ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อ วันที่10 พฤศจิกายน 2566 ที่ อุทยานวิทยาศาสตร์หนองนารี จังหวัดเพชรบูรณ์ นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ และนางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วม “เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวภาคเหนือ ประจำปี 2567 ชูแนวคิด “เสน่ห์วันวานเมืองเหนือ (North Nostalgia)” ผสาน “ความร่วมสมัย (Modern Lanna)”
พร้อมจับมือพันธมิตร 17 จังหวัดภาคเหนือ สร้างเครือข่ายในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว หวังกระตุ้นการเดินทางภาคเหนือช่วง High Season สู่ภาพรวมเที่ยวภาคเหนือทั้งปี 186,000 ล้านบาท พร้อมยกนำเสนอ “เที่ยวเพชรบูรณ์ต้อง 678” ผลักดันจังหวัดเพชรบูรณ์สู่จุดหมายปลายทางเที่ยวได้ตลอดปี
นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวว่า มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ททท. ภูมิภาคภาคเหนือ เลือกจัดงานเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวภาคเหนือ ประจำปี 2567 ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ โดยจังหวัดเพชรบูรณ์ยังขอนำเสนอแคมเปญ “เที่ยวเพชรบูรณ์ต้อง 678” ที่แนะนำจังหวัดเพชรบูรณ์ในหลากหลายแง่มุม ผ่าน 6 ของที่ระลึกต้องซื้อ 7 เมนูอาหารต้องชิม และ 8 แหล่งท่องเที่ยวต้องไป เพื่อสร้างการรับรู้ในฐานะเมืองที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
จังหวัดเพชรบูรณ์ยังมีนโยบายด้านการท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นการส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อสร้างสรรค์มูลค่าเพิ่ม โดยเฉพาะด้านรายได้จากการท่องเที่ยวและมูลค่าจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ผลิตภัณฑ์ชุมชน และของฝากของที่ระลึก ตลอดจนพัฒนาปัจจัยแวดล้อมให้การนำความคิดสร้างสรรค์มาต่อยอดเป็นสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยว เสริมสร้างศักยภาพผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้มีทักษะและองค์ความรู้ในธุรกิจการท่องเที่ยว
ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการตลาดด้วยการนำเสนอเอกลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่น และการให้ความสำคัญต่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว อีกทั้ง สำหรับอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ซึ่งได้รับการบรรจุขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งที่ 7 ของประเทศไทย ก่อให้เกิดกระแสการเดินทางมาเที่ยวชมมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ในอนาคตจังหวัดเพชรบูรณ์มีแผนโครงการที่จะผลักดันให้มีการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์ขึ้นเพื่อบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับอารยธรรมทับซ้อนกันถึง 3 อารยธรรม อายุเก่าแก่ราวเกือบ 2,000 ปี ด้วย
ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคเหนือ ททท. เปิดเผยว่า ททท. เตรียมดำเนินการส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวภูมิภาคภาคเหนือ โดยบูรณาการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวของภาคเหนือ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และสื่อมวลชน ในพื้นที่ 17 จังหวัด ร่วมกันส่งมอบประสบการณ์การท่องเที่ยวภาคเหนือที่ผสมผสานระหว่างเสน่ห์วันวานเมืองเหนือ (North Nostalgia) และความร่วมสมัย (Modern Lanna) ผ่าน Northern Thailand Soft Power ที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ภายใต้ 3 ทิศทางหลัก ได้แก่
1. Amazing Northern Lifestyle ขยายฐานตลาดและเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวคุณภาพ ผ่านเทรนด์ของการดื่มชา กาแฟ และโกโก้ กิจกรรม Retreat ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความสงบและผ่อนคลายอย่างแท้จริง รวมถึงเสน่ห์ของงาน Modern Art & Craft ที่นำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาสร้างสรรค์ผสมผสานเข้ากับความทันสมัย
2. Amazing Northern Festival กระตุ้นความถี่ในการเดินทางท่องเที่ยวเพื่อขยายฤดูกาลท่องเที่ยว ผ่านความเชื่อ ความศรัทธา และสายมู
และ 3. Amazing Northern Mueang Rong กระตุ้นการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวสู่พื้นที่เมืองรอง ด้วยการเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ (Story Telling) ผสมผสานอัตลักษณ์ของวัฒนธรรม เมืองเก่า-ย่านเก่า วิถีชีวิต อาหารถิ่น สินค้า GI และกิจกรรมท่องเที่ยวที่สามารถทำประโยชน์ต่อสังคม
นางสาวภัทรอนงค์ กล่าวอีกว่า ภูมิภาคภาคเหนือนั้นมีความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ในทุกฤดูกาล รวมทั้งตลอดปีนี้ ททท. ยังได้เตรียมนำเสนอกิจกรรมและงานเทศกาลประเพณีเพื่อเติมความน่าสนใจน่าการเดินทางเยือนภาคเหนือแต่ละฤดูอีกมากมาย ได้แก่กิจกรรมฤดูหนาว
เช่น เทศกาลลอยกระทงเอกลักษณ์เฉพาะพื้นที่ ประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่, ลอยกระทงเผาเทียน เล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย, ประเพณีล่องสะเปาจาวละกอน จังหวัดลำปาง, ลอยกระทงสายไหลประทีป 1000 ดวง จังหวัดตาก, ลอยกระทงจุดผางประทีปตีนก๋า ปูจาแม่ก๋าเผือก
จังหวัดแพร่ กิจกรรมท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ มหกรรมศิลปะร่วมสมัยนานาชาติ Thailand Biennale, Chiang Rai 2023 จังหวัดเชียงราย, Balloon Festival Huppatat 2023 จังหวัดอุทัยธานี, งานเทศกาลหุ่นโคมไฟนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ รวมถึงกิจกรรมเคาน์ดาวน์ปีใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ
กิจกรรมฤดูฝน เช่น Pai Jazz and Blues Fest 2024 จังหวัดแม่ฮ่องสอน, ลำปางย้อนรอยลำปางพาแม่นั่งรถม้าแอ่วเวียงละกอน จังหวัดลำปาง, ประเพณีสลากภัตรหรือสลากย้อม จังหวัดลำพูน, ดอยช้างเทรล จังหวัดเชียงราย, กิจกรรมล่องแก่งลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก, กิจกรรมเวียนเทียนตะคัน เมืองโบราณสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย, มหกรรมอาหารพื้นบ้าน เทศกาลกินก๋วยเตี๋ยว เที่ยวเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร, งานประเพณีแข่งขันเรือยาว จังหวัดพิจิตร
และกิจกรรมฤดูร้อน เช่น Chiang Mai Crafts Week 2024 จังหวัดเชียงใหม่, Amazing Chiang Mai Pride 2024 จังหวัดเชียงใหม่, งานประเพณีเวียนเทียนทางน้ำ กลางกว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา, งานประเพณีหกเป็งไหว้สาพระมหาธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่าน, งานมหกรรมทุเรียนหลง - หลิน ลับแล ของดีของเด่นจังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดอุตรดิตถ์, เทศกาลพายเรือเที่ยวป่า ตามหาแมงกะพรุนน้ำจืด จังหวัดเพชรบูรณ์, เทศกาลวันวานอุทัยธานี จังหวัดอุทยธานี นอกจากนี้ ตลอดปี 2567 ภูมิภาคภาคเหนือยังภูมิใจนำเสนอกิจกรรม 356 day coffee ที่จะชวนทุกคนไปดื่มด่ำกับกาแฟซิกเนเจอร์ของภาคเหนืออีกด้วย
ใน 7 เดือน ถึงเดือนกรกฎาคม นักท่องเที่ยวที่มาภาคเหนือมีนักท่องเที่ยว 22 ล้านคน-ครั้งเดิน ถามว่าเป้าปีนี้ 34 ล้านคน-ครั้ง ครึ่งปีได้เกินครึ่งมาแล้ว คิดว่าปีนี้ภาคเหนือจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเกินเป้าหมาย แต่ในตอนนี้ที่นักท่องเที่ยวที่ยังไม่กลับมาคือนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพราะเข้าประเทศก็ยังไม่เต็ม เพราะฉะนั้นนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าภาคเหนือก็ยังไม่เท่า
ส่วนรายได้ตอนนี้ได้แล้วประมาณ 100,000 ล้านบาท ถ้าเปรียบเทียบกับปี 2565 ก็ได้เกินเป้า แต่เทียบกับปี 2562 ก็ยังได้ไม่ถึงเป้า เป้ารายได้อยู่ที่ประมาณ 150,000 ล้านบาท เพราะฉะนั้นเหลืออีก 4-5 เดือน ซึ่งเป็นฤดูกาลท่องเที่ยว คิดว่าน่าจะได้รายได้เกินเป้า เพราะฉะนั้นก็คิดว่าภาคเหนือปีนี้จะกระตุ้นในอีก 2 เดือนหลัง น่าจะได้จำนวนนักท่องเที่ยวเกินเป้า
ส่วนวันพักเฉลี่ยที่นักท่องเที่ยวเข้ามาในภาคเหนืออยู่ประมาณ 2.2 หรือ 2.8 แล้วแต่นักท่องเที่ยวไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ประมาณเกือบ 4,000 บาทต่อคนต่อทริป คือนักท่องเที่ยวชาวไทยจะอยู่ที่ประมาณ 3,900 บาท นักท่องเที่ยวต่างชาติจะอยู่ที่เกือบ 8,000 บาท แล้ว
การเดินทางทางอากาศ มีเที่ยวบินในประเทศเชี่ยมจากภาคเหนือ ไปยังภาคกลาง อีสาน ใต้ และภาคตะวันออก ไม่มีจากเชียงใหม่ไปอู่ตะเภา เดือนหนึ่งประมาณ 4 แสนซีส แต่ถ้าตลาดต่างประเทศบินเข้าภาคเหนือตอนนี้บินเฉพาะเชียงใหม่ สมัยก่อนก่อนโควิดจะมีบินเชียงใหม่ เชียงราย ตอนนี้มีบินเฉพาะเชียงใหม่ เชียงรายยังไม่กลับมา เดือนหนึ่งเฉลี่ยเกือบ 1 แสนซีส เพราะฉะนั้นรวมไทยและต่างชาติ มีซีสที่รองรับนักท่องเที่ยวเข้ามาในภาคเหนือประมาณ 5 แสนซีสต่อเดือน
แต่ยังมีการเดินทางทางบก ถ้าเป็นรถไฟตอนนี้จะเป็นแค่เชียงใหม่ แต่อีกไม่นานก็จะมีรถไฟที่จะทะลุข้ามไปถึงเชียงของ รถไฟประมาณ 90 ขบวนต่อเดือน ส่วนรถโดยสารประจำทาง มีประมาณ 1,300 เที่ยวต่อเดือนและมีความเชื่อมโยงกับกรุงเทพ ระยอง ตราด สามารถเชื่อมโยงเข้ามาได้ ห้องพักทั้งภาคเหนือใน 17 จังหวัด ที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ในปี 2566 ประมาณ 4,600 โรง ห้องทั้งหมดประมาณ 100,000 กว่าห้อง ตัวเลขเป็นบวกขึ้น มีมากกว่าตอนช่วงโควิด นั่นเพราะว่า เมืองรองมีการสร้างห้องพักเพิ่มมากขึ้น นั่นต้องเห็นว่าทำไมมีความต้องการของนักท่องเที่ยวมากขึ้น หรือผู้ประกอบการมีศักยภาพที่ยังจะเปิดมากขึ้น
สำหรับการเดินทางเที่ยวภาคเหนือของคนไทย ตามสถิติคนเหนือเที่ยวเหนือด้วยกันเอง เกิน 50-60% ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางภายในภาคเหนือดังนั้นภาคเหนือขายท่องเที่ยวกันเอง จึงได้จัดให้มีงานเปิดฤดูกาลท่องเที่ยวภาคเหนือ 2567 ขึ้นมีผู้ประกอบการมาจาก จังหวัดน่าน ได้มีโอกาสมาพบผู้ประกอบการจังหวัดเพชรบูรณ์ มาแลกเปลี่ยนการขาย มาทำความรู้จักกัน มีผู้ประกอบการจากลำปาง เชียงราย เขียงใหม่ ที่มาพบปะและแลกเปลี่ยนซื้อขายกันเพราะว่าตามสถิติ คนเหนือเที่ยวเหนือ เที่ยวใกล้ๆกันเอง
ดังนั้นททท. คาดหวังว่ากิจกรรมส่งเสริมการเดินทางที่จัดขึ้นตลอดทั้งปีนี้ จะช่วยผลักดันให้มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางมาท่องเที่ยวภาคเหนือในปี 2567 ไม่น้อยกว่า 40 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากปีที่ผ่านมา และเกิดรายได้จากการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 186,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 21 จากปีที่ผ่านมา