KEY
POINTS
นายวัชรพงศ์ ลีโทชวลิต หัวหน้าฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้รวมไว้ที่ตัวเลขหลักเดียวระดับกลาง หรือราว 5-6% แตะที่ระดับประมาณ 4,400 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทจะมุ่งเน้นการปรับโครงสร้างทางธุรกิจใหม่ และจะเป็นปีที่เห็นการเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดให้กับ Eco-System ของบริษัทให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นในทุกหน่วยธุรกิจ ทั้งธุรกิจมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเมนท์ และธุรกิจคอมเมิร์ซ เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับองค์กร
โดยในปี 2567 มองว่าธุรกิจรีเทลจะให้ไปรุกการทำการตลาดในกลุ่มที่เป็น Social Commerce เพิ่มมากขึ้น อาทิ Tiktok Facebook และ Instagram เป็นต้น เพราะมองว่าสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้กว้างมากขึ้น รวมถึงยังขยายฐานลูกค้าใหม่ๆ ได้เพิ่มเติม และตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด อีกทั้งยังมีต้นทุนในการซื้อพื้นที่การโฆษณาที่ต่ำกว่า เมื่อเทียบกับธุรกิจสื่อแบบดั้งเดิม โดยข้อดีคือ RS มีศิลปินที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จัก ทำให้สามารถดึงเอาศักยภาพมาสร้างเป็นอินฟลูเอนเซอร์ (Influencer) ได้
เพื่อเป็นการจะยกระดับการสร้าง แบรนด์ และขยายสู่ช่องทางจัดจำหน่ายใหม่ๆ จึงนับเป็นปีแห่งการ synergy จากผลิตภัณฑ์และแพลตฟอร์มช่องทางการขายที่แข็งแกร่งทั้งกลุ่ม อาร์เอส รวมศูนย์ภายใต้ RS LiveWell เพื่อสร้างความสมบูรณ์ให้แก่ Commerce ecosystem โดยใช้ทรัพยากรภายในกลุ่มให้เกิดประโยชน์สูงสุดอย่างเต็มที่ เพิ่มความหลากหลายของสินค้า ขยายฐานลูกค้า และนำไปสู่การสร้างรายได้ที่เติบโตมากขึ้น โดยธุรกิจ RS LiveWell มีสินค้า House Brands ประกอบไปด้วยแบรนด์ well u, vitanature+, DARING & CO., aviance, Beyonde, iFresh, Happie Homie และ Erb เป็นต้น
ขณะที่อีกหนึ่งธุรกิจที่มองว่ามีแนวโน้มการเติบโตที่ค่อนข้างดีในปี 2567 คือ RS pet all ซึ่งเป็นธุรกิจครบวงจรสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ แบ่งเป็น 3 ธุรกิจย่อย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง ภายใต้แบรนด์ Lifemate, HATO VETERINARY SELECT และ Jungle Monster Thailand ธุรกิจเซอร์วิสภายใต้แบรนด์ HATO Pet Wellness Center และโรงพยาบาลสัตว์ HATO และธุรกิจรีเทลช็อป ภายใต้แบรนด์ PET ALL MY LOVE ที่จะเป็นอีกขาหนึ่งเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งให้กับผลการดำเนินงาน
ในส่วนของธุรกิจ RS Music ประกอบด้วย 4 ค่ายเพลง ได้แก่ BRIQ ENTERTAINMENT, RSIAM, COOL Music และ FASH คอมมูนิตี้สำหรับแฟนเพลง ได้แก่ kamikaze และ RS Friends, สถานีเพลง COOLfahrenheit, RS Showbiz และจัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย (TCC) จะมีการจัดกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องมากขึ้น รวมถึงเดินหน้าสร้างการเติบโตร่วมกันกับพันธมิตรทุกค่ายเพลงชั้นนำ เพื่อเป็นการยกระดับวงการเพลงในทุกๆ ด้าน รวมถึงเปิดโอกาสไปตลาดต่างประเทศ และผลักดัน RS Music เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี 2568
ขณะที่ RS Multimedia & Entertainment ในปีนี้จะเป็นการปรับโครงสร้างใหม่ที่ข้ามขีดจำกัดของดิจิทัล ทีวี แบบไม่จำกัดแพลตฟอร์มและตลาดในประเทศเท่านั้น แต่ยังเปิดโอกาสความร่วมมือจากพันธมิตรในหลากหลายรูปแบบ นอกจากนี้ บริษัทยังวางแผนจัดงานคอนเสิร์ตใหญ่ อีกหลายอีเวนท์ โดยจะมีการนำเอาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไปร่วมทำการตลาดในงาน เพื่อสร้างการรับรู้ กระตุ้นการจดจำแบรนด์ และทำให้เกิดการซื้อผลิตภัณฑ์ซ้ำในอนาคตร่วมด้วย