นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาธิการสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่าวันนี้เราได้นายกรัฐมนตรี คนที่ 31 เรียบร้อย คือ “แพทองธาร ชินวัตร” อุ๊งอิ๊ง นายกหญิง คนที่ 2 ของประเทศไทย วาระต่อมา คือ การรอดูหน้าตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่จะมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน ครม ต่างตอบแทน จะมีอยู่หรือไม่
บทเรียนจาก นายกเศรษฐา ทวีสิน ทั้งในเรื่องคณะรัฐมนตรี คณะทำงานรอบตัวนายก และ รัฐมนตรี รวมถึง ข้าราชการระดับสูงที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการทำงาน ที่ได้เรียนรู้จุดอ่อน 1 ปีของ รัฐบาลที่ผ่านมา ปรากฎการณ์ ส้มอมแดง จาก ก่อนเลือกตั้ง คนทั่วไปยังเชื่อว่า ฐานส่วนใหญ่ เป็น ”แดงอมส้ม“ แต่หลังเลือกตั้ง จนถึง หลังผ่านการบริหารของรัฐบาล ปรากฎการณ์“ส้มอมแดง” เด่นชัดขึ้นเรื่อย ๆ
ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลโดย นายก แพทองธาร ชินวัตร คงต้องเริ่มนับหนึ่ง ตั้งแต่ คัดเลือก บุคลากร ทั้ง ครม. คณะที่ปรึกษา และ คณะทำงาน ที่มีความรู้ ความสามารถ และ ทักษะที่ดี เพื่อวางคนให้ตรงกับงานหรือภารกิจที่ได้รับมอบหมาย
คนรุ่นเก่าของพรรค ถึงเวลาต้องอยู่แถว 2 เพื่อดันคนเก่งรุ่นใหม่ มาทำงาน เพื่อดึง ฐานแดงกลับมา ให้มีปรากฏการณ์ แดงอมส้ม เหมือนที่เคยคิดกัน ได้หรือไม่
สิ่งที่สำคัญ คือ ประสบการณ์ของ อดีตนายกเศรษฐา ที่ขึ้นมาแล้ว บัญชาการไม่ได้ ไม่ว่า ครม หรือ แม้กระทั่ง องคาพยพ ข้าราชการประจำ ที่ถูกวางตัวมาตั้งแต่สมัยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นับ 10 ปี แม้กระทั่ง สื่อมวลชน ก็ยังมีภาพของกองเชียร์ลุงเข้มข้นอยู่
ทำให้กระแสดราม่า และ ความเชื่อมั่นต่อ รัฐบาลอดีตนายกเศรษฐา ไม่ดีพอ และ ไม่ได้ใจจากประชาชน เพราะข่าวในเชิงลบที่มีต่อเนื่อง จากเหตุที่หลาย ๆ ฝ่ายรวมทั้ง ครม. ไม่ให้ความสำคัญมากพอ
ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง อยากเห็น ครม. ที่ให้โอกาส คนมีความสามารถ ภาพลักษณ์ดี ไม่มีเด็กฝาก และ วางคนให้ถูกกับงาน เพื่อให้เศรษฐกิจไทย ฟื้นตัวได้โดยเร็วครับ โดยเฉพาะ รมต. และ คณะทำงานที่มากำกับการท่องเที่ยว ขอคนตัวจริง ทำงานจริง และ รู้จริงมานั่งบัญชาการ
หาไม่แล้ว นายกหญิง คงเหนื่อยหนักขึ้นเรื่อย ๆ เพราะผลงานไม่ปรากฏ และ ฐานประชาชน คงถูก ชาวส้มกลืนไปเรื่อย ๆ จนไม่สามารถกู้ศรัทธาของพรรคกลับมาพร้อมสู้เลือกตั้งคราวหน้าได้แน่นอน