ตลาดผู้สูงวัยบูม “อากงอาม่า” รุกขยายไลน์สินค้าเพิ่ม

05 ต.ค. 2567 | 23:00 น.

ตลาดผู้สูงวัยบูม แบรนด์ “อากงอาม่า” เดินหน้ารุกออนไลน์ ออฟไลน์ พร้อมพัฒนาสินค้าใหม่เจาะกลุ่มเด็ก -ผู้ใหญ่ หวังดันยอดขายเติบโต 20%

เภสัชกรเกศกมล จันทร์โภคาไพบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ศิกมล เอลเดอร์ลี่ พลัสจำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์ “อากงอาม่า” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าตลาดผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงอายุในภูมิภาคเอเชียกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในเอเชียแปซิฟิก

ซึ่งครองส่วนแบ่งตลาดโลก 39.3% ในปี 2566 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรสูงอายุในประเทศขนาดใหญ่อย่างจีนและอินเดีย ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายนี้เพิ่มสูงขึ้น

เภสัชกรเกศกมล จันทร์โภคาไพบูลย์

นอกจากนี้ผู้บริโภคชาวเอเชียหันมาให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติและออร์แกนิกมากขึ้น สำหรับตลาดประเทศไทย พบว่ามีมูลค่าราว 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 297,500 ล้านบาท ในปี 2567 และมีการเติบโตเฉลี่ย 11% ต่อปี สะท้อนให้เห็นจำนวนผู้สูงอายุในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

สอดคล้องกับรายงาน “สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2565” ของ มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย (มส.ผส.) ระบุว่า ในปี 2565 ทั่วทั้งโลกมีประชากรสูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) มากถึง 1,109 ล้านคน คิดเป็น 14% ของประชากรโลก 8,000 ล้านคน

ประเทศจีนมีผู้สูงอายุเป็นจำนวนมากที่สุดในโลกถึง 265 ล้านคน และประเทศญี่ปุ่นมีอายุ 60 ปีขึ้นไป 36% ของประชากรทั้งหมด 124 ล้านคน ส่วนประเทศอินโดนีเซีย มีผู้สูงอายุ 30 ล้านคน คิดเป็น 11% ของประชากรทั้งหมด

ตลาดผู้สูงวัยบูม “อากงอาม่า” รุกขยายไลน์สินค้าเพิ่ม

สำหรับประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป คิดเป็น 19% ของประชากรทั้งหมด ในอีก 20 ปีข้างหน้า ประชากรไทยจะลดลงจาก 66 ล้านคน เหลือเพียง 60 ล้านคน แต่ประชากรสูงอายุจะเพิ่มจาก 13 ล้านคน เป็น 19 ล้านคน

ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจ แต่ก็ยังมีปัจจัยท้าทายคือ ข้อกำหนด กฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม รวมถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ค่าแรง ค่าขนส่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตและการดำเนินธุรกิจโดยรวม

 ปัจจุบันแบรนด์อากงอาม่า มีผลิตภัณฑ์ 5 กลุ่มหลัก ได้แก่ ครีมอาบน้ำ ครีมทาผิว สบู่ก้อน บาล์ม และครีมกันแดด ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้สูงอายุ โดยในปีหน้าบริษัทมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มอายุอื่นๆ เช่น เด็กและผู้ใหญ่ที่มีปัญหาผิวแห้ง

โดยจะปรับสูตรผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น เช่น การเพิ่มตัวเลือกของกลิ่น หรือการปรับปรุงเนื้อสัมผัสของผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย

ตลาดผู้สูงวัยบูม “อากงอาม่า” รุกขยายไลน์สินค้าเพิ่ม

ทั้งนี้บริษัทเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรธรรมชาติให้เหมาะกับผิวหนังของผู้สูงอายุ พร้อมทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เช่น โรงพยาบาล คลินิก ร้านยา และโซเชียลมีเดียที่ผู้สูงอายุใช้งาน โดยแบรนด์มุ่งเน้นปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของผู้สูงอายุให้ดูทันสมัย สดใส และมีความสุขใช้สีสันสดใสและดีไซน์ที่น่าสนใจบนบรรจุภัณฑ์

สำหรับภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีที่ผ่านมา พบว่าในไตรมาสแรกมีเติบโตดี ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของอีคอมเมิร์ซและเทศกาลสำคัญต่างๆ ส่วนยอดขายในไตรมาส 2 ลดลงเล็กน้อย คาดว่าเป็นผลมาจากพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่ชะลอตัวลงหลังจากช่วงเทศกาล อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีความมั่นใจว่ายอดขายจะฟื้นตัวกลับมาในครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่และคริสต์มาส

ด้านแผนลงทุน บริษัทมีแผนลงทุนด้านเครื่องจักร เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต สำหรับสัดส่วนยอดขายของแบรนด์มาจากออนไลน์ 80% ออฟไลน์ 20% โดยมีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนยอดขายออฟไลน์เป็น 30% ในอนาคต

ตลาดผู้สูงวัยบูม “อากงอาม่า” รุกขยายไลน์สินค้าเพิ่ม

อีกทั้งต้องการส่งเสริมผู้สูงอายุให้มาทำงานกับแบรนด์อากงอาม่า เพื่อสร้างอาชีพรายได้ อาจจะในรูปแบบ พาร์ทไทม์และฟูลไทม์ อย่างไรก็ดีในปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้ 4 ล้านบาท และจะเติบโตก้าวกระโดด โดยตั้งเป้าหมายที่จะเติบโต 20% หรือมียอดขาย 10 ล้านบาทในปีหน้า

ปัจจุบันมองว่าพฤติกรรมผู้บริโภคมีความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด โดยผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ข้อมูลและศึกษาผลิตภัณฑ์ก่อนตัดสินใจซื้อมากขึ้น ไม่เชื่อแต่คำโฆษณาเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีการสอบถามถึงส่วนประกอบ ขอดูฉลาก และเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อย่างระมัดระวัง

โดยเน้นการใช้เท่าที่จำเป็นและมีความเรียบง่ายมากขึ้น นอกจากนี้ผู้บริโภคยังมีความสนใจในผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดขั้นตอนการใช้ และผลิตภัณฑ์ที่สามารถปรับให้เข้ากับสภาพผิวของแต่ละบุคคลได้เป็นอย่างดี

 

หน้า 16 ฉบับที่ 4,032 วันที่ 3 - 5 ตุลาคม พ.ศ. 2567