วันนี้ (7 ตุลาคม 2565) นายมนต์ชัย ตะโหนด ผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้คลี่คลาย ส่งผลให้จำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารเดินทางมายังจังหวัดภูเก็ต มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
โดยในเดือน ม.ค.-ส.ค.65 ที่ผ่านมา มีเที่ยวบินที่ทำการบินทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ จำนวน 9,167 เที่ยวบิน และผู้โดยสารจำนวน 849,406 คน หรือเฉลี่ยวันละ 7,400 คน
แต่ในช่วงปลายเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งกำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวของภูเก็ตและอันดามัน ผู้โดยสารที่ผ่านท่าอากาศยานภูเก็ตมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นมา มีผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 10,000 คน
ทั้งคาดว่าเมื่อเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว จะมีผู้โดยสารผ่านท่าอากาศยานภูเก็ตไม่ต่ำกว่าวันละ 30,000 คน เป็นผู้โดยสารภายในประเทศ 16,000-18,000 คน ที่เหลือเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ
โดยสายการบินที่ทำการบินเข้าภูเก็ตในช่วงปลายปีนี้จะเป็นสายการบินเดิมที่เคยบินมาภูเก็ตก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้งจากยุโรป ตะวันออกกลาง สแกนดิเนเวีย ตุรกี เกาหลีใต้ ทั้งที่เป็นเที่ยวบินประจำและเช่าเหมาลำ
รวมถึงสายการบินใหม่ๆ เช่น สายการบินของรัสเซีย สายการบินแอร์โรฟลอต ที่จะทำการบินเข้าภูเก็ตวันละ 2 เที่ยวบิน ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค.นี้เป็นต้นไป และอีกหนึ่งสายการบินที่จะบินแบบเช่าเหมาลำ ทุกวันจันทร์ พุธ และเสาร์ นอกจากนี้ ยังมีสายการบินของพม่าที่จะบินตรงมาภูเก็ตอีกด้วย
หากเปรียบเทียบช่วงไฮซีซันปีนี้กับช่วงไฮซีซันเมื่อปี 2562 ก่อนที่จะเกิดโควิด-19 ระบาด จะเห็นว่าสายการบินต่างๆ ได้กลับมาทำการบินมายังภูเก็ตแล้วไม่ต่ำกว่า 70 % ที่เหลืออีก 30 % เป็นสายการบินจากประเทศจีน ที่ขณะนี้ยังไม่สามารถทำการบินมายังภูเก็ตได้ เนื่องจากทางการจีนยังไม่อนุญาตให้คนจีนเดินทางท่องเที่ยวนอกประเทศได้ จะต้องรออีกสักระยะหนึ่ง
อย่างไรก็ตามการที่สายการบินต่างๆ ได้ทยอยบินมายังภูเก็ต ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2565 นี้เป็นต้นไป ทางท่าอากาศยานภูเก็ตคาดการณ์ว่า ในปี 2566 จะมีจำนวนเที่ยวบินที่จะทำการบินมายังท่าอากาศยานภูเก็ต มากกว่า 88,043 เที่ยวบิน และคาดว่าจะมีจำนวนผู้โดยสารที่จะมาใช้บริการมากกว่า 13 ล้านคน และคาดว่าในปี 2567 จำนวนผู้โดยสารที่ผ่านท่าอากาศยานภูเก็ตจะกลับมาเท่ากับตัวเลขในปี 2562 ที่ผู้โดยสารสูงสุดถึง 18 ล้านคน