นายจักรกฤติ สายสมบูรณ์ กรรมการบริหาร และหนึ่งในผู้ก่อตั้ง บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นในช่วงครึ่งปีหลังจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 4 ซึ่งเป็นช่วงเทศกาล คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากทั้งนักท่องเที่ยวต่างชาติและกำลังซื้อภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าต้นทุนวัตถุดิบและค่าขนส่งจะปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก แต่บริษัทไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากการนำเข้าวัตถุดิบจากญี่ปุ่น และค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง ทำให้ต้นทุนโดยรวมลดลง อย่างไรก็ตาม วัตถุดิบประเภทแซลมอน ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อาจมีราคาผันผวนตามสภาวะตลาดและปัจจัยอื่นๆ โดยคาดการณ์ว่าราคาแซลมอนอาจปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาสที่ 4
โดยบริษัทมีแผนการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลัง โดยมีเป้าหมายหลักคือการเพิ่มจำนวนสาขาและเปิดตัวแบรนด์ใหม่ เพื่อผลักดันให้รายได้เติบโตขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้ากลยุทธ์หลักของบริษัทประกอบด้วย
นอกจากนี้ มากุโระ กรุ๊ป ได้ให้ความสำคัญกับ ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะ ช่องทางโซเชียลมีเดีย อย่าง Facebook ซึ่งมีส่วนสำคัญในการดึงดูดลูกค้าใหม่ถึง 70% สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการใช้แพลตฟอร์มนี้ในการสื่อสารและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด
อีกทั้งการสร้าง คอนเทนต์ที่มีคุณค่า เช่น การนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรมอาหาร หรือเทรนด์อาหารที่น่าสนใจ ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า ทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจและจดจำแบรนด์มากขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจมาใช้บริการที่ร้าน
อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้มากุโระ กรุ๊ป ประสบความสำเร็จคือการ สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ การมีระบบสมาชิก CRM ช่วยให้บริษัทสามารถเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้าและนำมาวิเคราะห์เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น โดยเราได้ลูกค้าใหม่ๆ 7,000 รายเพิ่มขึ้นทุกเดือน
ซึ่งในตอนแรกตั้งเป้าไว้ที่ 2 แสนรายในสิ้นปี แต่ตอนนี้คิดว่าน่าจะเกินเกินเป้าไปถึง 2.3 แสนราย นอกจากนี้ การออกเมนูใหม่ๆ ที่มีความหลากหลายและปรับขนาดอาหารให้เล็กลง ก็เป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการลองอาหารใหม่ๆ และต้องการความยืดหยุ่นในการเลือกสั่งอาหาร โดยสัดส่วนรายได้ขอร้านมาจาก MAGURO 58% HITORI SUKIYAKI 25% และ SSAMTHING TOGETHER 17%
นายจักรกฤติ กล่าวว่า เทนรนด์ในปัจจุบันความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงคือ ความแปลกใหม่ ผู้บริโภคยุคนี้ต้องการสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเมนูอาหาร เครื่องดื่ม หรือบรรยากาศภายในร้าน
นอกจากนี้ความสำคัญของ ความหลากหลายของพื้นที่นั่ง โดยสังเกตว่าลูกค้าแต่ละกลุ่มมีความต้องการที่แตกต่างกัน บางคนอาจต้องการมานั่งทานคนเดียวเพื่อผ่อนคลาย บางครอบครัวอาจต้องการพื้นที่กว้างขวางสำหรับรับประทานอาหารร่วมกัน ดังนั้น การออกแบบร้านอาหารให้มีโซนนั่งที่หลากหลายตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มจึงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกสะดวกสบายและประทับใจกับการมาใช้บริการ