เมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นายก้องศักดิ์ คู่พงศกร ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต นำคณะฝ่ายบริหารจังหวัดภูเก็ต อาทิ นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ฯลฯได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตและคณะ ร่วมเดินทางไปยังเมืองเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน ด้วยการเชิญของหอการค้าต๋าซาง เพื่อร่วมหารือแลกเปลี่ยนด้านการค้าการลงทุน
อีกทั้งศึกษาความเป็นไปได้ในการนำอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) มาใช้ในการดูแลนักท่องเที่ยวและประชาชนรวมถึงงานด้านการจราจรของจังหวัดภูเก็ต พร้อมยกระดับธุรกิจการท่องเที่ยวและกระชับความสัมพันธ์ของทั้ง 2 เมือง (เมืองเฉิงตูและจังหวัดภูเก็ต) ต่อเนื่อง โดยตลอดการเดินทางในครั้งนี้ มีนายไต้จื้อเจียน ประธานกรรมการผู้บริหารบริษัทไหหนานหงลี่ เทคโนโลยี จำกัด และคณะ ให้การต้อนรับคณะจากจังหวัดภูเก็ตเป็นอย่างดี
นายไต้จื้อเจียน ประธานกรรมการผู้บริหารบริษัทไหหนานหงลี่ เทคโนโลยี จำกัด นำคณะจากจังหวัดภูเก็ต เดินทางไปยัง Ursa Aeronautioal Technology Company ณ เมืองเต๋อหยาง เข้าเยี่ยมชม Tianyu Aviation(การบินเทียนหยู) โรงงานผลิตโดรนขนาดใหญ่ โดยมีคณะผู้บริหารของบริษัทฯให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายแนะนำบริษัทฯ บทบาทหน้าที่รวมถึงบรรยายเกี่ยวกับคุณสมบัติและประสิทธิภาพการทำงานของโดรน ให้กับคณะจากจังหวัดภูเก็ตทราบ
วันเดียวกันนายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และคณะเข้าเยี่ยมชมโรงงานผลิตชิ้นส่วนและส่วนประกอบเครื่องยนต์อากาศยานของบริษัทเฉิงตู หงหยวนเอวิเอชั่น เพาเวอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัดและบริษัท ไหหนาน หงลี่เทคโนโลยี จำกัด โดยมีนายไต้จื้อเจียน ประธานกรรมการผู้บริหารบริษัทไหหนานหงลี่ เทคโนโลยี จำกัดและนางหวังนีน่า ผู้จัดการทั่วไป ไหหลำ ฮงหลี่ เทคโนโลยี จำกัด นำเยี่ยมชมโรงงานฯ
บริษัทดังกล่าว ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขต Pidu ในเมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน และมีบริษัทในเครืออีกหลายแห่ง ซึ่งเป็นบริษัทที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการผลิตและจำหน่ายโดรนแลเครื่องยนต์การบินและอวกาศ และระบบควบคุมการบิน ทั้งตลาดพลเรือนและตลาดต่างประเทศ
รวมถึงใช้ในการดำเนินงานด้านการเกษตรกรรม, ตระเวนชายแดน, ช่วยเหลือเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ เป็นต้น นอกจากนั้นยังเป็นผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มสั่งการและควบคุม AI ทางอากาศ อวกาศ และภาคพื้นดินแบบบูรณาการและเป็นผู้ผลิตชั้นนำของโลกในระบบโดรนอัจฉริยะที่ติดตั้งในยานพาหนะระบบแรกของโลก
นอกจากนั้นคณะฯ ได้เดินทางไปศึกษาดูงานหลายแห่งอาทิ CHENGDU TIMESTECH Co., LTD โดยมี นายเผิงเหยียนผิง ประธานกรรมการบริหารบริษัทเฉิงตู ไทม์สเตค เทคโนโลยี จำกัด ชมการสาธิตการทำงานของโดรน รวมถึงเยี่ยมชมโชว์รูมสินค้าต่างๆที่ทางบริษัทผลิตและเข้าชมห้องปฏิบัติการด้านควบคุมการทำงานของโดรนที่ล้วนนำเทคโนโลยีชั้นสูงมาใช้ในการปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากนั้นได้ร่วมประชุมเพื่อหารือถึงแนวทางความเป็นไปได้ในการนำโดรน (อากาศยานไร้คนขับ) มาใช้ในการดูแลนักท่องเที่ยวและประชาชนรวมถึงงานด้านการจราจรของจังหวัดภูเก็ตในเบื้องต้นด้วย
รวมทั้งได้เข้าเยี่ยมชม Chongzhou smart city construction ณ ศูนย์ Smart Governance Center,ชั้น 1 ศูนย์บริการอุตสาหกรรม Chongzhou โดยในการเยี่ยมชมได้มีการแนะนำบริษัทฯ และแนวคิดการก่อสร้างเมืองอัจฉริยะ รวมถึงบรรยายเกี่ยวกับ Chongzhou smart Chengdu Operation Management Platform และ Chongzhou Global Tourism Big Data Platform ในการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาบริหารจัดการเมืองได้อย่างเป็นระบบ
คณะฯเดินทางไปยังที่ทำการหอการค้าต๋าซาง ชั้น 36 อาคารสำนักงานใหญ่พัฒนาความร่วมมือระดับภูมิภาคเสฉวน เมืองเฉิงตู ประเทศจีน โดยมี Liu Zheng รองนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองต้าโจวและประธานสมาพันธ์อุตสาหกรรมและการพาณิชย์เทศบาล, Su Tao หัวหน้าส่วนสำนักงานรัฐบาล ณ เทศบาลต้าโจว, Liu Jiangdong ประธานหอการค้าต๋าซาง, Zheng QuanGuo ประธานกรรมการบริหารและเลขาธิการหอการค้าต๋าซาง
พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารหอการค้าต๋าซาง ให้การต้อนรับ เพื่อเยี่ยมชมและร่วมหารือแลกเปลี่ยนด้านการค้าการลงทุน ส่งเสริมความร่วมมือและเชื่อมโยงการพัฒนาอุตสาหกรรมและธุรกิจต่างๆที่เกี่ยวข้องอันจะก่อให้เกิดผลดีของทั้ง2 ประเทศ ในอนาคตต่อไป
หลังจากนั้น คณะฯเดินทางต่อไปยัง Chongqing Tuohang Technology Co., Ltd. นครฉงชิ่ง มณฑลเสฉวน ซึ่งเป็นสถานที่วิจัยและพัฒนาและผลิตเฮลิคอปเตอร์ซีรีส์ “Hump” ขนาด 500 กิโลกรัมถึง 1.5 ต้นแบบใบพัดคู่สำหรับบรรทุกหนักและการนำโซลูชั่นการขนส่งทางอากาศแบบพิเศษไปใช้
พร้อมเข้าเยี่ยมชมโรงงานการผลิตและชมการสาธิตการควบคุมโดรนขนส่งที่ทางบริษัทผลิตฯ ในเหตุการณ์สมมุติ กรณีใช้โดรนลำเลียงสินค้าไปยังพื้นที่เกิดเหตุภัยพิบัติ ให้กับคณะได้รับชมและร่วมแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน โดยนครฉงชิ่ง เป็นมหานครที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีนครอบคลุมพื้นที่ 82,300 ตารางกิโลเมตร ในมณฑลเสฉวนและมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ5ของแผ่นดินใหญ่ รองจากเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง เซินเจิ้นและกวางโจว โดยเป็น 1 ใน 4 ของ นครปกครองโดยตรงของรัฐบาลกลาง
สำหรับการเดินทางของคณะจากจังหวัดภูเก็ตเยือนจีนในครั้งนี้ ประกอบด้วยหลายภาคส่วน ทั้งส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชน ถือเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดียิ่งของทั้ง 2 ประเทศ โดยเฉพาะในส่วนของการร่วมแลกเปลี่ยน หารือและศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการนำโดรนมาใช้ในการดูแลนักท่องเที่ยวและประชาชน
รวมถึงการใช้งานด้านการจราจรของจังหวัดภูเก็ต นับเป็นเรื่องที่น่าสนใจหากเกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ตามคงต้องมีการเจรจาเพิ่มเติมถึงผลลัพธ์ที่จะเป็นประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายในอนาคตต่อไป