นางพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส มิวสิค จำกัด เปิดเผยว่า RS LiveWell ร่วมกับ RS Multimedia & Entertainment และ RS Music ปลดล็อคศักยภาพ ดึงความเชี่ยวชาญของแต่ละธุรกิจ ทั้งการปั้นศิลปิน การสร้างคอนเทนต์ และ Music Marketing มาขับเคลื่อนการคิดค้นและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่
เพื่อต่อยอดธุรกิจคอมเมิร์ซในหลากหลายรูปแบบ ภายใต้ Content to Commerce (C2C) กับ 3 แบรนด์ใหม่ ได้แก่ น้ำพริกปากท้อง, bbooty แป้งทาหน้าผสมรองพื้น และแป้งผสมรองพื้น TellmeDarling by Daring&Co. เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่ม Gen Z และมิลเลเนียล สู่การสร้างรายได้ที่เติบโตมากขึ้น
RS LiveWell บริษัทในเครือ อาร์เอส กรุ๊ป เป็น Product Company ผู้สร้างสรรค์และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความงาม ทำทัพด้วย นางสาววรัญญา ราชพลสิทธิ์หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส ลิฟเวลล์ จำกัด ผุดโมเดลกลยุทธ์ Content to Commerce ผ่าน 3 แบรนด์หลัก ได้แก่
ตลาดน้ำซอสปรุงรสและน้ำพริกในประเทศไทย มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2023 มีมูลค่ามากถึง 5.7 หมื่นล้านบาท และมีอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ถึง 8% โดยสินค้าในกลุ่มน้ำพริกสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน ยังไม่มีผู้เล่นรายใหญ่ หรือเจ้าของตลาดที่ชัดเจน
นับเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจ จึงเริ่มจากการจับมือกับรายการ “ปากท้องต้องรู้ ดูแล้วร้วยรวย” ที่เป็นอีกหนึ่งคอนเทนต์ยอดนิยมขวัญใจพ่อค้าแม่ขาย ที่ออกอากาศทางช่อง 8 มีมีเดียเป็นของตนเองทั้งออนแอร์ ออนไลน์ และมีกิจกรรมออนกราวน์ที่แข็งแรง จนมีฐานผู้ติดตามหลายสิบล้านคน
พร้อมดึง เอ ไชยา-แป้ง ศรันฉัตร์ มิตรชัย ที่มีฐานแฟนคลับบ้านมิตรชัย แข็งแกร่งกว่า 500,000 followers ทางโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง ร่วมเป็นเจ้าของและพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน ภายใต้แบรนด์ “ปากท้อง”
ชูกลยุทธ์ Strategic Partnerships ด้วยศักยภาพของ อาร์เอส กรุ๊ป ภายใต้โมเดลธุรกิจ Entertainmerce จึงทำให้ RS LiveWell เล็งเห็นว่า การทำ Co-Brand ระหว่างธุรกิจในเครือ เป็นจุดแข็งสำคัญในการดึงความเชี่ยวชาญและปลดล็อคศักยภาพของแต่ละธุรกิจในเครือออกมาใช้
ตลาดเครื่องสำอาง (Color Cosmetics) ในประเทศไทยมีมูลค่ามากถึง 20,087 ล้านบาท ด้วยภาพรวมการเติบโตของตลาดมากถึง 33%
ในปี 2023 และยังมีแนวโน้มที่จะโตขึ้นเรื่อยๆ ในทุกปี สินค้ากลุ่มประเภท Facial Makeup และ Lip Products ถือเป็นกลุ่มประเภทที่มีโอกาสในการเติบโต
รวมถึงมีส่วนแบ่งในตลาดเป็นหลัก โดยเปิดตัวโปรเจกต์แรกด้วย ใบเตย ที่มีผู้ติดตามทางโซเชียลมีเดียกว่า 6.5 ล้านบัญชี ที่สำคัญ ใบเตยมีแพชชั่นที่อยากเป็นเจ้าของแบรนด์ผลิตภัณฑ์ความงาม ดังนั้น จึงเกิดเป็นแบรนด์ Bbooty ขึ้น และจับกลุ่มลูกค้าในช่วงวัยรุ่นและวัยทำงาน ที่มีอายุระหว่าง 20-35 ปี ที่มีความชอบและสนใจในการแต่งหน้า รักสวยรักงาม
ทั้งนี้ความโดดเด่นของ Bbooty คือนวัตกรรมการผลิตที่ใช้เทคโนโลยีล่าสุดในการผลิตเครื่องสำอางและการใช้สารสกัดต่างๆ ที่มีคุณภาพสูง ในราคาที่จับต้องได้
ชูกลยุทธ์ Star Commerce เป็นกลยุทธ์สำคัญที่มาสนับสนุนศิลปิน-ดาราในสังกัด ที่นอกจากความสามารถที่ครบแล้วยังสามารถเป็นได้มากกว่า จากการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ศิลปินในทุกมิติ พร้อม Full Ecosystem support ที่ทำให้ศิลปินสามารถนำไปต่อยอดได้รอบด้าน
ช่วยเพิ่มรายได้ให้กับศิลปินในสังกัดให้เป็นตัวของตัวเองได้มากกว่าแบบที่พวกเขาอาจจะไม่เคยนึกถึงมาก่อน โดย RS LiveWell เองมองเห็นว่า
เน้นการใช้กลยุทธ์ Brand Collaborations RS Livewell มองหาพาร์ทเนอร์ที่มีศักยภาพตลอดเวลา เพื่อต่อยอดธุรกิจให้กับแบรนด์ ซึ่งจากมูลค่าตลาดของสินค้าแป้งทาหน้าในกลุ่มของ Facial Makeup อยู่ที่ 5,131.3ล้านบาท เติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 8.4%
โดยแบรนด์ Daring&Co. ถือเป็นแบรนด์ที่เน้นจับกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและวัยทำงาน (younger generation) ด้วยความเป็นแบรนด์ใหม่ และวัยรุ่น ทางแบรนด์จึงมองหาพาร์ทเนอร์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการทำผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและเป็นที่รู้จักอย่างยาวนานในประเทศ รวมทั้งเป็นพาร์ทเนอร์ที่มีความครบวงจร Tellme จึงตอบโจทย์ทั้งภาพของแบรนด์และฝั่งโรงงานการผลิต
รวมถึงการมีช่องทางการขายที่ครอบคลุมและกว้างขวาง การร่วมมือกันของแบรนด์ Daring&Co. และ Tellme ภายใต้แบรนด์ TellmeDarling by Daring&Co. ถือเป็นการขยายกลุ่มลูกค้าของทั้ง 2 แบรนด์ รวมถึงการ refresh ภาพแบรนด์และสินค้าของ Tellme ให้ดูเป็นวัยรุ่นและทันสมัยมากยิ่งขึ้น
โดยเลือกใช้พรีเซ็นเตอร์วัยรุ่นชื่อดัง ร่วมกับการทำเพลงในรูปแบบ Music Marketing การใช้ศักยภาพของ RS Music เพื่อส่งสารให้เชื่อมโยงไปยังอารมณ์ความรู้สึกของผู้ฟัง พร้อม ๆ กับการสร้างความคุ้นเคยอย่างไม่รู้ตัว จนกระทั่งชื่อแบรนด์หรือชื่อสินค้ากลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้ฟัง เพื่อสร้าง Brand Awareness โดยใช้เพลง Tellme Darling ที่ขับร้องโดย เบิ้ล ปทุมราช - ลำไย ไหทองคำ มาเป็นเพลงตั้งต้น และเน้นการทำการตลาดไปยังช่องทาง online เพื่อเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม
คาดการณ์สัดส่วนรายได้ของธุรกิจคอมเมิร์ซในปี 2567 อยู่ที่ 1,000 ล้านบาท แบ่งเป็น รายได้จากทั้ง 3 แบรนด์ใหม่ คาดว่าจะอยู่ที่ 250 ล้านบาท รายได้จากแบรนด์สินค้าอื่นๆ ของ RS LiveWell ประมาณ 750 ล้านบาท พร้อมบุกธุรกิจคอมเมิร์ซด้วยขยายช่องทางการขายในประเทศ โดยเฉพาะ TikTok โมเดิร์นเทรด และบิวตี้สโตร์ และขยายช่องทางการขายไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV