นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่า ประเทศไทยยังคงเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวเรือสำราญ (Cruise Traveller) ที่เดินทางเข้าสู่ประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 จำนวนกว่า 83,425 คนสร้างรายได้แก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยทั้งในพื้นที่กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต สมุยและจังหวัดใกล้เคียง ไม่น้อยกว่า 530 ล้านบาท
จากการบูรณาการความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่าง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กับ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล. (ศรชล.) และ จากการหารือ การส่งเสริม Cruise ร่วมกับ ประธาน Asia Cruise Services Network (ACSN) พบว่า ระหว่างวันที่ 21-27 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา เรือสำราญต่างชาติหลัก จำนวน 8 ลำ ได้แก่
เรือสำราญจากต่างประเทศ ทั้ง 8 ลำ นำนักท่องเที่ยวกว่า 15,642 คน พร้อมด้วยพนักงานและลูกเรือกว่า 6,347 คน เดินทางเข้าเทียบท่า ณ ชายหาดป่าตอง เกาะสมุย ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือคลองเตย และท่าเรือศรีราชา
นักท่องเที่ยวกลุ่มเรือสำราญนับเป็นหนึ่งกลุ่มนักท่องเที่ยวศักยภาพที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการส่งเสริมให้เกิดการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อรักษาสัดส่วนและบริหารความเสี่ยงจากการเดินทางทางอากาศและทางบก
โดยตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 เป็นต้นมาเรือสำราญขนาดใหญ่เข้าประเทศไทยแล้ว จำนวนทั้งหมด 23 เที่ยว ด้วยนักท่องเที่ยว จำนวน 59,031 คน และลูกเรือ จำนวน 24,394 คน
โดยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักจากประเทศสิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา เยอรมนี อังกฤษ และแคนาดา สร้างรายได้แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยแล้ว ไม่น้อยกว่า 530 ล้านบาท
ททท. ยังคงผลักดันและส่งเสริมให้เกิดการเดินทางของนักท่องเที่ยวคุณภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเรือสำราญ (Cruise Tourism) และกลุ่มยอช์ต (Yacht Tourism) โดยได้เตรียมการบูรณาการความร่วมมือกับกรมการท่องท่องเที่ยว กรมเจ้าท่า ศรชล. รวมถึงผู้ประกอบการภาคเอกชนเข้าร่วมงานส่งเสริมการขาย Seatrade Cruise Global 2024 ระหว่างวันที่ 8-11 เมษายน 2564 ณ the Miami Beach Convention Center สหรัฐอเมริกา