KEY
POINTS
รูดม่าน ครม.สัญจร จังหวัดเพชรบุรี ไปเป็นที่เรียบร้อย หลังจากนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ยกคณะลงพื้นที่ตรวจราชการ ภาคกลางตอนล่าง โดยหนึ่งในไฮไลท์สำคัญของการเดินทางมาครั้งนี้ นายกฯ ได้มีโอกาสติดตามความคืบหน้าการพัฒนา “สนามบินหัวหิน” เพื่อรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ เพื่อส่งเสริมการเดินทาง และการท่องเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทั้งจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ รวมไปถึงจังหวัดใกล้เคียง
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. ได้รับโจทย์จากนายกฯ ให้เร่งสร้างความต้องการเดินทางนักท่องเที่ยว ไว้รอรับการพัฒนาสนามบินหัวหิน ซึ่งนายกฯ ได้เร่งรัดให้โครงการพัฒนาเสร็จเร็วกว่าแผน 6 เดือน โดยให้ทันกับช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว หรือภายในไตรมาสที่ 4 ปี 2568 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาอย่างสะดวกมากขึ้น
เบื้องต้น ททท. เตรียมแผนว่า จะมีการหารือในรายละเอียดกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงสายการบินต่าง ๆ ให้เปิดเที่ยวบินมายังสนามบินหัวหินเพิ่ม จากเดิมที่มีเที่ยวบินภายในประเทศ ของสายการบิน Air Asia เส้นทางหัวหิน - เชียงใหม่ ซึ่งได้มีการเพิ่มเที่ยวบินให้มีเที่ยวบินทุกวันไว้ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว
ขณะเดียวกัน ททท. จะเร่งหาทางประสานสายการบินจัดทำเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างภาค เช่น อุดรธานี - หัวหิน และ หาดใหญ่ - หัวหิน หลังจากเห็นศักยภาพของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางผ่านทั้ง 2 เส้นทางได้มากกว่าเส้นทางอื่น ๆ
รวมไปถึงการจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวระหว่างภูมิภาค เพื่อดึงดูดใจนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเที่ยวเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ เพิ่มขึ้นด้วย
“ททท. กำลังดูว่า 2 เส้นทาง คือ อุดรธานี - หัวหิน และ หาดใหญ่ – หัวหิน มีความน่าสนใจ เพราะอุดรธานี จะเป็นจุดใหญ่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากกลุ่มประเทศ CLMV เข้ามาเที่ยวที่หัวหินต่อไป ขณะที่หาดใหญ่ ก็รองรับนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย หรือนักท่องเที่ยวจากภาคใต้ และชาวมาเลเซีย ส่วนเส้นทางเชียงใหม่ - หัวหิน ที่ผ่านมาพบว่ามีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร เฉลี่ยสูงถึง 80% ก็เป็นเส้นทางที่น่าสนใจที่จะส่งเสริมให้มีการเดินทางท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น” ผู้ว่าฯ ททท. ระบุ
สำหรับการพัฒนาสนามบินหัวหิน เพื่อรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศ หรือ International flights นั้น กระทรวงคมนาคม รายงานข้อมูลว่า ปัจจุบันสนามบินหัวหิน มีทางวิ่ง หรือ รันเวย์ ความยาว 2,100 เมตร กว้าง 35 เมตร ลานจอดอากาศยานสามารถรองรับเครื่องบินแบบ Airbus A320 และ ATR72 ได้ 2 ลํา ได้ในเวลาเดียวกัน
ปัจจุบันอยู่ระหว่างการขยายพื้นที่รันเวย์ความยาว 240 เมตร ต่อขยายจากพื้นที่ปลอดภัยรอบทางวิ่งทั้ง 2 ด้านของหัวทางวิ่ง หรือไม่น้อยกว่า 90 เมตร พร้อมการติดตั้งระบบช่วยชะลอความเร็ว และหยุดเครื่องบินที่วิ่งเลยออกนอกทางวิ่ง
ส่วนอาคารผู้โดยสารมีศักยภาพจะรองรับผู้โดยสารได้สูงถึง 800,000 คน ถึง 1 ล้านคนต่อปี โดยสามารถรองรับผู้โดยสารได้เฉลี่ย 300 คนต่อชั่วโมง
ผู้ว่าฯ ททท. ยอมรับว่า จากการเดินทางมาลงพื้นที่ของนายกฯ และคณะในพื้นที่ภาคกลางตอนล่าง นั้น ททท. จะหาทางกระตุ้นความถี่ในการเดินทางท่องเที่ยวและเพิ่มการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว โดยผลักดันเมืองท่องเที่ยวศักยภาพยอดนิยมอย่างจังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ นำเสนอจุดแข็งในพื้นที่สู่จุดขายตามกลยุทธ์ “Must Do in Thailand” ในจังหวัดเพชรบุรี ได้แก่ Must Eat อาหารไทย - มุ่งผลักดันให้เป็น Gastronomy City เมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร
โดยนำเสนอเมืองเพชรบุรีในแนวคิด “เมือง 3 รส” ชูวัตถุดิบ 3 อย่างในท้องถิ่น รสเค็ม จากเกลือสมุทร ในพื้นที่อำเภอบ้านแหลม รสหวาน จากตาลโตนด แหล่งปลูกตาลอำเภอบ้านลาด ต่อยอดสู่เส้นทางท่องเที่ยวผ่านเมนูอาหารถิ่นในจังหวัดเพชรบุรี ทั้ง แกงหัวตาล ขนมตาล และรสเปรี้ยว ของมะนาวแป้นคุณภาพ จากอำเภอท่ายาง เป็นเมนูเครื่องดื่ม “Lime Palm Soda” Must See โชว์ไทย
รวมถึงยกระดับงาน "เทศกาลพระนครคีรี" งานประจำปีในพื้นที่ในรูปแบบ Light & Sound ก้าวสู่ระดับสากล Must Seek วัฒนธรรมไทย เช่นเดียวกับจับกลุ่มนักท่องเที่ยวสายศรัทธาด้วยแนวคิด “ศรัทธานำทาง เส้นทางนำเที่ยว” นำเสนอแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของจังหวัดเพชรบุรี องค์พญานาคขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ต้นแบบจากภาคอีสานออกแบบโดยศิลปินแห่งชาติ ซึ่งมีไฮไลต์ 9 โค้งแห่งความเป็นสิริมงคล ณ วัดถ้ำแจง อ.ชะอำ พร้อมเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวข้างเคียงให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชม
ขณะที่การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชื่อมโยงในกลุ่มจังหวัดภาคกลาง "เมือง 4 บุรี" (จังหวัดสุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และ เพชรบุรี) หลังนายกฯ จัดทัวร์นกขมิ้น ททท. ยังเตรียมวางแผนโปรโมทการท่องเที่ยวเมือง 4 บุรี โดยนำอัตลักษณ์ที่โดดเด่นของแต่ละจังหวัดมาพัฒนาต่อยอดเป็นสินค้าและกิจกรรมทางการท่องเที่ยว แบ่งเป็นจังหวัดต่าง ๆ ดังนี้
โดย ททท. พร้อมส่งเสริมการตลาดและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวพร้อมบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อผลักดันกลุ่มจังหวัดภาคกลางสู่แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า ในปี 2567 ททท. ตั้งเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังกลุ่มจังหวัดภูมิภาคภาคกลางไว้ที่ 103.07 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 464,613 ล้านบาท ซึ่งในเดือนมกราคม - เมษายน 2567 ที่ผ่านมา มีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังกลุ่มจังหวัดภูมิภาคภาคกลาง 36.96 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวแล้ว 161,781 ล้านบาท
ส่วนในอนาคต ททท .คาดว่า จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีค่าใช้จ่ายในการท่องเที่ยวภายในพื้นที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย
นายวสันต์ กิตติกุล นายกสมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก และผู้จัดการทั่วไปโรงแรมลองบีช ชะอำ และโรงแรมธารามันตรา ชะอำ รีสอร์ท จ.เพชรบุรี กล่าวว่า จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ มีศักยภาพดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะมีทั้งหาดทรายที่สวย และแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ วัฒนธรรม โดยเฉพาะเพชรบุรี ซึ่งเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโกด้วย
ล่าสุดได้มีการเปิดเส้นทางการบิน ระหว่างหัวหิน - เชียงใหม่ ซึ่งช่วยกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวได้มากขึ้น โดยสมาคมฯ ได้หาทางส่งเสริมและเชื่อมโยงนักท่องเที่ยวระหว่างกัน เช่น คนเหนือมาเที่ยวทะเล และคนเพชรบุรี ประจวบฯ ไปเที่ยวภูเขา ก็สามารถทำได้อย่างสะดวก จนทำให้ตอนนี้แต่ละเที่ยวบินก็มีจำนวนผู้โดยสารเกือบเต็มลำ โดยจากนี้ไปสมาคมฯ จะหาทางส่งเสริมการท่องเที่ยวให้มากขึ้น