นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่าล่าสุดนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้มอบนโยบายเพื่อกระตุ้นตลาดการท่องเที่ยวในประเทศ
โดย “สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นำคณะผู้บริหารททท.รวมถึงผู้อำนวยการสำนักงานททท.สำนักงานในประเทศ 45 แห่ง เข้ารับมอบนโยบาย ซึ่งมอบนโยบาย 4 เรื่อง ได้แก่
นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้ททท.ผลักดันการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการสร้างรายได้ที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น สามารถสร้างงานและกระจายรายได้ให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก
ทั้งขอให้พิจารณาและให้ความสำคัญเกี่ยวกับการใช้จ่ายต่อทริปให้สูงขึ้น และเพิ่มจำนวนวันพักให้อยู่นานขึ้น ซึ่งจะทำให้มีการใช้จ่ายต่อหัวเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดเงินหมุนเวียนในภาคเศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ
ทั้งนี้การส่งเสริมการเดินทางท่องเที่ยวนั้นไม่เพียงแต่ในพื้นที่ท่องเที่ยวหลักที่เป็นเขตเศรษฐกิจ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ชลบุรี เท่านั้น แต่เราต้องเร่งต่อยอดและกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในพื้นที่ “เมืองรอง” ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ
อันจะเป็นการกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวสู่เมืองรองมากขึ้น โดยเน้นนำจุดเด่นของแต่ละพื้นที่มาใช้ในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งอาจจะเป็นสถานที่ที่สวยงาม หรือผลิตภัณฑ์ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ
นายกรัฐมนตรี ยังได้ย้ำว่าททท. ในฐานะที่ท่านเป็นด่านหน้าของการท่องเที่ยว ให้พัฒนาการให้บริการข้อมูลแก่นักท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้น เป็นตัวช่วยที่ทำให้นักท่องเที่ยววางแผนการเที่ยวได้อย่างง่ายดาย มีหลายภาษา มีช่องทางพูดคุยติดต่อหลายรูปแบบ ครอบคลุมทุก Time Zone เพื่อให้คนสามารถมาเที่ยวประเทศไทยได้ทุกเวลา
นายกเชื่อว่าเรามีข้อมูลเหล่านี้อยู่แล้ว จึงขอให้วิเคราะห์นักท่องเที่ยวกลุ่มเป้าหมาย ทำให้แหล่งข้อมูลเป็น Customer-centric มากขึ้น เว็บไซต์และแหล่งข้อมูลที่ดี การเรียบเรียงข้อมูลที่เข้าใจง่าย การประชาสัมพันธ์ที่หลากหลาย จะสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวที่กำลังวางแผน
ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะตัดสินใจมาเที่ยวได้อย่างแน่นอน โจทย์สำคัญในการกระตุ้นการท่องเที่ยวอีกประการหนึ่งคือการเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อทริป ประเทศไทยเรามีอัตลักษณ์ วัฒนธรรม หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวอีกมากมาย
นายกฯเชื่อว่าคนไทยเองก็สามารถเที่ยวได้เป็นเดือน วันนี้เราจะต้องทำให้โลกรู้ว่าอัตลักษณ์เหล่านั้นมีความน่าสนใจและเป็นจุดแข็งที่จะดึงให้นักท่องเที่ยวอยู่ให้นาน จับจ่ายให้เยอะขึ้น หรืออาจจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่สามารถเพิ่มวันพักค้างของนักท่องเที่ยว เมื่ออยู่นานขึ้น การใช้จ่ายก็จะมากขึ้นตามไปด้วย
ด้านนางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่ากระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยททท. ได้ดำเนินงานบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ให้ก้าวข้ามความท้าทาย และข้อจำกัด เพื่อกระตุ้น และส่งเสริมให้เกิดการเดินทางของนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งตลอดปี 2566 นี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คาดว่า จะมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย จำนวน 27 ล้านคน
ในขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางท่องเที่ยว ในประเทศจำนวน 185 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้รวมให้แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวบรรลุตามเป้าหมาย จำนวนไม่น้อยกว่า 2 ล้านล้านบาท จากประสบการณ์ในช่วงวิฤติการณ์ที่ผ่านมา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
พร้อมจะขับเคลื่อนนโยบายของนายกรัฐมนตรี ในการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทย เพื่อก่อให้เกิดการกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนท่องเที่ยว โดยเฉพาะ “พื้นที่รองในเมืองหลัก” รวมถึงการผลักดันให้เกิดกระแสการท่องเที่ยวใน “เมืองรอง” ตลอดปี 2567 ที่จะถึงนี้