วันที่ 5 ตุลาคม 2566 ณ กาดจริงใจ เชียงใหม่ นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และนางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานเชียงใหม่ ร่วมแถลงแผนปฏิบัติการส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยว ประจำปี 2567 นำเสนอแผนการปฏิบัติงานและทิศทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาคเหนือและจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด Chiang Mai The Greatest Change สู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
นางสาวภัทรองนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ ททท. กล่าวถึง แนวโน้มสถานการณ์การท่องเที่ยวภาคเหนือในปี 2566 คาดว่าจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยไม่น้อยกว่า 34 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 17 และมีรายได้จากการท่องเที่ยว 1.55 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ร้อยละ 23
โดยในปี 2567 มีเป้าหมายจำนวนผู้เยี่ยวเยือนชาวไทย ไม่น้อยกว่า 40 ล้านคน-ครั้ง และรายได้จากการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 1.86 แสนล้านบาท เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ ททท. ภูมิภาคภาคเหนือ จึงได้กำหนดทิศทาง
ในการส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยวภาคเหนือ ประจำปี 2567 ในการมุ่งเน้นส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวภาคเหนือที่ผสมผสานระหว่างเสน่ห์วันวานเมืองเหนือ (North Nostalgia) และความร่วมสมัย (Contempory) ผ่าน Northern Thailand Soft Power ที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ผ่าน 3 แนวทางหลัก ได้แก่
1. Amazing Northern Lifestyle สร้างสรรค์ประสบการณ์ท่องเที่ยวผ่านการเสนอขายสินค้าตามแนวคิด Northern Thailand Soft Power ที่โดดเด่นของภาคเหนือ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น
2. Amazing Northern Faithival ส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเดือนมีนาคม – กันยายน ซึ่งมีอัตราการเข้าพักแรมต่ำ โดยนำเสนอสินค้าและบริการในด้านกิจกรรม เทศกาล ประเพณี (Event Marketing) ที่เกี่ยวกับความเชื่อและศรัทธาที่สามารถสร้าง Inspiration ในการดำเนินชีวิต
และ 3. Amazing Northern Mueang Rong ส่งมอบประสบการณ์การเดินทางท่องเที่ยวเมืองรองและพื้นที่รองโดยสะท้อนอัตลักษณ์ของวัฒนธรรม วิถีชีวิต อาหารถิ่น และกิจกรรมท่องเที่ยวผ่านการเสนอขายสินค้าตามแนวคิด “เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ (North Nostagia)” รวมถึงเส้นทางขับรถท่องเที่ยวเชื่อมโยงภายในภูมิภาคภาคเหนือในฤดูต่างๆ โดยโฟกัสไปที่กลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ Lady, Gen Y, High-End และ Active Senior
นอกจากนี้ ยังมีนโยบายให้ทั้ง 11 สำนักงานภาคเหนือทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดภายใต้แนวคิด CSR in Process และ BCG ลงไปในทุกกิจกรรม เพื่อเป็นการสร้างความยั่งยืนและมั่นคงทางการท่องเที่ยว
นางสาวสุลัดดา ศรุติลาวัณย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ททท. สำนักงานเชียงใหม่ ได้กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนมกราคม - สิงหาคม 2566 จังหวัดเชียงใหม่มีรายได้ทางการท่องเที่ยวราว 52,437 ล้านบาทตลอดทั้งปี 2566 คาดว่าจังหวัดเชียงใหม่จะสามารถบรรลุเป้าหมายรายได้ทางการท่องเที่ยวที่ประมาณ 90,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 80 ของปี 2562
แรงผลักดันสำคัญมาจากการปรับเปลี่ยนนโยบายส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวของภาครัฐให้เกิดความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น (Ease of Travelling) และการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวภายหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 นับเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้จังหวัดเชียงใหม่บรรลุเป้าหมายรายได้ทางการท่องเที่ยวได้ไม่ยาก
ทั้งนี้ ในปี 2567 ได้วางเป้าหมายไว้ว่าจังหวัดเชียงใหม่จะสามารถทำรายได้ทางการท่องเที่ยวได้เท่ากับปี 2562 ซึ่งเป็นปีก่อนการระบาดของโควิด -19 คิดเป็นรายได้ราว 1.10 แสนล้านบาท
ในปี 2567 ททท. สำนักงานเชียงใหม่ จะทำการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวผ่าน Soft Power ตามแนวคิด 5F ดังนี้ F:Food อรรถรสของกิ๋นคนเมือง F:Festival เชียงใหม่เมืองแห่งเทศกาล F:Film อภิรมย์เชียงใหม่
ตามรอยหนัง F:Fashion ยลเสน่ห์ภูษาเวียงพิงค์ F:Fight (Fit&Firm) เชียงใหม่รีทรีต โดยจะนำเสนอขายผ่านแผนปฏิบัติการส่งเสริมการท่องเที่ยวประจำปี 2567 ใน 4 โครงการ ได้แก่
โครงการ Amazing Chiang Mai Retreat กิจกรรม อาทิ Zodiac Spa นวดตามธาตุ ผ่อนคลายตามราศี, Chiang Mai Green Kitchen, Chiang Mai Sport tourism
โครงการ Amazing Chiang Mai Workation ส่งเสริมให้กลุ่ม Workation และกลุ่มวัยทำงานเกิดการเดินทางท่องเที่ยวในวันธรรมดาสามารถทำงานควบคู่กันไปด้วย
โครงการ Vijitr Viang Ping กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย (Expat) ให้ออกเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่มากขึ้น
โครงการ Amazing Chiang Mai Road Trip เสนอขายเส้นทางท่องเที่ยวสำหรับกลุ่ม Gen Y อาทิ กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์ Amazing Dark Sky in Chiang Mai, กิจกรรม Glamping & Music, กิจกรรม Specialty Tea and Coffee