ทย.ทุ่ม 4,568 ล้าน พัฒนาสนามบินภูมิภาค รับผู้โดยสาร 41 ล้านคนปี 2566

28 พ.ย. 2565 | 09:18 น.
อัปเดตล่าสุด :28 พ.ย. 2565 | 16:31 น.

กรมท่าอากาศยาน หรือ ทย. กางแผนปี 2566 ทุ่มงบ4,568 ล้านบาท ยกระดับ-พัฒนา สนามบินภูมิภาค 29 แห่งทั่วไทย มั่นใจปี2566 รองรับผู้โดยสารเดินทางกว่า 41 ล้านคน

นายปริญญา แสงสุวรรณ อธิบดีกรมท่าอากาศยาน(ทย.) เปิดเผยถึงแผนกลยุทธ์ที่จะพัฒนาสนามบินภูมิภาคทั้ง 29 แห่งในปี 2566 ว่า ภายหลังจากที่สถานการณ์การบินเริ่มกลับเข้ามาสู่ภาวะปกติ สายการบินเริ่มเพิ่มเที่ยวบินที่จะให้บริการมากขึ้น

 

ปริญญา แสงสุวรรณ

 

กรมท่าอากาศยาน หรือ ทย. จึงมีเป้าหมาย ดังนี้

 

1. เร่งพัฒนาขยายขีดความสามารถสนามบินภูมิภาคที่อยู่ในความรับผิดชอบให้มีศักยภาพ ในการรองรับผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ซึ่งมีแผนลงทุนรวมกว่า 4,568 ล้าน
บาท เพื่อส่งเสริมโครงข่ายคมนาคมทางอากาศของประเทศ 

 

โดยมีเป้าหมายว่าในปี 2566 จะมีปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางผ่านสนามบิน ทย. รวม 41 ล้านคนจากเดิมช่วงก่อนหน้ามีปริมาณการเดินทางที่ 29 ล้านคน

 

2. ทย.มีนโยบายที่จะเพิ่มความสะดวกสบายการบริการให้กับผู้โดยสาร และ สายการบินที่มาใช้บริการที่สนามบินของ ทย.ด้วยการเปิดให้บริการเคาน์เตอร์เช็คอิน ร่วมสายการบิน

 

ทั้งนี้ในแผนกลยุทธ์พัฒนาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ สนามบินในปี 2566 ทย. มีแผนลงทุนรวมกว่า 4,568 ล้านบาท นั้น ในส่วนนี้จะเป็นการเปิดให้บริการของท่าอากาศยานที่พัฒนาแล้วเสร็จ ประกอบด้วย

  • สนามบินกระบี่ ที่เปิดให้บริการอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 1- 3 (ในประเทศและระหว่างประเทศ) โดยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจากเดิม 1,500 คนต่อชั่วโมงหรือ 4 ล้านคนต่อปี เป็น 3,000 คนต่อชั่วโมงหรือ 8 ล้านคนต่อปี 

 

  • สนามบินขอนแก่น เปิดให้บริการอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ รองรับผู้โดยสารจากเดิม 1,000 คนต่อชั่วโมงหรือ 2.8 ล้านคนต่อปี เป็น 2,000 คนต่อชั่วโมงหรือ 5 ล้านคนต่อปี 

 

  • สนามบินนครศรีธรรมราช เปิดให้บริการอาคารที่พักผู้โดยสาร หลังใหม่ ทำให้รองรับผู้โดยสารจากเดิม 450 คนต่อชั่วโมงหรือ 1.3 ล้านคนต่อปี เป็น 1,600 คนต่อชั่วโมง หรือ 4 ล้านคนต่อปี


นายปริญญา กล่าวว่า ส่วนนโยบายที่จะเพิ่มความสะดวกสบายการบริการให้กับผู้โดยสาร และ สายการบินที่มาใช้บริการที่สนามบินของ ทย.ด้วยการเปิดให้
บริการเคาน์เตอร์เช็คอินร่วมสายการบินนั้น ขณะนี้ ทย.ได้เริ่มดำเนินการที่จะลงระบบ และพัฒนาระบบให้เป็นเคาน์เตอร์เช็คอินร่วมแล้ว ใน 6 สนามบิน ประกอบด้วย

 

  • สนามบินสุราษฎร์ธานี 

 

  • สนามบินนครศรีธรรมราช

 

  • สนามบินตรัง

 

  •  สนามบินขอนแก่น

 

  • สนามบินอุบลราชธานี 

 

  • สนามบินพิษณุโลก 

 

โดยข้อดีของการเปิดเคาน์เตอร์เช็คอิน
ร่วมสายการบินนั้น จะช่วยให้ผู้โดยสารไม่ว่าจะเดินทาง ด้วยสายการบินไหนก็สามารถเช็คอินที่เคาน์เตอร์ของ
ทย.ได้

 

ขณะเดียวกันสายการบินก็ไม่จำเป็นต้องลงทุน ระบบเช็คอินในแต่ละสนามบินเอง ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ภายในสิ้นปี 2566

 

ขณะเดียวกัน ทย.ยังมีแผนพัฒนาสนามบินระนอง เพื่อรองรับการพัฒนาตามนโยบายของกระทรวงคมนาคมในเรื่องของโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน(Land bridge)

 

การพัฒนาท่าอากาศยานจะสามารถรองรับอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลให้รองรับผู้โดยสารและสินค้าได้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย


นอกจากนั้นในส่วนของสนามบินชุมพร จะมีก่อสร้างต่อเติมความยาวทางวิ่ง ขยายทางขับ ลานจอดเครื่องบิน พร้อมระบบไฟฟ้าสนามบิน และองค์ประกอบอื่นๆ วงเงิน1,500 ล้านบาท 

 

ส่วนสนามบินนครศรีธรรมราช จะมีการขยายทางขับและลานจอดเครื่องบินให้สามารถรองรับอากาศยาน เพื่อรองรับผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในอนาคต จากการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังใหม่ที่แล้วเสร็จวงเงิน 500 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ ในปี 2567 ทย. จะมุ่งเน้นการพัฒนา Level of service (LOS) เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้
แก่ผู้ใช้บริการ โดยจัดทำโครงการจัดหาและติดตั้งระบบตรวจจับการไหลเวียนของผู้โดยสาร วงเงิน 99 ล้านบาท ในสนามบิน 7 แห่ง  ประกอบด้วย

 

  • สนามบินสุราษฎร์ธานี

 

  • สนามบินนครศรีธรรมราช

 

  • สนามบินขอนแก่น

 

  • สนามบินอุบลราชธานี

 

  • สนามบินพิษณุโลก

 

  • สนามบินตรัง

 

  • สนามบินแม่สอด