รัฐบาลเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจับมือกับยักษ์ใหญ่ค้าปลีกทั่วประเทศ ร่วมกันจัดโปรโมชันพิเศษภายใต้โครงการ "ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส" เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและประชาชนให้สามารถเข้าถึงสินค้าและบริการในราคาที่เอื้อมถึงมากขึ้น ส่งผลดีต่อกำลังซื้อและกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง
เพื่อลดต้นทุนทางธุรกิจและเพิ่มช่องทางค้าขายให้กับผู้ประกอบการรายเล็กต่อ อาทิ การลดค่าเช่าร้านค้า ค่าเช่าแผงตลาด ค่าขนส่งไปรษณีย์ การสนับสนุนพื้นที่จำหน่ายสินค้าบริเวณศาลากลางจังหวัด นิคมอุตสาหกรรม และสถานีบริการน้ำมัน เป็นต้น ตั้งแต่วันนี้ - 23 มกราคม 2568
1.เซเว่น อีเลฟเว่น
เซเว่น อีเลฟเว่น จัดโปรโมชัน “เซเว่นฯ ยกทัพสินค้า ช่วยค่าครองชีพ” เพื่อให้สอดรับกับ“โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ” ของภาครัฐ รวมสินค้าโปรโมชันที่เข้าร่วมรายการมากกว่า 1,100 รายการ อาทิ สินค้าประกอบการชง ข้าวสาร น้ำดื่ม นม กลุ่มทำความสะอาด กระดาษชำระ และสินค้าอื่นๆ อีกมากมาย
มาพร้อมกับส่วนลดมากถึง 50% และยังมีส่วนลด และ code ส่วนลด ให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ เลือกช้อป เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย สอดรับนโยบาย “โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ” ของภาครัฐในการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศและช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของพี่น้องคนไทย
2. บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน)
“ซัสโก้” เป็นสถานีบริการน้ำมันของคนไทย มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดเล็กผ่านการจัดพื้นที่ภายในสถานีบริการ เพื่อใช้ในการจำหน่ายสินค้า และยังลดอัตราค่าเช่าพื้นที่เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้กับกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กที่ดำเนินกิจการภายในสถานีบริการ ถือเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างยั่งยืนในช่วงฟื้นฟูเศรษฐกิจ
3. บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)
ชู “แม็คโคร-โลตัส” ร่วมโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ “ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส” เปิดพื้นที่ขายฟรีให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ ‘โลตัส’ ทุกภูมิภาค ควบคู่การรับซื้อผลิตผลจากเกษตรกรกว่า 200,000 ตัน พร้อมจัดแคมเปญลดราคาสินค้าช่วยค่าครองชีพประชาชนกว่า 8,000 รายการ ที่แม็คโครและโลตัสทุกสาขาทั่วประเทศ
โดยบริษัทมุ่งสนับสนุนการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและเอสเอ็มอีกว่า 200,000 ราย พร้อมรับซื้อและเป็นช่องทางจำหน่ายผลิตผลจากเกษตรกรไทย 200,000 ตัน สร้างเงินหมุนเวียนเศรษฐกิจกว่า 10,000 ล้านบาท ในปี 2567 ส่งเสริมให้เกษตรกรและเอสเอ็มอีไทย มีรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน
4. บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จํากัด (มหาชน) หรือ OR
ในฐานะผู้ผลิตธุรกิจพลังงานและค้าปลีกของประเทศไทย ได้เข้าร่วมสนับสนุนโครงการด้วยการจัดพื้นที่จําหน่ายสินค้าบริเวณสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ที่เข้าร่วมโครงการ 1,000 สาขาทั่ว ประเทศ รวมถึงได้ลดค่าเช่าพื้นที่ห้องว่างในสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ที่ OR เป็นเจ้าของ
เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้มี ช่องทางจําหน่ายสินค้าเพิ่มเติม พร้อมทั้งจัดโปรโมชันพิเศษสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคในร้านค้าปลีกภายในสถานีบริการ พีทีที สเตชั่น ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์จากโครงการไทยเด็ด ผลิตภัณฑ์หล่อลื่น และสินค้าในร้านคาเฟ่ อเมซอน เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน
5.บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด (มหาชน) หรือ NEO
ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคของประเทศไทย โดย NEO เตรียมนำทัพสินค้าอุปโภคที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ในครัวเรือน กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้สำหรับเด็กภายใต้ 8 แบรนด์ ได้แก่ ไฟน์ไลน์, สมาร์ท, โทมิ, บีไนซ์, ทรอส, เอเวอร์เซ้นส์, วีไวต์ และดีนี่
โดยนำเสนอสินค้าราคาพิเศษเกือบ 53 รายการ เข้าร่วมมหกรรมลดราคาสินค้า ที่จัดขึ้นโดย กระทรวงพาณิชย์ เพื่อลดภาระค่าครองชีพของประชาชน และตอกย้ำความมุ่งมั่นตั้งใจของ NEO ร่วมมือกับภาครัฐเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง
6.บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือ SPC
SPC ร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ ร่วม“โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ” ลดราคาสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวันทั่วประเทศ เพื่อ“ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจ” ช่วยแบ่งเบาภาระลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ซึ่งนำสินค้าอุปโภคบริโภคลดราคาสูงสุด 59 % ช่วยค่าครองชีพให้ประชาชน
7.ไทวัสดุ ธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน
ไทวัสดุ ธุรกิจค้าปลีกวัสดุก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน ภายใต้ บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ร่วมมือกับภาครัฐใน "โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ"
โดยนำสินค้าเข้าร่วมโครงการฯ กว่า 2,694 รายการ และลดราคาสินค้าพิเศษรวมสูงสุดกว่า 72% อาทิ กระเบื้องพื้นและผนัง บานประตู อุปกรณ์ประตู เครื่องกรองน้ำ ปั๊มน้ำ ถังเก็บน้ำ เฟอร์นิเจอร์ ชุดห้องครัว ชุดสุขภัณฑ์ ชุดเครื่องนอน น้ำยาและอุปกรณ์ทำความสะอาด ฯลฯ
โดยมีการขยายเวลาโปรช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมไปจนถึง 30 พ.ย. 2567 ลดราคาสินค้ากลุ่มทำความสะอาด สินค้าวัสดุก่อสร้าง ซ่อมแซมบ้าน และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการทำความสะอาดและฟื้นฟูบ้านให้กลับมาในสภาพดีโดยเร็วที่สุด เพื่อช่วยเหลือผู้ได้รบผลกระทบในจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ น่าน ลำปาง ตาก พิษณุโลก และ เลย ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด”