ภาครัฐ-เอกชนเข้าหารือนายสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ เตรียมต้อนรับขบวนรถไฟระหว่างประเทศมาเลเซีย นำนักท่องเที่ยวเข้ามาเดือนธันวาคม สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่เผย คาดว่าจะเข้ามาจำนวน 3 เที่ยว ๆ ละ 400 กว่าคน หลังจากที่ผ่านมาเข้าเดือนละ 1 เที่ยว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ห้องรับรอง VIP สถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา นายสมพล ชีววัฒนาพงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา เข้าหารือกับนายณรงค์ฤทธิ์ การิกาญจน์ นายสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ เรื่องการเตรียมความพร้อม เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่จะเดินทางเข้ามาด้วยขบวนรถไฟขบวนพิเศษ ที่จะเพิ่มจำนวนอีกในเดือนธันวาคม 2565
โดยมีดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมหาดใหญ่-สงขลา นายสุวัฒน์ เพชรวโรทัย กรรมการหอการค้าจังหวัดสงขลา นายก่อเกียรติ เลิศวิทยาวิวัฒน์ ประธานชุมชนพระเสน่หามนตรี นายกิตติศักดิ์ สาโส๊ะ เลขานุการสมาคมผู้ประกอบการบริการเพื่อการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางสาวมัณฑนา ภูธรารักษ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานหาดใหญ่ นางสาวกษมา ราญฎร รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานหาดใหญ่ ร่วมด้วย
นายสมพล ชีววัฒนาพงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา กล่าวว่า เป้าหมายของการเข้าพบกับนายสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่วันนี้ ระยะสั้นก็คือการเตรียมการต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่เดินทางมากับขบวนรถไฟระหว่างประเทศขบวนพิเศษ ในเดือนธันวาคมนี้
ส่วนในระยะยาวก็คือ การพูดคุยถึงทิศทางของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะให้เจรจากับการรถไฟมาเลเซีย ที่จะให้มีขบวนรถไฟระหว่างประเทศขบวนพิเศษเข้ามาทุกสัปดาห์ และการนำหัวรถจักรญี่ปุ่น KIHA 183 มาวิ่งหาดใหญ่-ปาดังเบซาร์
“นี่คือสิ่งที่วางเป้าหมายเอาไว้ แล้วก็อาจจะต้องเก็บข้อมูลทำเรื่องเสนอตามช่องทาง ที่เราจะผลักดันได้ต่อไป"
นายสมพล กล่าวอีกว่า การที่มีขบวนรถไฟขบวนพิเศษระหว่างประเทศจากประเทศมาเลเซียเข้ามา ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมาก สำหรับการท่องเที่ยวของหาดใหญ่ เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ 1.การที่เขานั่งรถไฟเข้ามา เมื่อมาถึงเขาก็จะมาใช้จ่ายในพื้นที่โดยไม่ไปที่อื่น เหมือนกับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ขับรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาเที่ยว ซึ่งอาจจะเดินทางต่อไปยังจังหวัดอื่น ๆ เช่น ไปพัทลุง ภูเก็ต เกาะสมุย หรือหัวหิน แต่การเดินทางมาโดยรถไฟก็คงจะใช้เวลาอยู่ในหาดใหญ่ หรืออย่างมากก็แค่ไปยังสถานที่ใกล้เคียง แต่ไม่สามารถไปไกลได้กว่านี้ เนื่องจากไม่มียานพาหนะมาด้วย
นอกจากนี้การใช้จ่ายอะไรต่าง ๆ ก็ต้องใช้บริการในพื้นที่ เช่น รถสาธารณะ แทนที่จะใช้รถส่วนบุคคล ตรงนี้ก็น่าจะได้ผลทางเศรษฐกิจค่อนข้างดี หลังจากนี้ก็จะมีการประชุมต่อเนื่อง ในเรื่องการเดินทางของนักท่องเที่ยวมาเลเซีย เข้ามาโดยขบวนรถไฟขบวนพิเศษ กับทางผอ.ททท.สนง.หาดใหญ่ ว่าจะจัดแพคเกจทัวร์กันอย่างไรในพื้นที่
ซึ่งในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้อง จะสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวเหล่านี้ได้อย่างไรบ้าง หลังจากวันนี้ก็นัดประชุมนอกรอบกัน กับส่วนที่เกี่ยวข้องของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งภาครัฐและเอกชน ถ้าจะสามารถต่อยอดได้อย่างไร การมาพบนายสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ เพื่อจะดูทิศทางว่าการอนุญาตให้ใช้พื้นที่นโยบายของรฟท.เป็นอย่างไร
“เท่าที่ฟังจากนายสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ว่า ขบวนรถไฟขบวนพิเศษระหว่างประเทศมาเลเซีย ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ก็คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาในประเด็นเหล่านี้”
ด้านนายณรงค์ฤทธิ์ การิกาญจน์ นายสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ กล่าวว่า ในเดือนธันวาคมนี้ คาดว่าจะมีขบวนรถไฟขบวนพิเศษจากประเทศมาเลเซียเข้ามาจำนวน 3 เที่ยว หรือ 3 ขบวนด้วยกัน โดยคาดว่าจะเข้ามาวันที่ 10-12 ธันวาคม จำนวน 1 เที่ยว วันที่ 24-26 ธันวาคม และวันที่ 31 ธันวาคม 2565- 2 มกราคม 2566
“เบื้องต้นยังใช้คำว่าคาดว่า เนื่องจากยังไม่มีการลงนามที่เป็นลายลักษณ์อักษร จากผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ถ้ามีทุกอย่างจึงจะแน่นอน ยืนยันได้ ตอนนี้ต้องใช้คำว่าคาดว่าจนกว่าจะมีการเซ็นต์ จึงจะชัดเจน”
สำหรับริ้วขบวนรถไฟขบวนพิเศษจากประเทศมาเลเซีย ที่คาดว่าจะเข้ามาในช่วงเดือนธันวาคมนี้ ก็ยังเท่าเดิมเหมือนกับที่เข้ามาแล้ว 2 ครั้งก่อนหน้านี้ คือริ้วขบวนก็ประมาณ 12 โบกี้ ประมาณ 400 กว่าคน สำหรับการหารือกันนี้ ก็เป็นการหารือในเรื่องแนวทางการให้การต้อนรับขบวนรถไฟขบวนพิเศษมาเลเซีย
ที่ผ่านมาขบวนรถไฟขบวนพิเศษมาเลเซีย เข้ามาตอนที่ผมเข้ามาดำรงตำแหน่งมีเข้ามาจำนวน 2 เที่ยว เดือนละ 1 เที่ยว เดือนกันยายนและเดือนตุลาคม ซึ่งผลตอบรับจากการที่ได้พูดคุยกับผู้ประกอบการ สมาคมต่าง ๆ ผลตอบรับดีมาก
“ตัวเลขทางเศรษฐกิจดีเพิ่มขึ้นมาก ตรงนี้ต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนในเมืองหาดใหญ่ ที่ช่วยกันสร้างความประทับใจ ให้กับนักท่องเที่ยวของเมืองหาดใหญ่และประเทศไทย ทำให้เดือนธันวาคมที่คาดว่าจะเข้ามา3เที่ยว ถือว่าจะนำเม็ดเงินเข้าในพื้นที่เมืองหาดใหญ่” นายสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่ กล่าว
ขณะที่นางสาวมัณฑนา ภูธรารักษ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานหาดใหญ่ กล่าวว่า ได้รับทราบว่า มีการกำหนดพื้นที่จัดเคาท์ดาวน์ จัดขึ้น 2 แห่งในประเทศ คือ กรุงเทพฯและหาดใหญ่ แต่รายละเอียดยังไม่ทราบว่ารายละเอียดเป็นอย่างไร เนื่องจากอยู่ระหว่างการดำเนินการ
“ต้องขอบคุณผู้บริหารระดับสูงของทางหน่วยงาน ทั้งในส่วนของรัฐบาล และส่วนของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เอง ที่เห็นความสำคัญของพื้นหาดใหญ่ ที่ปักหมุดให้มีเทศกาลใหญ่ ก็คือ เคาท์ดาวน์ เพราะตรงนี้เราถือเป็นเมืองหน้าด่าน เป็นประตูเข้าสู่ประเทศไทย ทั้งทางรถ ทางราง และทางเครื่องบิน ที่ต่างประเทศสามารถเดินทางเข้ามาได้สะดวก”
ฉะนั้นเราก็อยากทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้าน ในการต้อนรับนักท่องเที่ยว และร่วมเทศกาลที่เป็นระดับสากลด้วยกัน โดยใช้พื้นที่ของหาดใหญ่ ในการรองรับและต้อนรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่กลับมาเดินทางเพิ่มขึ้นหลังโควิดคลี่คลาย จนมียอดนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
“น่าจะเป็นโอกาสดีของเรา เป็นโอกาสดีของหาดใหญ่ ที่จะได้จัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย สิงคโปร์ หรือประเทศต่าง ๆ และได้เห็นศักยภาพและความพร้อม ของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน พี่น้องประชาชนในพื้นที่ด้วย เพราะทุกคนเป็นเจ้าของพื้นที่ร่วมกัน” ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานหาดใหญ่ กล่าวย้ำ