สงกรานต์สุดมันส์ 3 คอนเสิร์ตระดับโลก ประชันจัดในไทย

14 เม.ย. 2566 | 13:02 น.
อัปเดตล่าสุด :14 เม.ย. 2566 | 13:59 น.

หลังประเทศไทย ว่างเว้นการจัดกิจกรรมในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ไปถึง "3 ปีเต็ม" ปีนี้บรรดาผู้จัดงานอีเวนท์ต่างๆ จึงทุ่มทุนจัดยิ่งใหญ่กว่าทุกปี งานคอนเสิร์ตระดับโลกทั้ง " Rolling Loud - Waterbomb - S2O " แห่จัดชนกัน สะท้อนศักยภาพไทยศูนย์กลางงานดนตรีโลกในเอเชีย

สงกรานต์ไทยปีนี้คึกคักกว่าทุกปี หลังรัฐบาลไทยอนุญาตให้จัดกิจกรรมเล่นน้ำ ปีนี้เราจึงเห็นว่ามีอีเวนท์มากมาย โดยเฉพาะงานแสดงดนตรี และคอนเสิร์ต ความพิเศษคือปีนี้มีงานใหญ่ระดับโลกมาจัดในไทย ช่วงสงกรานต์ถึง 3 งาน ในช่วงเวลาเดียวกัน คือช่วง 13-15 เมษายน เช่วงชิงเงินในกระเป๋าชาวไทยที่เป็นคอดนตรี ทั้ง S2O , Rolling Loud  และ Waterbomb 

S2O

เทศกาลดนตรีเอสทูโอ ( S2O )  เป็นงานเทศกาลดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ของไทย ที่จัดขึ้นช่วงสงกรานต์ที่ประเทศไทย จัดครั้งแรกเมื่อปี 2558 

เอสทูโอ เป็น "เทศกาลดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย" และส่งออกวัฒนธรรมสงกรานต์ไปสู่สากล  เริ่มจัดในต่างประเทศครั้งแรกในปี พ.ศ. 2561 ในประเทศญี่ปุ่น และ ปี พ.ศ. 2563 จัดขึ้นในประเทศไต้หวัน

ปีนี้จัดวันที่ 13-15 เมษายน มีศิลปินที่มาร่วมงาน 15 วง เช่น Tiesto, Nicky Romero , Sebastian Ingrosso, Vinai และ Liu  เป็นต้น

Facebook :  S2O Songkran Music Festival

ราคาบัตรเข้างาน แบบ 1 วัน 2,000 บาท ซื้อล่วงหน้า 1,600 บาท แบบ 3 วัน 4,200 บาท ซื้อล่วงหน้า 3,400 บาท

งานเอสทูโอ จัดโดย “บริษัท เอสทูโอ แฟคทอรี่ จำกัด” (กลุ่มบริษัทเครือเดียวกับ บริษัท ทิฟฟานี โชว์ พัทยา จำกัด)  โดยมีผู้ริเริ่มจัดงานคือ พิธีกรดัง “วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา”

บริษัทก่อตั้ง ปี 2559 ด้วยทุนจดทะเบียน 20,000,000 บาท  มูลค่าบริษัทปัจจุบัน 38,840,698 บาท

ผลประกอบการบริษัทล่าสุดที่รายงาน ปี 64  รายได้ 3,898,251 (+48.02) ขาดทุน -83,905  (+97.99%) 

ในปี 2561 เคยทำรายได้สูงสุดถึง 170 ล้านบาท ด้วยกำไร 17.38 ล้านบาท แต่ในปี 2562-2563 ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 รายได้ลดลง ส่วนหนึ่งเพราะต้องงดจัดงานในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยปี 2563 รายได้เหลือ 2.6 ล้านบาท ขาดทุน 4.16 ล้านบาท

Rolling Loud

โรลลิ่ง ลาวด์ (Rolling Loud) คือ "1ในเทศกาลแร็พโดยเฉพาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก" ที่มีต้นกำเนิดในสหรัฐอเมริกา และขยายไปจัดในยุโรป ออสเตรเลียและแคนาดา ล่าสุด มาจัดในไทย "ถือเป็นประเทศแรกในเอเชีย"   

จัดครั้งแรกปี 2558 ที่เมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ริเริ่มโดย "แมท ซิงก์เลอร์ และ ทาริค เชริฟ" ซึ่งเป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยประถม จุดเริมต้นมาจากการจัดปาร์ตี้ แล้วหันมารับจัดงานอาฟเตอร์ปาร์ตี้ในไมอามี ในงานยังมีการเปิดตัวตัวศิลปินหน้าใหม่จนหลายคนมีชื่อเสียงในปัจจุบัน จนกระทั่งก้าวขึ้นมาเป็นเทศกาลดนตรีระดับประเทศ

Facebook : Rolling Lound Thailand
งานโรลลิ่ง ลาวด์ "พัฒนาเป็นงานใหญ่ระดับโลก" จัดทั้งในอเมริกายุโรปและออสเตรเลีย   เคยสร้างสถิติจำนวนผู้ร่วมงานมากที่สุดในปี 2564 ที่จัดในไมอามี มีผู้เข้าร่วมประมาณ 210,000 คน

สำหรับการจัดงานที่พัทยา ประเทศไทยปีนี้ งานมี 3 วัน คือ13-15 เมษายน 2566 ศิลปินฮิปฮอปมากกว่า 60 ชีวิต มาแสดงบน 2 เวที ตัวอย่างศิลปินดังที่มาร่วมงาน เช่น Cardi B, Chris Brown, Travis Scott, Bibi และ Jay Park เป็นต้น

ราคาบัตรเข้างาน แบบ 3 วัน  วีไอพี 25,000 บาท ธรรมดา 13,000 บัตร และแบบ 1 วัน 7,650 บาท

มีข้อมูลว่า เทศกาลดนตรี โรลลิ่ง ลาวด์ สามารถทำรายได้ ปีละ 16.6 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 565 ล้านบาท ( ที่มา growjo.com) 

Waterbomb Festival

เทศกาลดนตรีช่วงซัมเมอร์ชื่อดังจากเกาหลีใต้ Waterbom มาจัดครั้งแรกที่เมืองไทยในปีนี้ และเป็นการ "จัดงานนอกประเทศเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกในโลก"  งานมี 2 วัน คือ13-14 เมษายน 2566  

งานนี้พบกับศิลปิน K-Hiphop, K-Pop, EDM 38 วง และทีมงานจากเกาหลีกว่า 120 ชีวิต พร้อมแสงสีเสียง บินตรงจสกเกาหลีมาสร้างประสบการณ์ให้แฟนไทยเหมือนไปงาน Waterbomb ที่เกาหลีใต้

ศิลปินดังที่มาร่วมงานปีนี้ เช่น ZICO,  SIMON DOMINIC, ASTER&NEO,  RAIDEN,  COOGIE,  อูวอนแจ , ยอนอา และ CL เป็นต้น

ราคาบัตรเข้างาน บัตรวันเดียว ราคา 3,300-4,600 บาท บัตร 2 วัน ราคา 5,900-8,200 บาท

งาน Waterbomb จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อสิงหาคมปี 2558 ที่ Jamsil Sports Complex ในกรุงโซล จากนั้นจัดขึ้นในทุกเดือนกรกฎาคม ขยายไปทั่วเกาหลีกว่า 9 เมือง จนเกิดปรากฏการณ์ "บัตรขายหมดทุกครั้งที่จัด"  มีคนร่วมงานกว่า 100,000 คนทุกครั้งที่จัด

เน้นดนตรีแนวฮิปฮอปและ EDM  ด้วยความพิเศษคือ "การฉีดน้ำใส่ฝูงชนและศิลปินอย่างต่อเนื่อง" ในระหว่างการแสดง  ผู้ชมส่วนใหญ่ถือปืนฉีดน้ำสาดใส่กันและนักดนตรี  สถานที่แสดงยังมีการแสดงน้ำพุที่สวยงาม

Facebook : Waterbomb Bangkok

ทั้ง 3 เวทีคอนเสิร์ตที่จัดในช่วงสงกรานต์นี้ดึงดูดคนไทย และต่างชาติมาร่วมงาน และถือเป็นปรากฏการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทย เป็น 1 ในเอเชียที่มีศักยภาพในการดึงดูดผู้จัดงานอีเวนท์ระดับโลก ช่วยทำให้เม็ดเงินสะพัดในประเทศได้อีกทาง

ก่อนหน้านี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้  5 วัน (13-17 เม.ย.)  เงินสะพัด 2.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน