“สรวงศ์” ดันท่องเที่ยว-Soft Power ปลุกไทยผงาดเสือตัวที่ 5 เอเชีย

07 ต.ค. 2567 | 09:58 น.
อัปเดตล่าสุด :07 ต.ค. 2567 | 14:41 น.

"สรวงศ์" ดันท่องเที่ยว-Soft Power ปลุกไทยผงาดเสือตัวที่ 5 เอเชีย พร้อมประกาศปี 2568 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยว-กีฬา ระดับโลก เลื่อนแข่ง "Moto GP 2025" มาเดือน มี.ค. ต่อด้วยเมดิคอลฮับ และบริการ และ Entertainment Complex

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวใน ASEAN Economic Outlook 2025: The Rise of ASEAN, A Renewing Opportunity ภายใต้หัวข้อ Empowering Thai Power ซึ่งจัดขึ้นโดย กรุงเทพธุรกิจ ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการสร้างโอกาสให้กับประชาชนทุกคน ไม่ใช่แค่รอให้โอกาสมาหา แต่ไทยจะออกไปสร้างโอกาสเหล่านั้น  

 

“Joseph Nye ระบุว่า Soft Power คือ การใช้วัฒนธรรม ค่านิยมทางการเมือง เพื่อเปลี่ยนแปลงความคิดและสังคมของผู้อื่น การใช้ Soft Power ไม่ใช่การบังคับขู่เข็ญ แต่เป็นการโน้มน้าวจิตใจให้คนอื่นยอมรับและปฏิบัติตาม เช่น น้องหมูเด้ง ฮิปโปที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนไทย เป็นตัวอย่างของ Soft Power ที่เกิดขึ้น"

 

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

 

ปัจจุบันไทยใช้ทรัพยากรสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ วัฒนธรรม ค่านิยมทางการเมือง และนโยบายการต่างประเทศ มาใช้เป็นกลไก soft power เพื่อขับเคลื่อนประเทศและสังคมไทยให้ก้าวหน้า

ทำอย่างไรให้ soft power ไปไกลระดับโลก

  • ระยะเวลา: การสร้าง Soft Power ต้องใช้ระยะเวลาอันยาวนานและสม่ำเสมอ สหรัฐอเมริกาใช้เวลา 109 ปี ญี่ปุ่นใช้เวลา 53 ปี และเกาหลีใต้ใช้เวลา 20 ปี ในการสร้างแบรนด์ประเทศและวัฒนธรรมให้เป็นที่รู้จักทั่วโลก
  • กลยุทธ์: ประเทศเหล่านี้ใช้ธุรกิจบันเทิง อาหาร และวัฒนธรรมป๊อปเป็นเครื่องมือในการเผยแพร่ Soft Power โดยเน้นที่การสร้างความบันเทิงและความประทับใจให้กับผู้บริโภคทั่วโลก
  • ตัวอย่าง: ฮอลลีวูด (สหรัฐอเมริกา), อาหารญี่ปุ่น (ญี่ปุ่น), เคป๊อปและซีรีส์เกาหลี (เกาหลีใต้) เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของ Soft Power ที่ประสบความสำเร็จ

“สรวงศ์” ดันท่องเที่ยว-Soft Power ปลุกไทยผงาดเสือตัวที่ 5 เอเชีย

 

สำหรับอันดับ Soft Power ของประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 40 ศักยภาพด้าน Soft Power ของไทยยังสามารถเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากในอดีตประเทศไทยเคยเป็นหนึ่งในเสือเศรษฐกิจของเอเชีย (เสือตัวที่ 5) แต่ปัจจุบันกลับมีอันดับลดลงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ซึ่งมองว่าประเทศที่ประสบความสำเร็จมักมีจุดขายที่แตกต่างและโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์

ตัวอย่างประเทศต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จในการใช้ Soft Power สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ อาทิ สหรัฐอเมริกา ซึ่งอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฮอลลีวูดสร้างรายได้ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และส่งออกคอนเทนต์ได้ 1.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

 

ประเทศจีนมีอุตสาหกรรมภาพยนตร์สร้างรายได้ 1 ล้านล้านบาทต่อปี ประเทศญี่ปุ่นมีอุตสาหกรรมการ์ตูนสร้างรายได้ 6.7 แสนล้านเยน และประเทศเยอรมนีมีเทศกาลเบียร์ที่สร้างรายได้มหาศาลให้กับประเทศ

 

ถ้ามองในตลาดเอเชียน ปัจจุบันประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 3 รองจากสิงคโปร์ ซึ่งเป็นผู้นำด้านการจัดงานระดับโลก สิงคโปร์ประสบความสำเร็จในการดึงดูดอีเวนต์ระดับนานาชาติเข้ามาในประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไทยพยายามผลักดันให้เกิดขึ้นในประเทศไทยเช่นกัน โดยเฉพาะในส่วนของอุตสาหกรรมบันเทิง

 

ผมขอยืนยันว่า entertainment complex ไม่ได้เป็นเพียงแค่บ่อนกาสิโน แต่เป็นโครงการที่ครอบคลุมและมีศักยภาพในการสร้างประโยชน์ให้กับประเทศอย่างมหาศาล

การลงทุนในโครงการนี้จะนำมาซึ่งเม็ดเงินจำนวนมากและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับภาคเอกชน ผมในฐานะหนึ่งในกรรมาธิการที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาโครงการนี้ ขอให้ภาคเอกชนทุกท่านร่วมกันสนับสนุนโครงการนี้

 

ส่วนภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทยถือเป็น Soft Power ที่แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับในระดับโลก ด้วยศักยภาพและความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยวที่มี ทำให้มั่นใจได้ว่าจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาประเทศไทยได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ 35 ล้านคนภายในปีนี้ อย่างแน่นอน โดยเฉพาะในช่วงไฮซีซั่นที่เหลืออีกประมาณ 3-4 เดือนข้างหน้า

 

ตัวเลขนักท่องเที่ยวในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาสูงถึง 26 ล้านคนแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังและรับมือกับสถานการณ์ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในภาคเหนือ รวมถึงดำเนินมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมากขึ้น และที่สำคัญคือกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวที่สูงขึ้นด้วย

 

“สรวงศ์” ดันท่องเที่ยว-Soft Power ปลุกไทยผงาดเสือตัวที่ 5 เอเชีย

 

Soft Power ของไทย รัฐบาลนี้จะมุ่งเน้นไปที่ 11 สายงาน อาทิ เทศกาลหนังสือ เทศกาล การท่องเที่ยว ดนตรี เกมส์ กีฬา การออกแบบ ภาพยนตร์ และแฟชั่น และอีกสิ่งที่ให้ความสำคัญคือการลงทุนอีสปอร์ต เพราะพบว่าเป็นธุรกิจที่สร้างเม็ดเงินถึงในระดับ 3.8 พันล้านบาท ซึ่งเชื่อว่าจะดึงดูดเม็ดเงินเข้าไทยได้ โดยปีหน้าไทยจะเป็นเจ้าภาพของการจัดแข่งขันอีสปอร์ต หลายอีเวนท์ด้วยกัน

 

สำหรับเรื่องเมดิคอลฮับและบริการ ถือเป็นจุดเด่นที่ดีของไทย เช่นเดียวกับอาหารฮาลาล น่าจะเป็นจุดขายที่ดีสร้างรายได้เข้าประเทศไทยได้ เพราะตอนนี้ไทยก็ถือเป็นครัวของโลก ดังนั้นไทยต้องให้ความสำคัญกับอาหารฮาลาลให้มากขึ้น จะเป็นอีกสิ่งที่สร้างโอกาสให้กับเศรษฐกิจไทย 

 

นอกจากนี้คนไทยทุกคนต้องมีการฝึกฝนเพื่อช่วยกันต่อยอด Soft Power ของไทยให้ขยายตัวต่อไปได้ เช่น การเตรียมทักษะแรงงาน 1 ครอบครัว 1 Soft Power ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องอาหาร กีฬา รวมถึงต้องมีการปรับปรุงกฎหมาย กฎระเบียบข้อบังคับต่างๆต้องลดลง เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนา การสนับสนุนเงินทุนจากภาครัฐ โดยรัฐบาลสนับสนุนเต็มที่แล้ว รวมถึงการทำการตลาดโปรโมทเพื่อขายสินค้า เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกัน  

 

“สรวงศ์” ดันท่องเที่ยว-Soft Power ปลุกไทยผงาดเสือตัวที่ 5 เอเชีย

 

ในปี 2568 ประเทศไทยจะประกาศให้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวระดับโลก หรือ Thailand Grand Tourism Year 2025 โดยจะมีการจัดกิจกรรมระดับนานาชาติและโครงการใหญ่ ๆ มากมาย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ รวมถึงการจัดการแข่งขันระดับโลก Moto GP 2025 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ และการเปิดสนามแข่งขัน Moto GP ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในเดือนมีนาคม 2568

 

อย่างไรก็ตามการขับเคลื่อนกิจกรรมเหล่านี้จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากภาคเอกชนเป็นหลัก รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนและอำนวยความสะดวก เพื่อร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทยกลับมาเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจของภูมิภาคอาเซียนอีกครั้ง