วันนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2567) นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการควิก-วิน ด้านการกระตุ้นการท่องเที่ยวว่า พยามยามทำทุกวิถีทาง เช่น เปิดวีซ่าให้ประเทศต่าง ๆ เริ่มได้ผลกลับคืนมา จีนมีการเซ็นข้อตกลงวีซ่าฟรีถาวร รวมถึงการขยายสนามบิน
นพ.พรหมินทร์กล่าวว่า ผลที่เกิดขึ้นจากการท่องเที่ยว คือ ยอดเป้าหมาย 25 ล้านคน แต่ยอดจริง 28 ล้านคน และอยู่ยาวมากขึ้น ที่ผ่านมามีอุปสรรคบ้าง แต่พยายามสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัย สิ่งที่เราตั้งใจทำมีความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือ สร้างประเทศไทยเป็นแหล่งที่น่าท่องเที่ยว
"เรื่องท่องเที่ยว เวียดนามขอให้ประเทศไทยสนับสนุนร่วมมือในด้านท่องเที่ยว กัมพูชาเราสนิทกันอยู่แล้ว และลาวคงไม่ขัดข้อง รวมถึงมาเลเซีย เป็น 5 ประเทศในภูมิภาค โดยไทยเป็นคนนำเจรจา อาจจะไม่มีวีซ่าระหว่างกัน ไอเดียนี้จะไปแลกเปลี่ยนกับยุโรป เรื่องการขอยกเว้นตรวจลงตรา สำหรับการเดินทางเข้าเขตเชงเกน หรือ วีซ่าเชงเกน"นพ.พรหมินทร์กล่าว
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า การประชุมครม.สัญจรที่จังหวัดระนอง เมื่อวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว
โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เสนอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ จัดเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพประชุมรัฐมนตรีท่องเที่ยวของประเทศอนุภูมิภาคกลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อยกระดับความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันให้เป็นเอกภาพและมีศักยภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าสู่่อนุภูมิภาคและส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวระหว่างกันต่อไป
"จากการได้พบหารือกับผู้นำประเทศอาเซียนหลายประเทศ ได้ขอให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน เพื่อส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังประเทศไทยเดินทางไปท่องเที่ยวยังประเทศเพื่อนบ้านอื่นในอนุภูมิภาคนี้ รวมถึงประเทศมาเลเซียด้วย"