วันที่ 16 ส.ค. 2567 ที่ Voice Space ถ.วิภาวดี อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้เข้ามาลุ้นผลโหวตนายกรัฐมนตรี คนที่ 31 ซึ่งที่ประชุมสภาให้ความเห็นชอบเป็นนายกรัฐมนตรี ด้วยคะแนน 319 คะแนน ไม่เห็นชอบ145 คะแนน งดออกเสียง 27 คะแนน
นางสาวแพทองธาร แถลงเปิดใจว่า วันนี้ต้องขอขอบพระคุณเสียงโหวตจากตัวแทนประชาชนทุกท่าน ตนและทีมคิดว่า เราจะทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่อะไรก็ตามที่ได้รับมอบหมาย
และขอขอบคุณนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ทำงานหนักมาโดยตลอด เกือบ 1 ปีเต็ม และเราทุกคนก็พร้อมที่จะทำงานหนักเพื่อพี่น้องประชาชนต่อไป
“ขอให้มีการโปรดเกล้าฯ ลงมาก่อน แล้วจะพูดเรื่องการบริหารอีกครั้ง และวันนี้ตั้งใจจะมาขอบคุณคะแนนโหวตมากกว่า ตอนนี้รู้สึกตื่นเต้น ปกติเวลาที่จะมาพูดหน้าไมโครโฟน จะไม่รู้สึกตื่นเต้น แต่วันนี้รู้สึกตื่นเต้นจริงๆ”
เมื่อถามว่าคนที่แสดงความยินดีคนแรกคือใคร นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า เมื่อสักครู่ตนอยู่กับสามี พี่ชาย และ พี่สาว และได้มีการเฟซไทม์คุยกับ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ท่านบอกว่าเมื่อได้รับโปรดเกล้าฯ แล้วก็ขอให้ทำให้เต็มที่ รวมถึงมีการแซวว่า ดีใจที่มีหวังว่าจะได้เห็นลูกสาวได้รับตำแหน่งก่อนที่ท่านจะได้เป็นอัลไซเมอร์ เพราะท่านอายุมากแล้ว ซึ่งเป็นการพูดกันเล่นๆ และท่านก็เป็นกำลังใจให้เสมอ ส่วนคุณแม่ก็เป็นห่วงบ่อย ท่านก็โทรมาถามว่าทานข้าวหรือยัง ตอนนั้นกำลังทานข้าวอยู่ ท่านก็ทราบ จึงบอกคุณแม่ว่าจะดูแลตัวเองให้ดี
เมื่อถามว่ารู้สึกกดดันกับตำแหน่งที่จะได้รับหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า “เราสามารถจัดการกับความกดดันได้ ส่วนมายด์เซ็ตที่เข้ามาทำงานทางการเมือง ไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนที่ดีที่สุด เก่งที่สุดในห้อง มีแต่คิดเสมอว่าเรามีแรงผลักดันที่ชัดเจน และมีทีมที่ดี มีความเข้มแข็ง มีความคิดไปในทิศทางเดียวกับเรา ถือว่าเรามีความโชคดีตรงนี้ และคิดว่าไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งตรงไหนก็ตาม เมื่อเรามีทีมที่ดีเราก็จะประสบความสำเร็จได้”
เมื่อถามว่าสนใจควบรมว.กระทรวงกลาโหมเองหรือไม่ แพทองธาร กล่าวว่า ขอรอโปรดเกล้าฯ ก่อน แล้วค่อยมาพูดคุยกันตรงนั้น เพราะยังไม่อยากลงรายละเอียดในเรื่องคณะรัฐมนตรี และวันนี้มาพูดในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย
เมื่อถามว่ารู้สึกอย่างไรกับกรณีที่นายเศรษฐา หลุดจากตำแหน่ง น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า กล่าวว่า ตอนนั้นตนอยู่บนเครื่องบินกำลังเดินทางกลับมาจากประเทศจีน เมื่อได้ทราบข่าวก็รู้สึกเสียใจ และเมื่อกลับมาถึงประเทศไทยได้มีการพูดคุยกับนายเศรษฐา ครอบครัว
รวมถึงคนในพรรคว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องทำอะไรสักอย่างให้กับประเทศ พรรค แล้วหวังว่าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ประเทศสามารถเดินหน้าไปได้ ทำให้ประชาชนมั่นใจ สร้างโอกาส และยกระดับคุณภาพชีวิต นี่คือสิ่งที่ตนพยายามจะทำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนนางสาวแพทองธาร จะแถลงข่าว ได้ทักทายบรรดาแกนนำ และสส.ของพรรค ที่ตั้งแถวรอต้อนรับและปรบมือให้กำลังใจ โดยแพทองธาร ได้เข้าสวมกอดสส.หลายคน ด้วยอาการตื่นเต้นดีใจ น้ำตาคลอเบ้า