เตอร์กิชแอร์ไลน์ สั่งซื้อเครื่องบินเพิ่มอีก 220 ลำ หนุนตุรกีฮับบินโลก

21 ม.ค. 2567 | 12:26 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ม.ค. 2567 | 15:13 น.

เตอร์กิชแอร์ไลน์ สั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสเพิ่มอีก 220 ลำ ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำในอุตสาหกรรมการบินระดับโลก สนับสนุนความโดดเด่นที่สำคัญของประเทศตุรกี ในฐานะศูนย์กลางการบิน

เตอร์กิชแอร์ไลน์ (Turkish Airlines) สายการบินประจำชาติของประเทศตุรกี จะดำเนินการขยายฝูงบินด้วยการสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสจำนวน 220 ลำ ซึ่งประกอบด้วยเครื่องบินแอร์บัส เอ321 (A321) ซึ่งเป็นรุ่นที่ขายดีที่สุดของแอร์บัส จำนวน 150 ลำ และเครื่องบินประเภทลำตัวกว้างรุ่น เอ350 (A350) ซึ่งทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก จำนวน 70 ลำ

เตอร์กิชแอร์ไลน์ สั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสเพิ่มอีก 220 ลำ ประกอบไปด้วย

  • แอร์บัส เอ321 (A321) จำนวน 150 ลำ
  • แอร์บัส เอ350 (A350) จำนวน 70 ลำ ได้แก่ เอ350-900 จำนวน 50 ลำ  เอ350-1000 (A350-1000) จำนวน 15 ลำ เครื่องบินขนส่งสินค้า เอ350เอฟ (A350F) จำนวน 5 ลำ

การดำเนินการนี้เกิดขึ้นภายหลังคำสั่งซื้อ 2 รายการจาก Turkish Airlines ที่มีก่อนหน้า ซึ่งคือคำสั่งซื้อรุ่น A350-900 จำนวน 10 ลำในเดือนกันยายน และ A350-900 จำนวน 4 ลำ ในเดือนกรกฎาคม 2566 โดยคำสั่งซื้อครั้งล่าสุดนี้ จะทำให้ยอดสั่งซื้อเครื่องบินแอร์บัสทั้งหมดของ Turkish Airlines รวมเป็น 504 ลำ โดยได้มีการส่งมอบไปแล้ว 212 ลำ

สำหรับคำสั่งซื้อใหม่ครั้งนี้ ศาสตราจารย์ ดร. อาห์เม็ต โบลาต (Ahmet Bolat) ประธานคณะกรรมการและกรรมการบริหารของ Turkish Airlines ได้กล่าวว่า คำสั่งซื้อที่สำคัญนี้ เป็นมากกว่าการเติบโต แต่เป็นการพิสูจน์เจตจำนงต่อความทุ่มเทของเราในด้านนวัตกรรม ความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน และอนาคตที่ยั่งยืน

การเพิ่มจำนวนเครื่องบินแอร์บัสเทคโนโลยีขั้นสูงเหล่านี้ในฝูงบินของเรา ไม่เพียงแต่จะเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสำคัญต่อการสนับสนุนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของเราอีกด้วย การลงทุนครั้งนี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญในการวิวัฒนาการก้าวต่อไปของอุตสาหกรรมการบินประเทศตุรกี

โดยการปรับปรุงฝูงบินของเราให้ทันสมัยด้วยเครื่องบินที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เรากำลังตอกย้ำตำแหน่งผู้นำของเราในอุตสาหกรรมการบินระดับโลก และสนับสนุนความโดดเด่นที่สำคัญของประเทศ ในฐานะศูนย์กลางการบิน

เตอร์กิชแอร์ไลน์

นายคริสเตียน เชอร์เรอร์ (Christian Scherer) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์และหัวหน้าของแอร์บัส อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า “คำสั่งซื้อเครื่องบินรุ่นล่าสุดนี้ แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์อันกล้าหาญของ Turkish Airlines โดยเครื่องบินรุ่น A350-900 A350-1000 A350F และ A321 จะเป็นเครื่องบินเรือธงที่สำคัญในประเภทการบินที่เกี่ยวข้องต่างๆ

รวมทั้งเป็นตัวขับเคลื่อนด้านประสิทธิภาพที่กำหนดอนาคตและพัฒนาขยายสายการบินอย่างยั่งยืน ด้วยพิสัยการบินที่ไกลขึ้น การใช้เชื้อเพลิงที่น้อยลง การลดเสียงรบกวน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่น้อยลง รวมถึงห้องโดยสารที่ยอดเยี่ยมที่สุดในเครื่องบินระดับเดียวกัน

นายคริสเตียน เสริมด้วยว่า “การเปิดรับเครื่องบินรุ่น A350-1000 และ A350F นี้ เป็นการเน้นย้ำถึงคุณสมบัติอันยอดเยี่ยมที่เชื่อมโยงหลากหลายรุ่นในเครื่องบินตระกูล A350 และตอกย้ำความร่วมมืออันยาวนานของเรากับ Turkish Airlines และภาคการบินของประเทศตุรกี เราภูมิใจที่ได้ร่วมสนับสนุนสร้างการเชื่อมต่อของประเทศตุรกีกับทั่วโลก ด้วยเครื่องบินที่ล้ำสมัยของเรา

A321neo เป็นเครื่องบินขนาดใหญ่ที่สุดในตระกูล A320neo ของแอร์บัส ซึ่งมีพิสัยบินและสมรรถนะที่เหนือชั้น ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีเครื่องยนต์รุ่นใหม่และชาร์คเล็ท (Sharklet) ที่ลดเสียงรบกวนลงได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ประหยัดเชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้มากกว่า 20 % เมื่อเทียบกับเครื่องบินประเภททางเดินเดี่ยวรุ่นก่อนหน้า ด้วยห้องโดยสารทางเดินเดี่ยวที่กว้างที่สุดในปัจจุบัน เครื่องบินรุ่นนี้จึงเป็นตัวเลือกการแข่งขันที่สมบูรณ์แบบในการเพิ่มความสะดวกสบายสูงสุดให้ผู้โดยสาร

ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อเครื่องบินรุ่น A321neo มากกว่า 5,600 ลำ จากลูกค้ามากกว่า 100 รายทั่วโลก

ส่วนรุ่น A350 นั้น เป็นเครื่องบินประเภทลำตัวกว้างที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในโลก และเป็นผู้นำการบินพิสัยไกลในประเภท 300 – 410 ที่นั่ง ซึ่งสามารถบินได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกรูปแบบ ทั้งในเส้นทางระยะสั้นไปจนถึงเส้นทางบินระยะไกลพิเศษ ที่บินได้ไกลถึง 9,700 ไมล์ทะเล (ประมาณ 17,964.4 กิโลเมตร)

การออกแบบที่ใหม่ทั้งหมด (Clean Sheet Design) ได้รวมเอาเทคโนโลยีนำสมัยล่าสุดจำนวนมาก ผสานหลักอากาศพลศาสตร์ วัสดุน้ำหนักเบา และเครื่องยนต์รุ่นล่าสุด เมื่อนำเทคโนโลยีทั้งหมดนี้รวมกัน

ทำให้เครื่องบิน A350 มอบประสิทธิภาพความได้เปรียบที่เหนือกว่าถึง 25 % ในด้านการเผาผลาญเชื้อเพลิง การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และต้นทุนการดำเนินงาน รวมถึงลดเสียงรบกวนลงถึง 50 % เมื่อเทียบกับเครื่องบินคู่แข่งในรุ่นก่อนหน้า สิ่งนี้ทำให้เครื่องบิน A350 เป็นมิตรกับพื้นที่แวดล้อมและพลเมืองโลกที่ดี ไม่ว่าจะบินไปที่ใดก็ตาม

เครื่องบินตระกูล A350 ประกอบด้วยสองรุ่น ได้แก่ A350-900 และ A350-1000 ซึ่งมีส่วนลำตัวเครื่องบินยาวกว่า ทั้งสองรุ่นมอบประสบการณ์การบินที่ดีที่สุดให้กับผู้โดยสาร แม้ในเที่ยวบินที่มีระยะเวลายาวนานสูงสุด การออกแบบที่เป็นนวัตกรรมได้มอบความรู้สึกที่กว้างขวางสะดวกสะบายอย่างแท้จริง ได้แก่ ขนาดเก้าอี้โดยสารที่กว้าง เพดานห้องโดยสารที่สูงขึ้น และแสงไฟสร้างบรรยากาศภายในที่สวยงาม

ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2566 เครื่องบินตระกูล A350 ได้รับคำสั่งซื้อถึง 1,072 รายการ จากลูกค้าชั้นนำ 57 รายทั่วโลก

เครื่องบินขนส่งสินค้ารุ่น A350F มีประตูห้องเก็บสัมภาระหลักขนาดใหญ่ที่สุด และมีความยาวลำตัวที่ได้ปรับให้เหมาะสมสำหรับการบรรทุกสินค้า โครงสร้าง (Airframe) มากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ ทำจากวัสดุขั้นสูง ซึ่งเมื่อประกอบกับเครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์ที่มีประสิทธิภาพ

ทำให้เครื่องบินรุ่นนี้มีข้อได้เปรียบ ลดการเผาผลาญเชื้อเพลิงและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้อย่างน้อย 20 เปอร์เซ็นต์ เหนือเครื่องบินคู่แข่งรุ่นที่ใกล้เคียงในปัจจุบัน

ด้วยข้อตกลงที่เป็นดังการรับรองล่าสุดโดย Turkish Airlines ทำให้เครื่องบิน A350F มียอดสั่งซื้อรวม 50 รายการ จากลูกค้า 9 ราย หลังจากการเปิดตัวในงานมหกรรม ดูไบ แอร์โชว์ (Dubai Airshow) ในปี 2564