วันนี้ (วันที่ 28 สิงหาคม 2567) บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของไทยที่มุ่งเน้นตอบสนองไลฟ์สไตล์แบบครบวงจร เตรียมสร้างปรากฏการณ์ระดับโลก
กับการรวมห้องอาหารและคาเฟ่ชั้นนำบนรูฟท็อปมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ให้กับกรุงเทพฯ ที่ “EA” Rooftop at The Empire (เอ-ญ่า รูฟทอป แอท ดิ เอ็มไพร์) สร้างจุดหมายปลายทางไลฟ์สไตล์รูฟทอปที่ใหญ่และสูงที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ
รวมทั้งหมด 6 ชั้นกับรูฟ ทอปของ “เอ็มไพร์” ครอบคลุมพื้นที่รวมกว่า 10,000 ตร.ม. รวมพื้นที่รูฟท็อปกลางแจ้งกว่า 2,500 ตร.ม. ที่จะเปิดให้บริการคนไทย นักท่องเที่ยวและนักชิมจากทั่วโลกให้ได้มาสัมผัสกับประสบการณ์สุดพิเศษ
ด้วยวิวเส้นขอบฟ้าของกรุงเทพและคุ้งน้ำเจ้าพระยาอันงดงามทั้งกลางวันและกลางคืนแบบ 360 องศา ภายใต้แนวคิด “Celebrating The World’s Newest Horizon” โดยมีหลากหลายห้องอาหารและคาเฟ่ชั้นนำ
เริ่มตั้งแต่ ชั้น 55 ที่ “EA Gallery” (เอ-ญ่า แกลลอรี) กับแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ร้านอาหารและคาเฟ่กับทัศนียภาพที่ดีที่สุดของกรุงเทพฯ จาก
สัมผัสความหรูหราจาก 3 เชฟระดับมิชลินสตาร์ ที่ “EA CHEF'S TABLE” (เอ-ญ่า เชฟ เทเบิล) ณ ชั้น 56 กับ
พร้อมไฮไลท์ด้วยห้องอาหาร “Nobu Bangkok” (โนบุ แบงค๊อก) ห้องอาหาร Nobu ที่สูงที่สุดในโลก ครอบคลุมพื้นที่กว่า 3 ชั้นไปจนถึง “Nobu Rooftop Bar” ชั้นดาดฟ้า นำเสนออาหารญี่ปุ่นร่วมสมัยโดยเชฟโนบุ มัตสึฮิสะ (Chef Nobu Matsuhisa) พร้อมการตกแต่งด้วยศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์
โครงการ “EA” นับเป็นการรวมประสบการณ์พิเศษหลากหลาย สร้าง "เอ็มไพร์" สู่การเป็นไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่นชั้นนำของกรุงเทพฯ กับหนึ่งในจุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์บนรูฟท็อปที่ใหญ่และสูงที่สุดใจกลางเมือง บนพื้นที่ย่านธุรกิจสำคัญของสาทร
พร้อมรองรับทุกกิจกรรมอีเว้นท์ระดับโลก ด้วยการออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ควบคู่กับทัศนียภาพอันงดงามของกรุงเทพฯ ที่จะช่วยเพิ่มความประทับใจให้กับทุกช่วงเวลาสำคัญ
ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงานสุดพิเศษ งานปาร์ตี้ส่วนตัว หรือการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ โดยโครงการ “EA” เตรียมเปิดตัวอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 18 กันยายนนี้เป็นต้นไป
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC กล่าวย้ำถึงความสำคัญของโครงการนี้ว่า AWC รู้สึกตื่นเต้นที่จะได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และการท่องเที่ยวของประเทศไทย
ผ่านโครงการพิเศษระดับโลกที่ ‘EA’ รวมหลากหลายประสบการณ์การเป็นเดสติเนชั่นด้านอาหารและเครื่องดื่มบนรูฟท็อป (F&B Rooftop Destination) ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท
พร้อมสร้าง “เอ็มไพร์” ให้เป็นทั้งอาคารสำนักงานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยไปพร้อมกับการเป็นจุดหมายปลายทางรีเทลไลฟ์สไตล์ระดับโลก ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรจากแบรนด์คาเฟ่ บาร์ และร้านอาหารมากมาย เพื่อนำประสบการณ์อาหารที่ได้รับความนิยมที่สุดของโลก
อาทิ อาหารไทย จีน ญี่ปุ่น และอิตาเลียน ที่สร้างสรรค์โดยเชฟระดับเวิร์ลคลาสมาไว้ในที่เดียว ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า ‘EA’ จะเป็นหนึ่งในไฮไลท์ที่จะเติมเต็มประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือนกรุงเทพฯ
พร้อมเติมเต็มแนวคิด Co-Living Collective: Empower Future ของอาคาร "เอ็มไพร์" และร่วมสนับสนุนให้ประเทศไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางไลฟ์สไตล์รูฟทอปด้านอาหาร เครื่องดื่ม และการท่องเที่ยวในระดับสากลอย่างยั่งยืน
โครงการนี้จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้ตึกเอ็มไพร์ บนพื้นที่ของอาคารทั้งหมดซึ่งอยู่ที่ 3 แสนตารางเมตร และสร้างประสบการณ์ใหม่ด้านคลูซีนที่จะเป็นสร้างเป็นเดสติเนชั่นที่เป็นจุดแข็งของเมืองไทย
นอกจากนี้มีแผนจะสร้างบริการด้านเวลเนส และเวลเนสคลูซีน คาดว่าจะเปิดให้บริการในไตรมาส 2 ปีหน้า เรามุ่งที่จะพัฒนาเอ็มไพร์ เพื่อสร้างประสบการณ์ให้ผู้เช่ารู้สึกเหมือนบ้าน ซึ่งล่าสุดก็ได้เปิดพื้นที่โคลิฟวิ่งสเปซไป โดยตอนนี้มีผู้เช่าสำนักงานแล้ว 70% ยังเหลือพื้นที่อีก 4 หมื่นตารางเมตร ที่จะดึงผู้เช่ารายใหม่เข้ามา
“EA Gallery” ตั้งอยู่บนชั้น 55 ของ “เอ็มไพร์” เปิดให้บริการตั้งแต่ต้นปี และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากมาย นำเสนอความหลากหลายของอาหาร เครื่องดื่ม และความบันเทิงจากร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ที่มีวิวมุมสูงของกรุงเทพฯ ประกอบไปด้วย
ห้องอาหาร “Le Du Kaan” (ร้านฤดูกาล) โดยเชฟระดับมิชลินสตาร์อย่าง เชฟต้น ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร ตั้งอยู่ ณ “EA CHEF’S TABLE“ ชั้น 56 โดยถือเป็นห้องอาหารไทยบนรูฟท็อปแห่งแรกของกรุงเทพฯ นำเสนอประสบการณ์ที่ผสมผสานอาหารไทยร่วมสมัยเข้ากับศิลปะการเล่าเรื่องอย่างมีชั้นเชิง
ทำให้ทุกๆ จานเป็นเสมือนการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมอันรุ่มรวยและวัตถุดิบคุณภาพในท้องถิ่นอันโดดเด่นของประเทศไทยที่คัดสรรมาจากชาวนาและชาวประมงไทยโดยตรง นำเสนอผ่านรสชาติแบบไทยร่วมสมัยและศิลปะการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ พร้อมการตกแต่งอย่างหรูหรากับโซนรับประทานอาหารหลากหลายสไตล์
ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ร้านอาหารแบบสบายๆ บาร์เลานจ์ในร่มสุดชิค อุโมงค์ Eexperience Tunnel และบาร์กลางแจ้งสีสันสดใสกับพื้นที่ระเบียงกลางแจ้งขนาดใหญ่กว่า 835 ตารางเมตร
เติมแต่งฉากหลังอันงดงามด้วยทิวทัศน์ของเมืองและวิวแม่น้ำเจ้าพระยา รังสรรค์เป็นพื้นที่อันสมบูรณ์แบบในการชมพระอาทิตย์ตกดินเหนือกรุงเทพฯ
พร้อมมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารที่หลากหลายที่ผนวกวัฒนธรรมไทยเข้ากับความประณีตและรสนิยมเหนือชั้น สู่การเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ห้องอาหาร “K by Vicky Cheng” ณ “EA CHEF’S TABLE” ชั้น 56 กับห้องอาหารในต่างประเทศแห่งแรกของเชฟระดับมิชลินชาวฮ่องกงอย่างเชฟวิคกี้ เชง (Vicky Cheng)
มอบประสบการณ์การรับประทานอาหารจีนร่วมสมัยที่ไม่มีใครเหมือน ด้วยการนำเสนอเมนูอาหารจีนรูปแบบใหม่ผ่านการผสมผสานรสชาติแบบดั้งเดิมเข้ากับเทคนิคการทำอาหารแบบฝรั่งเศส
ผนวกกับแนวคิดด้านอาหารที่มีเอกลักษณ์จากแรงบันดาลใจของภูมิปัญญาโบราณของ 24 ภาวะตามปฏิทินจีนที่ผสมผสานอาหารจีนร่วมสมัยเข้ากับการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล
เพื่อดึงความโดดเด่นของวัตถุดิบที่ดีที่สุดในแต่ฤดู สะท้อนการผสมผสานระหว่างประเพณีและนวัตกรรมผ่านวัตถุดิบท้องถิ่นที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน
ภายในห้องอาหารได้รับการออกแบบอย่างลงตัวระหว่างดีไซน์ร่วมสมัยกับมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ผ่านโทนสีแดงเบอร์กันดีเข้มและศิลปะแบบจีนสะดุดตา สะท้อนถึงความเคารพต่ออดีตและการโอบรับปัจจุบัน
รวมถึงลวดลายกิเลนซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอายุที่ยืนยาวและความมั่งคั่ง เสริมให้ภายในห้องอาหารโดดเด่นและรุ่มรวยด้วยวัฒนธรรมยิ่งขึ้น พร้อมทัศนียภาพงดงามของกรุงเทพฯ
สร้างบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบสำหรับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่น่าจดจำ เคียงคู่เมนูอาหารที่ยกระดับสู่ความเป็นนานาชาติเป็นครั้งแรกของเชฟวิคกี้ เชง
Sartoria by Paulo Airaudo ตั้งอยู่ ณ “EA CHEF’S TABLE” ชั้น 56 นำเสนอนิยามใหม่ของเมนูอาหารอิตาเลียนคลาสสิกร่วมสมัยกับเมนูสุดพิเศษที่ได้รับการรังสรรค์ขึ้นอย่างพิถีพิถัน
โดยเชฟระดับมิชลินอย่าง เชฟเปาโล อายราวโด (Paulo Airaudo) ที่กลั่นกรองออกมาจากประสบการณ์เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกร่วมและความลุ่มลึกให้กับแขกผู้มาเยือน
นำเสนอประสบการณ์หรูหราเหนือระดับกับโลกของอาหารอิตาเลียนไฟน์ไดนิ่งชั้นสูง ผ่านการผสมผสานความอุดมสมบูรณ์แบบอิตาเลียนคลาสสิกในบรรยากาศอันรุ่มรวย พร้อมเมนูชั้นเลิศที่นำเสนอรสชาติอิตาเลียนแบบดั้งเดิมผ่านการตีความแบบร่วมสมัย จากวัตถุดิบที่ดีที่สุดตามฤดูกาลในแต่ละช่วงซึ่งคัดสรรมาจากผู้ผลิตท้องถิ่นในประเทศไทย
พร้อมเชื้อเชิญให้แขกได้ชมศิลปะการทำอาหารอย่างใกล้ชิดผ่านครัวแบบเปิด กับประสบการณ์การรับประทานอาหารที่มีเอกลักษณ์ผ่านการผสานเมนูอาหารชั้นเลิศ ศิลปะการทำอาหารชั้นสูง และทัศนียภาพอันงดงามยามค่ำคืน
โดยมีฉากหลังอันสมบูรณ์แบบเพื่อเติมเต็มช่วงเวลาสุดพิเศษของการรับประทานอาหารท่ามกลางวิวพาโนรามาที่งดงามของกรุงเทพฯ บน “เอ็มไพร์”
ห้องอาหาร “Nobu Bangkok” มีทั้งหมด 3 ชั้น รวมถึงชั้นดาดฟ้าของ “เอ็มไพร์” นำเสนอประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ผสานศิลปะการทำอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเข้ากับอิทธิพลด้านอาหารจากเปรู
โดยเชฟระดับตำนานอย่างเชฟโนบุ มัตสึฮิสะ ถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ควรค่าแก่การมาเยือนในฐานะห้องอาหารโนบุแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย และเป็นห้องอาหารโนบุที่สูงที่สุดในโลก ด้วยวิวพาโนรามาอันงดงามของกรุงเทพฯ ทั้งกลางวันและกลางคืน ที่จะมอบประสบการณ์การรับประทานอาหารอันน่า
ประทับใจเหนือระดับให้กับผู้มาเยือน ด้วยการบริการชั้นเลิศและเมนูอาหารอันเป็นเอกลักษณ์ ที่เชฟโนบุได้รังสรรค์เมนูอันโดดเด่นผ่านทักษะความเป็นเลิศด้านการทำอาหาร ช่วยสร้างสรรค์ช่วงเวลาอันน่าจดจำให้กับมื้อสำคัญ หรือค่ำคืนอันน่าประทับใจ กับประสบการณ์สุดพิเศษที่จะยังคงอยู่ในความทรงจำของผู้มาเยือนไปอีกยาวนาน
“Nobu Bangkok” ได้รับการออกแบบอย่างงดงามโดยบริษัทออกแบบระดับโลก Rockwell Group ด้วยแรงบันดาลใจจากสุนทรียะศิลปะแบบไทยและญี่ปุ่นที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัว สะท้อนถึงวัฒนธรรมอันมีชีวิตชีวาของกรุงเทพฯ
ด้วยโทนสีทองและงานแกะสลักสุดวิจิตรจากแรงบันดาลใจของวัดไทยสู่ความเรียบหรูในแบบฉบับญี่ปุ่นที่ถ่ายทอดจิตวิญญาณของแบรนด์โนบุออกมาผ่านทุกองค์ประกอบได้อย่างพิถีพิถัน นำเสนอประสบการณ์
ตั้งแต่การรับประทานอาหารอย่างเป็นส่วนตัวภายใต้บรรยากาศที่ได้รับแรงบันดาลใจจากห้องชาญี่ปุ่นและไทย พื้นที่ระเบียงกลางแจ้งสำหรับจัดอีเว้นท์ บาร์ซูชิหินอ่อนอันงดงามและเพดานกระจกสุดตระการตา
ในขณะที่รูฟทอปชั้นดาดฟ้าได้รับการเนรมิตให้เป็น “Nobu Rooftop Bar” พร้อมสะกดทุกสายตาด้วยอินฟินิตี้พูลและประติมากรรมทรงโค้งขนาดใหญ่ เพื่อมอบประสบการณ์ที่น่าจดจำในทุกๆ ชั้น
“EA” ไม่เป็นแค่เพียงการรวมตัวของห้องอาหารและคาเฟ่ชั้นนำ แต่ยังเป็นการสร้างจุดหมายปลายทางด้านอาหารและเครื่องดื่มแห่งใหม่ล่าสุดของ “เอ็มไพร์” ในฐานะผู้นำด้านไลฟ์สไตล์เดสติเนชั่นของกรุงเทพ
ที่ซึ่งวิถีชีวิตด้านการทำงาน สมัยใหม่ และการพักผ่อนหย่อนใจได้มาบรรจบกันอย่างลงตัว บนทำเลที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ใจกลางย่านธุรกิจสำคัญที่รายล้อมไปด้วยบริษัทชั้นนำระดับโลก
ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกล้ำสมัยและวิวเมืองอันงดงามแบบพาโนรามา ที่พร้อมดึงดูดคนทำงานสมัยใหม่และองค์กรชั้นนำระดับโลก รวมถึงนักเดินทางและนักชิมมาสู่ “เอ็มไพร์”
พร้อมเติมเต็มแนวคิด Co-Living Collective: Empower Future ให้กับอาคารสำนักงานแบบไลฟ์สไตล์ระดับแฟลกชิปของ AWC เพื่อร่วมสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับธุรกิจอาคารสำนักงานของประเทศไทย และสนับสนุนกรุงเทพฯ ในฐานะเมืองหลวงชั้นนำระดับโลก