ททท.อัดสารพัดแคมเปญ ปั๊มท่องเที่ยวโค้งท้ายปี ปีหน้าดันรายได้ 3.25 ล้านล้าน

20 ต.ค. 2567 | 03:29 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ต.ค. 2567 | 03:44 น.

การสื่อสารการตลาดของททท.ในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้า จะเป็นไปอย่างเข้มข้น ภายใต้ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sport” เพื่อขับเคลื่อนรายได้ท่องเที่ยว 3.25 ล้านล้านบาทในปี 2568 “นิธี สีแพร” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีคำตอบ

รองนิธี เปิดใจถึงแผนการสื่อสารการตลาดของททท.ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ (ตุลาคม-ธันวาคม 2567) ต่อเนื่องไปถึงปี 2568 ททท.มีเป้าหมายเพิ่มวันพักเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวไทย จาก 2.5 วัน มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 3,000 บาทต่อทริป เป็น 3 วัน เพิ่มการใช้จ่ายเฉลี่ยเป็น 3,500 บาท-4,000 บาท ซึ่งรายได้รวมของการเดินทางเที่ยวในประเทศล่าสุดในปีนี้อยู่ที่ 7.68 แสนล้านบาทแล้ว ตลอดทั้งปีนี้น่าจะสร้างรายได้อยู่ที่ 9.5-9.7 แสนล้านบาท

นิธี สีแพร” รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท.

ขณะที่มีการเดินทางเที่ยวในประเทศแล้ว 200 ล้านคน-ครั้ง ซึ่งในแง่ของจำนวนถือว่าถึงเป้าหมายไปแล้ว จากที่ตั้งไว้ว่าตลอดทั้งปีนี้จะการเดินทางเที่ยวในประเทศ 200 ล้านคน-ครั้ง ดังนั้นในปีนี้มีลุ้นการเดินทางเที่ยวในประเทศได้ถึง 230 ล้านคน-ครั้ง สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 10%

อย่างไรก็ตามแม้จะมีปัจจัยเรื่องสภาพเศรษฐกิจภายในประเทศ หนี้ครัวเรือน น้ำท่วมในบางพื้นที่ จะเป็นปัจจัยท้าทาย แต่ททท.ก็จะดำเนินการออกแคมเปญและกิจกรรมต่างๆอย่างต่อเนื่อง

ที้งนี้เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวในช่วงโค้งท้าย ขับเคลื่อนรายได้จากการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศตลอดทั้งปีนี้ให้ได้ใกล้เคียงกับเป้าหมาย 1 ล้านล้านบาท ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรม winter Festival ในช่วงปลายปี อย่างลอยกระทง วิจิตรเจ้าพระยา การร่วมกับภาคเอกชน จัดโปรโมชั่นต่างๆ การจัดอีเว้นท์ ด้านกีฬา เทศกาลดนตรี เทศกาลประเพณีต่างๆ ทั่วไทย อย่าง ประเพณีแห่ดาว จ.ยโสธร ประเพณีไหลเรือไฟ จ.นครพนม

นอกจากนี้ททท.ยังจะจัดแคมเปญย่อยๆออกมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น แคมเปญ “สุขท้าลอง 72 สไตล์” โดยจัดทำ E-book สุขท้าลอง 72 สไตล์ ที่คัดสรรค์เอกลักษณ์ต่างๆ ของเมืองไทย นำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวที่สร้างจุดขายมุมมองใหม่ 72 เส้นทาง 72 สไตล์ จากเมืองน่าเที่ยวทั่วไทย

พร้อมเช็คลิสต์ 5 สิ่งที่ต้อง “ลอง” ในแต่ละเส้นทางตามแนวคิด 5 MUST DO IN THAILAND ได้แก่ อิ่มอร่อยอาหารจานเด็ด (Must Taste) สุดยอดกีฬาท้าทายกายใจ (Must Try) ของกินของฝากล้ำค่าน่าซื้อหา (Must Buy) แหล่งท่องเที่ยว Unseen ถิ่นน่าเที่ยว (Must Seek) และ ละลานตาการแสดงวัฒนธรรม (Must See)

ททท.อัดสารพัดแคมเปญ ปั๊มท่องเที่ยวโค้งท้ายปี ปีหน้าดันรายได้ 3.25 ล้านล้าน

พร้อมเชิญ 5KOLs ตัวท็อปในแต่ละวงการมาร่วมทำTravel Vlog นำเสนอ 5 เส้นทางท่องเที่ยวตามสไตล์ของตนเอง อาทิ มาริโอ้ ,เอแคลร์-จือปาก เพื่อสร้างแรงบันดาลใจการเดินทางท่องเที่ยว

การจับกระแสตามรอยภาพยนตร์ อย่าง เที่ยวตามรอยหนังธี่หยด2” เที่ยวอุตรดิตถ์ การตามรอยหมีเนย เที่ยวไทย ซึ่งหนีเนย จะพาเที่ยวรอบกรุง เที่ยวกรุงเก่า

เที่ยวตามรอยหนัง ธี่หยด2

การทำแคมเปญกระตุ้นการเดินทาง ผ่านการจับกระแสฮิปโปโปเตมัสแคระ น้อง “หมูเด้ง” ที่กำลังได้รับความนิยมมากทั้งในกลุ่มคนไทยและชาวต่างชาติ เพื่อเป็นการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศอย่างต่อเนื่อง

หมูเด้ง

โดยจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวระหว่างทางจาก 5 ภูมิภาค 5 เส้นทางทั่วประเทศ เพื่อไปหาน้องหมูเด้ง เน้นแนะนำแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจระหว่างทาง ส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชื่อมโยงข้ามภูมิภาคให้มากขึ้นในแบบ 3 วัน 2 คืน

เที่ยวตามรอย "หมูเด้ง"

การจัดแคมเปญและกิจกรรมท่องเที่ยว อย่างต่อเนื่องจะช่วยโน้มน้าวให้คนไทยเลือกที่จะเดินทางเที่ยวในประเทศ กระตุ้นให้เห็นว่าคนไทยจะมีความสุขทันที ที่เที่ยวไทย ตอกย้ำให้เห็นว่าการท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต และการได้เที่ยวกับคนที่เรารัก ก็เป็นความสุขที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือก จากแนวโน้มที่จะเห็นว่าคนไทยเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น

การสื่อสารการตลาดของททท.ยังจะเน้นการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น โดยเตรียมจะเปิดตัวแคมเปญ “สุขทันที ที่เมืองรอง” โดยมีการเผยแพร่ข้อมูลการท่องเที่ยวและ 5 MUST DO IN THAILAND ในทั้ง 55 จังหวัดเมืองรองด้วย ผ่าน www.เมืองน่าเที่ยว.com ซึ่งสัดส่วนนักท่องเที่ยวระหว่างเมืองหลักและเมืองรองจะอยู่ที่ 70 : 30

การจะเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวสู่เมืองรอง จะต้องทำให้เมืองรองเป็นหลัก กระจายรายได้สู่เมืองรอง การพัฒนาเชิงกายภาพ สิ่งอำนวยความสะดวกในการเข้าถึง ซึ่งนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อยากให้เอกชนมาเป็นตัวนำ สร้างอีเว้นท์ 1-2 ปี ในเมืองรอง เพื่อดึงดีมานต์

สำหรับการสื่อสารการตลาดในปีหน้า ภาพใหญ่จะเป็น “Amazing Thailand Grand Tourism & Sport” ซึ่งจะไม่ใช่แค่แคมเปญ แต่ยังเป็นวิสัยทัศน์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในปีหน้าด้วย ที่จะมีทั้งหมด 5 เรื่อง ภายใต้แนวคิด 5 Grand ได้แก่ 1.Grand festivity 2.grand privilege 3.grand celebration 4.grand moment และ 5.grand invitation สำคัญสุดคือ grand collaboration ความร่วมมือบูรณาการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ดังนั้นในปีหน้าจะเห็นการเฉลิมฉลอง การจัดงานระดับเวิล์ดอีเว้นท์ อาทิ การเป็นเข้าภาพซีเกมส์ของไทย การจัดกอล์ฟ ทัวร์นาเม้นท์ LGPA การส่งมอบประสบการณ์ที่มีคุณค่าให้กับนักท่องเที่ยว โดยในปี 2568 ททท.ตั้งเป้านักท่องเที่ยว 40 ล้านคน สร้างรายได้ 3.25 ล้านล้านบาท (นักท่องเที่ยวไทย+นักท่องเที่ยวต่างชาติ) เพิ่มจากเป้าหมายปีนี้ซึ่งอยู่ที่ราว 3 ล้านล้านบาท

โดยททท.ยังคงแคมเปญเที่ยวในประเทศ ก็ยังคงเน้น “สุขทันทีที่เที่ยวไทย” อยู่ แต่จะเน้นลงในรายละเอียดชวนคนที่เรารัก หรือคนสำคัญไปเที่ยว โดยเน้นเจากลุ่มแฟนด้อม, การทำอีเว้นท์ มาร์เก็ตติ้ง ,ฟิล์ม มาร์เก็ตติ้ง

ส่วนแคมเปญสื่อสารตลาดต่างประเทศ จะเป็น “Amazing Thailand Your Story Never End” สร้างสตอรี่เรื่องราวที่ไม่รู้จบของนักท่องเที่ยว เพื่อให้ตอบโจทย์ประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวที่แตกต่างกัน

รวมถึงเน้น การทำตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์ต่างประเทศ อาทิ ลิซ่า ไปลู่ เสียวจ้าน การทำตลาดผ่านแอนนิเมชั่น อาร์ต ทอย การทำตลาดผ่านมูฟวี่ มาร์เก็ตติ้ง โดยเฉพาะผ่านจูราสสิค เวิล์ด ที่เข้ามาถ่ายทำในไทย และผ่านสการ์เลตต์ โจแฮนส์ นักแสดงนำ และ Home Sweet Home เป็นต้น

หน้า 10 ฉบับที่ 4,037 วันที่ 20 - 23 ตุลาคม พ.ศ. 2567