AOT เปิดเหตุผลขอคืนพื้นที่คิงเพาเวอร์ 1 พันตรม.ในสนามบินสุวรรณภูมิ

23 มิ.ย. 2567 | 08:51 น.
อัปเดตล่าสุด :23 มิ.ย. 2567 | 09:12 น.

AOT เปิดเหตุผลขอคืนพื้นที่ 1 พันตรม.สนามบินสุวรรณภูมิจากคิงเพาเวอร์ ยอมรายได้ลดลงเดือนละ 1 ล้านบาท นำพื้นที่มาพัฒนา ตามคำแนะนำของ Skytrax รวมถึงพื้นที่บางส่วนในสนามบินภูเก็ต

ล่าสุดบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ ทอท.ได้เรียกขอคืนพื้นที่จากคิงพาวเวอร์ กว่า 1 พันตารางเมตรในอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินภูเก็ต รวมถึงพื้นที่ขอส่วนราชการบางส่วน เพื่อ
จัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานต่างๆเพิ่มเติมให้ครบถ้วนตามมาตรฐานการดำเนินกิจการท่าอากาศยานสมัยใหม่ ตามคำแนะนำของ Skytrax

นายกฤช ภาคากิจ เลขานุการบริษัทบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) หรือ AOT แจ้งให้ทราบ (ตลท.) เรื่อง การขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการของผู้ประกอบการ และพื้นที่ปฏิบัติงานของส่วนราชการบางส่วนภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และทำอากาศยานภูเก็ต เพื่อจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานต่าง ๆ เพิ่มเติมตามมาตรฐานการดำเนินกิจการท่าอากาศยานสมัยใหม่

โดยระบุว่า ตามรายงาน Bangkok Suvamnabhumi International Airport Audit Report ของ Skytrax ซึ่ งเป็นบริษัทวิจัยและที่ปรึกษาธุรกิจการบินชั้นนำของโลก และมีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์คุณภาพการให้บริการของสายการบินและสนามบินทั่วโลก ได้มีข้อเสนอแนะว่า 

AOT มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องรีบดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาพื้นที่ภายในอาคารเทียบเครื่องบิน (Concourse) และอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เพื่อจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานต่างๆเพิ่มเติมให้ครบถ้วนตามมาตรฐานการดำเนินกิจการท่าอากาศยานสมัยใหม่ เพื่อตอบสนองต่อความคาดหวังและความต้องการด้านการใช้บริการของผู้โดยสารให้ดียิ่งขึ้น

รวมทั้งเพื่อให้เป็นไปตามเป้าหมายของ ทอท. และรัฐบาล ที่จะทำให้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับการจัดอันดับไปสู่ 1 ใน 50 สนามบินที่ดีที่สุดในโลกภายในปี 2568 และจะไปสู่อันดับ 1 ใน 20 ภายใน 5 ปีนับจากนี้ 

นอกจากนั้น คณะกรรมการกลยุทธ์คุณภาพบริการทำอากาสยานของ ทอท.ได้มีความเห็นว่าพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสาร ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) มีความแออัด จึงได้เสนอแนะให้ ทอท.แก้ไขปัญหาความแออัดดังกล่าวโดยดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ภายในอาคารผู้โดยสารให้พร้อมสำหรับการดำเนินกิจการท่าอากาศยานตลอดจนดำเนินการปรับปรุงและพัฒนาเพื่อจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานต่าง ๆ เพิ่มเติมสำหรับอำนวยความสะดวกสำหรับให้บริการแก่ผู้โดยสารได้

จากเหตุผลดังกล่าวข้างตัน ทอท.จึงเห็นควรจัดสรรพื้นที่ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ท่าอากาศยานภูเก็ตเพื่อใช้ในการปรับปรุงพื้นที่
ซึ่งเมื่อตรวจสอบแล้วพบว่า พื้นที่ที่เหมาะสมบางส่วนจะเป็นพื้นที่ที่มีการประกอบกิจการเชิงพาณิชย์ของผู้ประกอบการ ได้แก่ บริษัท คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด รวมทั้งพื้นที่ปฏิบัติงานบางส่วนของส่วนราชการ ได้แก่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองกรมศุลกากร และกรมสรรพากร 

ดังนั้น ในการประชุมคณะกรรมการ ทอท. ครั้งที่ 8/2567 เมื่อวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมาที่ประชุมจึงมีมติอนุมัติให้ ทอท.ขอคืนพื้นที่
ประกอบกิจการของผู้ประกอบการ และพื้นที่ปฏิบัติงานของส่วนราชการบางส่วนภายในอาคาร Concourse และ SAT-1 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวนรวมประมาณ 1,09 7.14 ตารางเมตร และภายในอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต  จำนวนรวม
ประมาณ 491.22 ตารางเมตร เพื่อให้ ทอท.นำมาใช้ในการดำเนินกิจการทำอากาศยาน 

ตลอดจนดำเนินการปรับปรุง และพัฒนาเพื่อจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานต่าง ๆ เพิ่มเติม สำหรับให้บริการแก่ผู้โดยสาร เพื่อให้ผู้โดยสารมีที่พักคอยมากขึ้น ตามข้อเสนอแนะของ Skytrax และคณะกรรมการกลยุทธ์คุณภาพบริการทำอากาศยานของ ทอท.ดังกล่าว โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 เป็นต้นไป 

ทั้งนี้ การขอคืนพื้นที่ประกอบกิจการฯ และพื้นที่ปฏิบัติงานฯดังกล่าวข้างต้น จะทำให้ ทอท.มีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และ ท่าอากาศยานภูเก็ต ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 1,015,000 บาท และอาจทำให้ได้รับค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำรายเดือนในช่วงปีสัญญา 2567 - 2568 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 74 ล้านบาท และ ณ ท่าอากาศยานภูเก็ตลดลงเป็นจำนวนเงินเดือนละประมาณ 19 ล้านบาท

แต่อย่างไรก็ตาม ทอท.มีโครงการที่จะเพิ่มรายได้จากกิจกรรมเชิงพาณิชย์อื่นๆ ซึ่งจะเป็นการชดเชยรายได้ส่วนที่ลดลงต่อไป