ยก "อุทยานแห่งชาติกุยบุรี" พื้นที่นำร่องท่องเที่ยวความหลากหลายทางชีวภาพ

15 พ.ย. 2565 | 08:50 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ย. 2565 | 15:54 น.

ครม. อนุมัติให้ "อุทยานแห่งชาติกุยบุรี-เขาสามร้อยยอด-ปากน้ำปราณบุรี" เป็นพื้นที่นำร่องโครงการบูรณาการการท่องเที่ยวบนพื้นฐานความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

15 พฤศจิกายน 2565 นางสาวทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบและอนุมัติโครงการบูรณาการการท่องเที่ยวบนพื้นฐานความหลากหลายทางชีวภาพเพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Mainstreaming Biodiversity – based Tourism in Thailand to Support Sustainable Tourism Development) ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ เพื่อบูรณาการการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพเข้ากับการพัฒนาและการดำเนินงานด้านการท่องเที่ยวทั้งในระดับประเทศและระดับท้องถิ่น

 

เป็นการสร้างรายได้ให้ประเทศจากการท่องเที่ยวในขณะที่มีการส่งเสริมการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและความหลากหลายทางชีวภาพของชุมชน ที่สำคัญ คือ จะเป็นการนำร่องโครงการที่จะส่งเสริมให้มีการเพิ่มการกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวไปสู่ชุมชนให้เหมาะสมเพิ่มมากขึ้น สร้างประโยชน์โดยตรงให้ทั้งสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ เป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จึงทำให้กองทุนสิ่งแวดล้อมโลก (Global Environment Facility : GEF) ให้การสนับสนุนงบประมาณบางส่วนวงเงินจำนวน 2,639,726 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 97.67 ล้านบาท)

 

สำหรับการดำเนินโครงการตามที่สำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ (องค์การมหาชน) ภายใต้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกับโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme : UNDP) ประเทศไทยพัฒนาโครงการดังกล่าว

ความมุ่งหมายของโครงการดังกล่าวเพื่อให้มีการพัฒนากรอบนโยบายด้านการท่องเที่ยวบนพื้นฐานความหลากหลายทางชีวภาพที่มุ่งส่งเสริมการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืนและชุมชนได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง โดยที่เป็นการท่องเที่ยวที่หลีกเลี่ยงการสร้างผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ

 

โดยกำหนดพื้นที่เป้าหมาย (นำร่อง) 3 พื้นที่ในจ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่มีแหล่งภูมิทัศน์ที่สวยงามและความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญระดับโลก มีระบบนิเวศที่หลากหลาย มีพื้นที่แนวชายฝั่งที่เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำนานาชนิด ได้แก่

 

พื้นที่เป้าหมายหลัก 2 พื้นที่ คือ อุทยานแห่งชาติกุยบุรีและอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดโดยมีพื้นที่ทางบกและทางทะเลคิดเป็น 721,039.93 ไร่ และพื้นที่ทำงานข้างเคียง 1 แห่ง ได้แก่ บริเวณปากน้ำปราณบุรี ที่เป็นพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลและพื้นที่ชุมน้ำสามร้อยยอดคิดเป็น 107,553.75 ไร่” น.ส.ทิพานัน กล่าว

โครงการดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินการ 4 ปี เริ่มตั้งแต่ พ.ศ. 2565 – 2569 และเมื่อดำเนินโครงการเรียบร้อยแล้ว ผลสำเร็จที่ได้จะประกอบด้วย 3 ประการได้แก่

 

1.กรอบนโยบาย

มีกรอบนโยบายระดับชาติและกลไกการประสานงานที่มีการบูรณาการและขับเคลื่อนการท่องเที่ยวบนพื้นฐานความหลากหลายทางชีวภาพ เช่น

  • การพัฒนากลยุทธ์การท่องเที่ยวบนพื้นฐานความหลากหลายทางชีวภาพในระดับชาติ
  • วิธีการประเมินผลกระทบจากการท่องเที่ยวต่อสังคม เศรษฐกิจ และระบบนิเวศ ที่น่าเชื่อถือและสามารถนำไปปฏิบัติได้ เป็นต้น

 

2.สร้างต้นแบบในระดับจังหวัด

มีต้นแบบของแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนโดยที่ความหลากหลายทางชีวภาพได้รับการอนุรักษ์และมีกลไกการเงินสนับสนุนการดำเนินการในพื้นที่ เช่น

  • การพัฒนาแพลตฟอร์มการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
  • การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการการท่องเที่ยวบนพื้นฐานความหลากหลายทางชีวภาพอย่างยั่งยืนเพื่อเสริมสร้างเศรษฐกิจระดับชุมชนท้องถิ่น เป็นต้น


3.ขยายผล

มีองค์ความรู้ที่สร้างจิตสำนึกในคุณค่าและความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพและกระบวนการที่จะนำไปสู่การอนุรักษ์ ฟื้นฟู และใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพในท้องถิ่นอย่างยั่งยืน เช่น

  • การจัดการองค์ความรู้ การสร้างความตระหนักรู้ และการติดตามและประเมินผล
  • สนับสนุนการสร้างจิตสำนึกให้กับนักท่องเที่ยว ชุมชนท้องถิ่น สมาคมการท่องเที่ยว ให้เห็นถึงประโยชน์และความสำคัญของการท่องเที่ยวบนพื้นฐานความหลากหลายทางชีวภาพ โดยจะนำความสำเร็จในการดำเนินโครงการไปแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practices) ในพื้นที่อื่น ๆ ทั่วประเทศ เพื่อขยายผลการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

 

ทั้งนี้ รัฐบาลมีนโยบายหลักที่ต้องการสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจที่จะเอื้อประโยชน์ให้คนในชุมชนอย่างยั่งยืน รายได้จากภาคการท่องเที่ยวมีส่วนสำคัญที่จะก่อให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงส่งเสริมโครงการบูรณาการการท่องเที่ยวกับการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพจึงเป็นโครงการต้นแบบที่จะสร้างสมดุลให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่มีการพัฒนาทั้ง 3 ด้านไปด้วยกัน คือ ด้านเศรษฐกิจ ด้านสิ่งแวดล้อม และ ด้านสังคม