) ที่ถืออยู่ คิดเป็นร้อยละ 41.30 ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วให้กับ IBIL โดยการแลกหุ้นครั้งนี้จะไม่มีการจ่ายเงินสดจาก IBIL หรือไทยเบฟ
เมื่อข้อเสนอการแลกหุ้นเสร็จสมบูรณ์ ไทยเบฟจะไม่มีการถือครองหุ้น FPL อยู่ และจะมีสัดส่วนการถือหุ้นใน F&N (ถือหุ้นโดยอ้อมผ่าน IBIL) เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 28.31 เป็นร้อยละ 69.61 ในทางกลับกัน TCCAL จะมีสัดส่วนการถือหุ้นใน F&N ลดลงจากร้อยละ 58.90 เป็นร้อยละ 17.60 ในขณะที่สัดส่วนการถือหุ้นใน FPL จะเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 58.10 เป็นร้อยละ 86.89
ลุยชิงเค้กธุรกิจเครื่องดื่มและอาหาร ตลาดอาเซียนกว่า 2.3 ล้านบาท
การปรับโครงสร้างครั้งนี้ มุ่งสู่การเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งมียอดรวมตลาดกว่า 2.3 ล้านล้านบาท ไทยเบฟ มุ่งเน้นไปที่ธุรกิจหลัก 4 ประเภท ได้แก่
นอกจากนี้ ไทยเบฟจะยังสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความใส่ใจด้านสุขภาพได้ดียิ่งขึ้น ผ่านกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ F&N ที่แข็งแกร่งในเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ อาทิ เครื่องดื่มเกลือแร่ (Isotonic) และผลิตภัณฑ์นม ไม่เพียงเท่านั้น ไทยเบฟเผยว่า บริษัทจะยังสามารถเพิ่มช่องทางการเข้าถึงผู้บริโภคในตลาดมาเลเซียและสิงคโปร์ ผ่านความเป็นผู้นำตลาดของ F&N อีกด้วย
ศึกท้าชนยักษ์ เปิดรายได้คู่แข่งในอาเซียน
ความเคลื่อนไหวของไทยเบฟครั้งนี้ คือการประกาศสมรภูมิศึกท้าชนยักษ์เครื่องดื่ม และอาหารในอาเซียน อย่างเป็นทางการ ซึ่งความน่าสนใจอยู่ที่ยักษ์ใหญ่จากประเทสในอาเซียนก็มีรายได้สูสีหลักแสนล้านเช่นกัน
ภายหลังธุรกรรมล่าสุดนี้ ไทยเบฟจะไม่มีการถือครองหุ้นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกต่อไป ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถควบคุมและบริหารจัดการ Fraser and Neave Limited (F&N) อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลให้ไทยเบฟสามารถขยายธุรกิจไปสู่กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์และกลุ่มผลิตภัณฑ์นมซึ่งเป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว รวมถึงโอกาสในการสร้างรายได้ การบริหารต้นทุนและการดำเนินงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ การลดต้นทุนด้านการจัดซื้อ การจัดการห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงนวัตกรรมผลิตภัณฑ์
ไทยเบฟ มั่นใจว่า การปรับโครงสร้างครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก 4 ประเภท ดังนี้ ขยายโอกาสทางธุรกิจในตลาดอาเซียน ยกระดับความสามารถในการแข่งขัน ผลักดันให้ไทยเบฟก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารในภูมิภาค การปรับโครงสร้างครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของไทยเบฟ ที่มุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ร้อมก้าวสู่การเป็นผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มและอาหารในอาเซียน