นายอนุพงษ์ เกรียงไกรลิปิกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสิร์ชเอ็นจินอ็อปทิไมเซซั่น จำกัด ผู้ก่อตั้งโกเธอร์ (Gother) เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการยกระดับการใช้งานแพลตฟอร์มเพิ่มมากขึ้น
โดยการเชื่อมโยงกับแอปพลิเคชัน K PLUS, Krungthai Next และแอปเป๋าตัง ให้ลูกค้าสามารถจองทริปการเดินทางและทำธุรกรรมทางการเงินได้อย่างสะดวกสบาย จากการสนับสนุนจากสองบริษัทด้านการเงิน บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล และกรุงไทย เวนเจอร์ส ผ่านการลงทุน
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีอัตราการเติบโตถึง 44% ในปี 2566 ที่ผ่านมา อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้ให้กับประเทศไทย การใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติและนักท่องเที่ยวในประเทศเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจทั้งระดับชาติ และท้องถิ่น
อย่างไรก็ดี ยิ่งการท่องเที่ยวไทยแข็งแกร่งมากเท่าไร จะเป็นการสร้างาน สร้างอาชีพให้กับคนไทย และกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนได้มากยิ่งขึ้น บริษัทจึงได้กระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยใช้เทคโนโลยีในการวิเคราะห์ไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของคนไทย และสร้างไอเดียการท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนให้มากที่สุด
ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจของ โกเธอร์ ในช่วง 5 ปี ข้างหน้า บริษัทมีแผนเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เพื่อนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในการพัฒนาต่อยอดธุรกิจ เพื่อให้เข้าถึงและเข้าใจผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น BIG DATA, AI, และ Blockchain เพื่อยกระดับแพลตฟอร์มโกเธอร์ สู่การเป็นแพลตฟอร์มจองท่องเที่ยวที่ที่เข้าถึงคนทุกไลฟ์สไตล์
นายธนพงษ์ ณ ระนอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีคอน เวนเจอร์ แคปิทัล จำกัด (บีคอน วีซี) กล่าวว่า บริษัทได้เข้าร่วมลงทุนเพราะเล็งเห็นถึงศักยภาพของโกเธอร์ในด้านเทคโนโลยีและข้อมูล ที่จะสามารถต่อยอดธุรกิจของธนาคารกสิกรไทย และช่วยยกระดับบริการให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งตรงกับนโยบายการลงทุน ด้วยการลงทุน และทำงานร่วมกันกับธนาคารกสิกรไทยในการเชื่อมโยง K PLUS กับแพลตฟอร์มโกเธอร์ ผสานจุดแข็งของ K PLUS แพลตฟอร์มโมบายแบงก์กิ้งที่มีผู้ใช้งานกว่า 22.6 ล้านราย กับศักยภาพและความเชี่ยวชาญของทีมงานโกเธอร์
สำหรับการร่วมทุนดังกล่าวนั้น เชื่อว่าจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยในระหว่างการเดินทาง เพิ่มโอกาสให้กับทั้งผู้ประกอบการ ร้านค้า และผู้ให้บริการอื่นๆ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนภาคการท่องเที่ยวให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน
นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ประธานกรรมการ บริษัท กรุงไทย เวนเจอร์ส จำกัด (Krungthai Ventures) บริษัทเงินร่วมลงทุนภายใต้ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า การร่วมลงทุนดังกล่าวสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ และธนาคารกรุงไทย ในการสนับสนุนสตาร์ทอัพ และผู้ประกอบการ SMEs ของไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
รวมถึงตอบโจทย์ลูกค้าธนาคารที่มีไลฟ์ไตล์ชื่นชอบการท่องเที่ยว โดยสร้างประโยชน์ร่วม (Synergy) ต่อยอด Ecosystem ของธนาคารกรุงไทย จากแอปพลิเคชันเป๋าตัง ซึ่งเป็น Thailand Open Digital Platform ที่คนไทยทุกคนเข้าถึงได้ มีผู้ใช้งานกว่า 40 ล้านราย
และแอป Krungthai NEXT ที่มีผู้ใช้งานกว่า 18 ล้านราย แอปถุงเงิน ที่มีผู้ใช้งานกว่า 2 ล้านร้านค้า มาสนับสนุนภาคการท่องเที่ยวของไทย ช่วยให้ธุรกิจที่เกี่ยวช้องทั้งกิจการโรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้าขนาดเล็ก มีรายได้ เกิดการจ้างงานจำนวนมากผลักดันเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน