รัฐบาลปักธง 11 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ชูซอฟต์พาวเวอร์ ปั้มรายได้ 4 ล้านล้านบาท

26 มิ.ย. 2567 | 19:31 น.

รัฐบาลชูเรือธงซอฟต์พาวเวอร์ มุ่งขับเคลื่อน 11 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ดันรายได้ 4 ล้านล้านบาทต่อปี อัดงบราว 7 พันล้านบาทต่อปี ส่งเสริมตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ สร้างแบรนด์นวัตกรรม-การออกแบบผลักดันซอฟต์พาวเวอร์ไทย สู่ตลาดโลก

การขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทย ใน 11 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ เป็นเป้าหมายที่รัฐบาลมุ่งเป้าสร้างงานให้คนไทยกว่า 20 ล้านตำแหน่ง สร้างรายได้ 4 ล้านล้านบาทต่อปี ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ สร้างแบรนด์นวัตกรรม-การออกแบบผลักดันสู่ตลาดโลก ภายใต้การสนับสนุน งบประมาณราว 7 พันล้านต่อปี ในการพัฒนาและส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทยอย่างต่อเนื่อง

11 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ซอฟต์พาวเวอร์

นับเป็นเวลา 8 เดือนแล้วในการจัดตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เพื่อคิ๊กออฟการขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ไทย ซึ่ง “แพทองธาร ชินวัตร” ประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ย้ำว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา เปรียบเสมือนเป็นการสร้างบ้าน ที่ต้องมีการลงเสาเข็มก่อนทำเสาขึ้นมา ก่อนจะทำตัวบ้าน และการสร้างซอฟต์ พาวเวอร์ให้เข้าไปอยู่ในใจคนไทย และวันนี้จะเห็นความเป็นรูปเป็นร่างของซอฟต์เพาเวอร์มากขึ้น จากการจัดงาน THACCA SPLASH Soft Power Forum 2024 วันที่ 28-30 มิถุนายน 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร

โดยเป็นการจัดงานประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ขึ้นเป็นครั้งแรกในไทย นำเอาวัฒนธรรม และแรงบันดาลใจจาก 11 สาขาอุตสาหกรรม ได้แก่ แฟชั่น, หนังสือ, ภาพยนตร์ ละครและซีรีส์, เฟสติวัล, อาหาร, ออกแบบ, ท่องเที่ยว, เกม, ดนตรี, ศิลปะ และกีฬา สะท้อนความคิดสร้างสรรค์ผ่านทักษะทางวัฒนธรรมและสังคมอันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย เพื่อยกระดับเข้าสู่เวทีระดับสากล สร้างเครือข่าย และโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม

ขณะเดียวกันนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ยังจะเป็นอีกหนึ่งในอาวุธสำคัญที่จะผลักดันให้ประเทศไทยพัฒนาจากประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง และสิ่งที่ตั้งใจอีกอย่าง คือการให้ทั่วโลกเห็นเสน่ห์ของวัฒนธรรมไทย เสน่ห์ของคนไทย และ เสน่ห์ความสามารถของคนไทย ให้ดังไปทั่วโลก ดังนั้น คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์ จะเน้นใน 3 กลยุทธ ได้แก่

  1. พัฒนาศักยภาพของคน คือ การรีสกิล อัพสกิล หาว่าคนเหล่านั้นจะถูกพัฒนาด้านไหนได้บ้าง
  2. การพัฒนาทั้ง 11 อุตสาหกรรม ถ้าพัฒนาด้านใดด้านหนึ่งระบบนิเวศนั้นจะไม่ถูกสร้างขึ้น และจะหายไปตามการเปลี่ยนนโยบายหรือเปลี่ยนรัฐบาล ไม่คงทน จึงต้องพัฒนาไปพร้อมๆ กัน
  3. การพัฒนาเรื่องนโยบายต่างประเทศ เพื่อให้ต่างประเทศยอมรับเสน่ห์และเข้าใจวัฒนธรรมของไทยได้ง่ายขึ้น

ด้านนายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี รองประธานกรรมการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งขับเคลื่อนประเทศไทยด้วย ซอฟต์พาวเวอร์ โดยนายกเศรษฐา ทวีสิน มองว่า ซอฟต์พาวเวอร์สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ไทยต้องเปลี่ยนจากการพึ่งพาแรงงาน มาใช้ความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น ต้องพัฒนา 20 ล้านคน เป็นพลังขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ของชาติ ที่สำคัญการสร้างตลาดระดับโลก จำเป็นอาศัยความร่วมมือจากกระทรวงการต่างประเทศ ทูตพาณิชย์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ต้องร่วมมือกัน นำเสน่ห์ของประเทศไทยสู่เวทีโลก

นอกจากนี้รัฐบาลพร้อมสนับสนุน เอกชน เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก โดยรัฐบาลใช้งบประมาณปีละ 6,000-7,000 ล้านบาท ในการพัฒนาและส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีแผนกลยุทธ์ที่ชัดเจน สนับสนุนผู้ประกอบการไทย ส่งเสริมสินค้าและบริการไทยสู่ตลาดโลก มุ่งหวังให้ซอฟต์พาวเวอร์ไทยเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างรายได้ และยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยบนเวทีโลก

ไม่เพียงการโชว์เคส 11 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ใน งาน THACCA SPLASH Soft Power Forum 2024 เท่านั้น รัฐบาลยังมีนโยบายส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทย จะกลายเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างรายได้ และยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยสู่ระดับสากล ให้กลายเป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สร้างรายได้ และยกระดับภาพลักษณ์ของประเทศไทยสู่ระดับสากล

อย่างนโยบายจากกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) ได้วางแผนพัฒนา ซอฟต์พาวเวอร์ ความเป็นไทย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทย ตั้งเป้าหมายสำคัญ ยุทธศาสตร์การส่งเสริมอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ระยะที่ 4 (2566-2570) โดยตั้งเป้าหมายสัดส่วน GDP สินค้าและบริการทางวัฒนธรรมจาก 8.9 % เป็น 15 % และจะเป็น 1 ใน 15 ประเทศที่มีมูลค่าการส่งออกสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมสูงสุดในตลาดโลก รวมถึงตั้งเป้าให้ติดอันดับโลกด้านความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม พร้อมจะผลักดันให้ไทยเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยววัฒนธรรมและการสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญของโลก

นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี

ในส่วนของการส่งเสริมอุตสาหกรรมบันเทิง ก็จะต้องมีการพัฒนาบุคลากรให้เป็นมืออาชีพ เพิ่มช่องทางการตลาดและการเจรจาธุรกิจ โดยการนำผู้ประกอบการเข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์ในต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมามูลค่าทางเศรษฐกิจจากการเจรจาในต่างประเทศ อาทิ งานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ฝรั่งเศส มูลค่า 1,986 ล้านบาท เทศกาลภาพยนตร์ปักกิ่ง มูลค่า 1,976 ล้านบาท งาน Hong Kong International Film & TV Market มูลค่า 1,378 ล้านบาท งานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโตเกียว มูลค่า 500 ล้านบาท

โดย วธ. พร้อมให้ความร่วมมือทุกภาคีเครือข่ายในการพัฒนาอุตสาหกรรมบันเทิงไทย ไม่ว่าจะเป็นงบสนับสนุน พัฒนาบุคลากร ช่องทางการตลาด ที่สำคัญจะมีการศึกษาแนวทางความร่วมมือจากสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศในการอบรมพัฒนาเด็กและเยาวชนให้เป็นกำลังสำคัญในอุตสาหกรรมบันเทิงในอนาคต เป็นต้น นายแพทย์สุรพงษ์ กล่าวทิ้งท้าย

THACCA SPLASH Soft Power Forum 2024

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลตั้งเป้าหมายสร้างงานให้คนไทย 20 ล้านตำแหน่ง สร้างรายได้ 4 ล้านล้านบาทต่อปี ผ่านอุตสาหกรรม 11 สาขา ประกอบด้วย ท่องเที่ยว เทศกาล กีฬา อาหาร ภาพยนตร์ ดนตรี ศิลปะ หนังสือ เกม ออกแบบและแฟชั่น ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ตั้งแต่ต้นน้ำกลางน้ำและปลายน้ำ โดยการสร้างแบรนด์นวัตกรรมและการออกแบบผลักดันสู่ตลาดโลก มีเป้าหมายในกลุ่มสินค้าสำคัญ ได้แก่ อาหาร ดิจิทัลคอนเทนต์ มวยไทย การท่องเที่ยว หนังสือ และเกมซอฟต์พาวเวอร์ จึงเป็นอีกหนึ่งเรือธงของรัฐบาล ที่ต้องการเปลี่ยนให้ประเทศไทยเป็นประเทศอุดมสมบูรณ์ด้านวัฒนธรรม สร้างรายได้ให้ประเทศอย่างยั่งยืน

โดยจะขับเคลื่อน Soft Power ผ่าน 10 นโยบาย ได้แก่

  1. ส่งเสริม 1 ครอบครัว 1 ทักษะซอฟต์พาวเวอร์ หรือ One Family One Soft Power (OFOS)
  2. ผลักดันโครงการครัวไทยสู่ครัวโลก
  3. ผลักดัน Bangkok เมืองแฟชั่น
  4. ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนเชิงวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม
  5. สร้างสังคมรักการอ่าน
  6. ผลักดันมวยไทยสู่สากลในทุกมิติ
  7. ให้การสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ให้มีศักยภาพสามารถแข่งขันกับนานาชาติได้
  8. ส่งเสริมให้นำวัฒนธรรมไทยไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น เกม ภาพยนตร์ ดนตรี แฟชั่น แอนิเมชั่น เป็นต้น
  9. เปิดพื้นที่และเปิดโอกาสให้เกิดการสร้างสรรค์งานศิลปะและดนตรี
  10. ส่งเสริมอาชีพกระตุ้นเศรษฐกิจสร้างสรรค์เพื่อสร้างรายได้ให้กับครัวเรือน สร้างการยอมรับวัฒนธรรมไทยที่มีพลังสูงเปลี่ยนทักษะพื้นบ้านเป็นทักษะสร้างสรรค์ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจของไทยให้เติบโตขึ้นนั่นเอง

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับที่ 4,003 วันที่ 23 - 26 มิถุนายน พ.ศ. 2567