เจภูเก็ตแรง ดันดีมานด์ตลาดอาหารจากพืชแตะ 4.5 หมื่นล้าน

นายวิเศษ วิศิษฏ์วิญญู กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพีแรม กล่าวว่า การเข้าร่วมสนับสนุนของซีพีแรมในการประเพณีถือศีล กินผัก จังหวัดภูเก็ต ถือเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งในภูเก็ตและประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ สร้างเงินสะพัดในท้องถิ่น และยกระดับเศรษฐกิจของเมืองภูเก็ตได้อย่างมีนัยสำคัญ

ผ่านการโปรโมทวัฒนธรรม อาหารที่เป็นหนึ่งใน Soft Power สอดรับกับข้อมูลของศูนย์วิจัยกรุงไทยซึ่งชี้ว่า ตลาดอาหารจากพืชของไทยจะเติบโตถึง 4.5 หมื่นล้านบาทภายในปีนี้ ด้วยอัตราการเติบโต (CAGR) 10% ซึ่งใกล้เคียงกับอัตราการเติบโตของตลาดโลกที่ 10.5%

ขณะเดียวกันข้อมูลของ TCDC ยังระบุถึงแนวโน้มอุตสาหกรรมว่า อาหารจากพืช จัดเป็นหนึ่งในกลุ่มอาหารที่ผู้บริโภคให้ความนิยมและยอมจ่ายในราคาที่สูงขึ้น ซึ่งแบรนด์ต่าง ๆ ได้เชื่อมโยงผลิตภัณฑ์เข้ากับปรัชญาชีวิตดั้งเดิมหรือเมนูอาหารท้องถิ่นอีกด้วย

สอดคล้องกับผลสำรวจของบริษัทวิจัยการตลาดระดับโลกอย่าง Mintel ที่ระบุว่าในช่วงปี 2559 - 2563 มีชาววีแกนหน้าใหม่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้นถึง 440% ด้วยเหตุผลเรื่องสุขภาพ สิ่งแวดล้อม และการไม่เบียดเบียนสัตว์

นายวิเศษ กล่าวต่อว่า ตลาดอาหารเจของเมืองไทยในปัจจุบันมีการเติบโตสูงขึ้นอย่างมาก สะท้อนถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมานิยมอาหารเจและอาหารจากพืชกันเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่อง ไม่จำกัดเฉพาะในช่วงของเทศกาลกินเจเท่านั้น แต่ได้กลายเป็นไลฟ์สไตล์การรับประทานอาหารในชีวิตประจำวันตลอดปี

โดยปี 2567 คาดว่ายอดจำหน่ายอาหารเจของซีพีแรมในปีนี้ เติบโตกว่าปีที่แล้วไม่น้อยกว่า 10% เทียบยอดขายอาหารเจของซีพีแรมในปี 2566 ที่ผ่านมา ปัจจัยส่งผลจากเทรนด์การดูแลสุขภาพที่เพิ่มขึ้น ผู้บริโภคมีพฤติกรรมลดบริโภคเนื้อสัตว์ หันมาทานอาหารที่มาจากพืชมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง

"ซีพีแรม ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมอาหารพร้อมรับประทาน มุ่งมั่นตอบสนองเทรนด์ดังกล่าวด้วยการพัฒนาเมนูอาหารใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องตามเทรนด์และไลฟ์สไตล์การทานอาหารเจ หรืออาหารจากพืชที่เปลี่ยนไปทุกปี เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคทั้งในแง่คุณภาพ คุณค่าโภชนาการดีต่อสุขภาพ รสชาติอร่อย หน้าตาที่น่ารับประทาน และความหลากหลายของเมนู

เราจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมงานประเพณีถือศีลกินผักของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหาร (City of Gastronomy) ขององค์การยูเนสโก และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมให้ภูเก็ตเป็นสวรรค์แห่งอาหารและเป็นที่ยอมรับจากนักชิมทั่วโลกต่อไป"